ย้อนกลับไปในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ณ นครหางโจว ประเทศจีน เมื่อราวๆต้นเดือนกันยายน-ปลายเดือนตุลาคมปีก่อน สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ต้องเจอดราม่าคลื่นลูกใหญ่ ซัดกระหน่ำจนเดือดไปทั่วโลกออนไลน์
เนื่องจากแฟนกีฬาต่างไม่พอใจ ทั้งการเจตนาออกสตาร์ทฟาวล์ของ "ต้า" สรอรรถ ดาบบัง ในการวิ่ง 100 เมตรชายรอบชิงชนะเลิศ และการวิ่งไม่เต็มที่ของ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน ในการวิ่ง 200 เมตรชายรอบรองชนะเลิศ
เหตุการณ์ทั้งสอง นักกีฬาต้องทำตามคำสั่งของโค้ช เนื่องจากนักกีฬาได้แจ้งว่ามีอาการบาดเจ็บ ขืนปล่อยให้วิ่งเต็มที่ อาจส่งผลต่อการลุ้นเหรียญทอง ในการวิ่งผลัด 4X100 เมตรชายได้ ซึ่งอีเวนต์นี้ เราถนัดมากที่สุด เนื่องจากเพิ่งคว้าแชมป์เอเชียมาหมาดๆ เมื่อช่วง 2 เดือนก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม พอถึงการแข่งขันวิ่ง 4X100 เมตรชาย ปรากฏว่า ทีมไต้ฝุ่นไทย อันประกอบด้วย (ไม้ 1) "ไฟเตอร์" ณธวรรธ เอี่ยมอุดม, (ไม้ 2) "ต้า" สรอรรถ ดาบบัง, (ไม้ 3) "เฉาก๊วย" ชยุตม์ คงประสิทธิ์ และ (ไม้ 4) "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน เข้าเส้นชัยเพียงอันดับ 4 เท่านั้น ไร้เหรียญรางวัลอย่างเหลือเชื่อ
และสถิติที่เข้าเส้นชัย 39.57 วินาที ไม่โสภาสถาพรเอาเสียเลย ทั้งๆที่ 2 เดือนก่อนหน้านั้น พวกเขาทั้ง 4 เคยทำสถิติได้ 38.55 วินาที ในระหว่างการคว้าแชมป์เอเชียที่บ้านเราเป็นเจ้าภาพ พร้อมทำลายสถิติประเทศไทย และสร้างสถิติศึกชิงแชมป์เอเชียขึ้นมาใหม่อย่างสวยงาม
การไร้เหรียญรางวัลอีเวนต์ 4X100 เมตรชาย ในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 ได้โหมให้กระแสดราม่า มันลุกโชนขึ้นไปอีกจน พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ ต้องรับผิดชอบด้วยการลาออกจากตำแหน่งนายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย หลังนั่งเก้าอี้นี้มานานตั้งแต่ปี พ.ศ.2544 หรือ 22 ปีที่แล้ว
แม้จะโดนโลกออนไลน์โจมตีอย่างหนัก แต่ผู้บริหารสมาคมกีฬากรีฑาฯ กลับไม่ย่อท้อ ยังคงเตรียมทีมต่อเนื่อง เพราะไม่มีเวลาว่างให้หยุดพัก โดยภารกิจสำคัญในปีนี้ นอกจากการเตรียมนักกีฬาให้พร้อม เพื่อล่าเหรียญทองเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทส์เกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในช่วงปลายปีแล้ว ยังต้องเตรียมนักกีฬา เพื่อคว้าโควตาไปแข่งขันโอลิมปิก 2024 "ปารีสเกมส์" ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศสในช่วงกลางปีอีกด้วย
ยิ่งนับวัน สถิติขั้นต่ำในการคัดเลือกไปแข่งขันโอลิมปิกในแต่ละอีเวนต์ ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่นในการวิ่ง 100 เมตรชาย สถิติขั้นต่ำในโอลิมปิกคราวก่อน "โตเกียวเกมส์" ถูกตั้งไว้ที่ 10.05 วินาที แต่ในโอลิมปิก 2024 ที่กำลังจะอุบัติขึ้น ณ ดินแดนน้ำหอม ถูกตั้งไว้ที่ 10.00 วินาที ซึ่งยังไม่เคยมีนักวิ่งไทยคนใด วิ่งกดสถิติได้ต่ำกว่า 10 วิ.มาก่อน ใกล้เคียงสุดคือ ภูริพล บุญสอน ที่ทำสถิติได้ 10.06 วินาที ในระหว่างการวิ่ง 100 เมตรชายรอบรองชนะเลิศ ในเอเชียนเกมส์ครั้งล่าสุด
ในส่วนของอีเวนต์วิ่งผลัด นับว่ายังดี ที่ไม่มีสถิติขั้นต่ำมาเป็นเกณฑ์ในการคัดเลือก แต่การคว้าโควตาไปแข่งขันมหกรรมกีฬาแห่งมวลมนุษยชาติ ก็ยากเย็นแสนเข็ญเช่นกัน โดยกรีฑาโลก (World Athletics) ได้กำหนดให้การแข่งขันวิ่งผลัดอีเวนต์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลัด 4X100 เมตรชาย-หญิง, ผลัด 4X400 เมตรชาย-หญิง และผลัดผสม 4X400 เมตร มีโควตาเพียง 16 ต่ออีเวนต์เท่านั้น
ซึ่งทีมที่ทำผลงานในอันดับ 1-14 ของการแข่งขันผลัดโลก หรือ เวิลด์แอธเลติกส์รีเลย์ 2024 (World Athletics Relays 2024) จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันปารีสเกมส์โดยอัตโนมัติ ส่วนอีก 2 ที่นั่ง จะมาจากทีมที่มีอันดับโลกดีที่สุด (ไม่รวมทีมที่ได้โควตาไปแล้ว)
สำหรับการแข่งขัน ผลัดโลก หรือ เวิลด์แอธเลติกส์รีเลย์ 2024 ซึ่งเป็นสนามแรกของการคัดเลือกอีเวนต์ผลัดไปโอลิมปิก 2024 จะแข่งขันที่กรุงแนสซอ ประเทศบาฮามาส ระหว่างวันที่ 4-5 พฤษภาคม 2024
ด้านสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ได้วางแผนเตรียมส่งทีมผลัด 4X100 เมตรชาย ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นเวลา 1 เดือนเศษ โดยจะออกเดินทางในช่วงเดือนมีนาคม และจะลงแข่งขันที่สหรัฐฯ 3 ทัวร์นาเมนต์ เพื่อเป็นการอุ่นเครื่อง ก่อนจะบินไปลุยศึกผลัดโลก 2024 ที่บาฮามาส ซึ่งอยู่ใกล้กับสหรัฐอเมริกา ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม
แน่นอนว่า นักกีฬาที่จะเดินทางไปชิงชัยในครั้งนี้ จะยึดชุดที่คว้าแชมป์เอเชีย 2023 และอันดับ 4 เอเชียนเกมส์ครั้งที่ 19 เป็นหลัก ประกอบด้วย (ไม้ 1) "ไฟเตอร์" ณธวรรธ เอี่ยมอุดม, (ไม้ 2) “ต้า” สรอรรถ ดาบบัง, (ไม้ 3) "เฉาก๊วย" ชยุตม์ คงประสิทธิ์ และ (ไม้ 4) "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน ส่วนนักกีฬาตัวสำรองอีก 2 คนนั้น จะทำการคัดเลือกในวันที่ 25 มกราคมนี้ เพื่อหาลมกรดหนุ่มที่พร้อมที่สุดอีก 2 คน ติดทีมไปแดนลุงแซมและบาฮามาสด้วย
เชื่อว่าบทเรียนจากความผิดหวังในกีฬาเอเชียนเกมส์ ณ นครหางโจว แดนมังกร จะเป็นแรงผลักดันให้ทีมไต้ฝุ่นแห่งสยามเมืองยิ้ม รีดฟอร์มเก่งออกมาอย่างเต็มที่ แล้วทำผลงานให้ดีที่สุด เพื่อติดอันดับ 1-14 ในศึกผลัดโลกหนนี้ แล้วคว้าโควตาไปลุยกีฬาโอลิมปิก ณ ประเทศฝรั่งเศสให้จงได้
หากเตรียมตัวดี มุ่งมั่นฝึกฝนและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตั๋วลุยโอลิมปิก 2024 คงไม่ไกลเกินเอื้อม