ธนา ไชยประสิทธิ เหรัญญิกและรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เปิดเผยว่า จากที่ประเทศไทยมีความคิดในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมใหญ่คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี เซสชั่น) ที่จะมีขึ้นในปี ค.ศ.2027 นั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ที่ผ่านมา ได้มีการพูดคุยกันเรื่องนี้และตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งเพื่อพิจารณาว่ามีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้างต่อประเทศไทย
นายธนา เผยต่อไปว่า การประชุมไอโอซีเซสชั่นนั้น ถือว่าเป็นการประชุมใหญ่ที่จะมีสมาชิกกว่า 200 ชาติเดินทางมาร่วมประชุม ทำให้เป็นการประชุมที่มีค่าใช้จ่ายสูงมาก แต่ในปีค.ศ.2023 ประเทศไทยนั้นมีการแข่งขันที่ต้องใช้งบประมาณอย่างมาก ทั้งซีเกมส์ ที่กัมพูชา, เอเชียนเกมส์ ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน รวมถึงการเป็นเจ้าภาพเอเชียนอินดอร์และมาร์เชียลอาร์ตเกมส์ ซึ่งเงินที่จะนำมาจัดการแข่งขันเองยังหาได้ไม่ครบเลย ทำให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เองก็กังวลเรื่องนี้อยู่ว่าจะหาเงินจากไหนมาเป็นเจ้าภาพ
"บิ๊กต้อม" กล่าวเสริมว่า อย่างไรก็ตามการประชุมไอโอซีเซสชั่น ยังมีเวลาอีกหลายปี รวมถึงยังสามารถถามไอโอซีได้ว่าจะมีเงินสนับสนุนให้กับประเทศเจ้าภาพเท่าไหร่ ดังนั้นถ้าหากเราสนใจจะเป็นเจ้าภาพ ก็ขึ้นอยู่ว่าจะหางบประมาณในการจัดงานได้แค่ไหน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามต่อว่า ประเทศใดคือคู่แข่งของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ นายธนา กล่าวว่า เท่าที่ดูตอนนี้น่าจะมีแค่อินเดียที่เป็นคู่แข่ง แต่อินเดียก็มีปัญหาภายในของคณะกรรมการโอลิมปิกของตัวเอง ดังนั้นอาจจะถอนตัวไม่ขอเป็นเจ้าภาพก็เป็นได้ ดังนั้นประเทศไทยก็น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี อยู่ที่จะพร้อมจัดหรือไม่เท่านั้น
นอกจากนี้ นายธนา ยังได้กล่าวถึงความคืบหน้าของกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เมืองหางโจว ประเทศจีน ปี 2023 ว่า ทางจีนได้มีการพรีเซนต์งานในการประชุมสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) มา ยืนยันว่าจะจัดการแข่งขันแน่นอน แต่กำลังอยู่ในขั้นตอนคุยกับรัฐบาลให้ผ่อนปรนการกักตัว ซึ่งเดิมทีจาก 14 วันตอนนี้เหลือ 7 วัน แต่เจ้าภาพจะพยายามขอให้ไม่ต้องมีการกักตัวอยู่ ต้องรอดูใกล้ๆ อีกครั้ง ส่วนกำหนดการอื่นๆ ออกมาเกือบครบแล้ว ตั้งแต่ต้นปีหน้าจะเริ่มส่งชื่อนักกีฬารอบแรก