หากพูดถึงนักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ (ร่ายรำ) ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของเมืองไทย หนึ่งในต้องมีชื่อของ "ออมสิน" อรนวีร์ ศรีสหกิจ นักกีฬาเทควันโดพุมเซ่ ทีมชาติไทย วัย 23 ปี ซึ่งกวาดความสำเร็จทั้งในระดับประเทศ และนานาชาติมาแล้วแบบครบถ้วน และถือเป็นอีกหนึ่งนักกีฬาที่จุดประกายทำให้กีฬาชนิดนี้เป็นที่รู้จักและสนใจมากขึ้น จากผลงานคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซีย
แชมป์โลก, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ และเหรียญทองซีเกมส์ ถือเป็นแมตช์การแข่งขันใหญ่ สำหรับกีฬาเทควันโดพุมเซ่ ซึ่ง "ออมสิน" สามารถปลดล็อคและคว้าเกียรติยศทั้ง 3 รายการมาได้แบบครบทั้งหมดแล้ว
"ออมสิน" อรนวีร์ เปิดใจกับทีมข่าวกีฬาสยามว่า ตลอด 8 ปี กับการได้รับโอกาสรับใช้ชาติ ถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตแล้ว ซึ่งในแต่ละครั้งที่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนทีมชาติไทย ก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองอย่างสุดความสามารถเสมอเพื่อเอาชัยชนะกลับมาให้ได้
"ถ้าให้ออมสินเลือกแมตช์ที่ประทับใจ ออมสิน คิดว่ามีอยู่ 2 แมตช์ค่ะ แมตช์แรก คือ การคว้าเหรียญทองชิงแชมป์โลก ปี 2016 ที่ประทับใจ เพราะว่าสำหรับพุมเซ่นั้น รายการนี้คือที่สุดแล้วค่ะ เพราะยากมากๆ ทุกคนทุกชาติมุ่งเป้ามาที่การคว้าแชมป์โลก"
"ส่วนอีกแมตช์ ที่ไม่ลืม ก็คือตอนคว้าเหรียญทองเอเชียนเกมส์ ปี 2018 ที่อินโดนีเซียค่ะ ที่ประทับใจ เพราะว่านอกจากจะเป็นเหรียญทองที่เราได้มาอย่างไม่ได้คาดคิดแล้ว ยังเป็นเหรียญทองแรกของนักกีฬาไทยในมหกรรมดังกล่าวด้วย แล้วมันเหมือนทำให้แฟนกีฬาและคนทั่วๆไป ได้รู้จักเทควันโดพุมเซ่ นอกเหนือจากการแข่งขันประเภทต่อสู้ รวมถึงได้ รู้จักออมสิน แล้วก็น้องๆอีก 2 คน ทั้ง "เจล" เพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล แล้วก็ "ออน" กชวรรณ ชมชื่น ในทีมด้วยค่ะ"
ออมสิน ยังเผยอีกว่า การเป็นนักกีฬาทีมชาติ ทำให้ต้องรู้จักการวางแผนการใช้ชีวิตและบริหารจัดการเวลาเป็นอย่างมาก อย่างตอนที่ซ้อมและแข่งให้ทีมชาติ ตอนนั้นก็เรียนอยู่ด้วย ซึ่งตนก็เลือกเรียน คณะเศรษฐศาสตร์ ที่จุฬาฯ ต้องยอมรับว่าหนักเหมือนกัน เพราะต้องตื่นแต่เช้ามืดมาซ้อมเช้า ซ้อมเสร็จไปเรียน เรียนเสร็จมาซ้อมเย็น และซ้อมเย็นเสร็จ ก็กลับมาเคลียร์งาน แต่จะหนักที่สุดก็คือช่วง 1 เดือนก่อนสอบ ที่ต้องทำแบบนี้วนๆไปทุกวัน
"ช่วงเวลานั้นหนักมากเหมือนกันค่ะ แต่ก็พยายามอย่างเต็มที่ คือ พอผ่านจุดนั้นมาได้ เราเรียนจบแล้ว
เรามามองย้อนกลับไป มันก็ทำให้เราอดภูมิใจได้เหมือนกัน เพราะตอนนั้นเราคิดว่ายากถึงยากที่สุด แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ ซึ่งเวลาเราท้อใจเรื่องไหน แล้วมาย้อนคิดมันก็ทำให้เรารู้สึกมีพลังที่จะฮึดสู้ต่อเหมือนกันค่ะ"
"ครอบครัวคือเซฟโซนที่ช่วยหนูได้ทุกๆเรื่องเหมือนกันค่ะ เวลาหนูรู้สึกชีวิตกำลังดิ่งกำลังแย่ หรือกำลังเผชิญหน้ากับความเครียดและปัญหาอะไรอยู่ ก็จะมีคุณกับคุณแม่คอยหนุนหลังเสมอ เวลาคุยกับพ่อ มันก็จะมีคำพูดหรือประโยคที่ทำให้หนูฟังแล้ว เออใช่เลย แล้วมันหลุดออกมาจากความเครียดเลย แล้วมันก็จะเป็นแบบนี้อยู่บ่อยๆ"
"มีครั้งหนึ่งก่อนลงแข่งขันซีเกมส์ 2019 ที่ฟิลิปปินส์ คือ ก่อนลงสนาม หนูเครียดและกดดันมาก แต่พอได้คุยกับคุณพ่อ เหมือนเราหลุดออกจากความกังวลทั้งหมดนั้นมาเลยค่ะ คือพ่อพูดให้กำลังใจสั้นๆ แล้วคือพอเราลงไปในสนามแล้ว เราทำได้อย่างที่ซ้อม แล้วสุดท้ายทัวร์นาเมนต์นั้น หนูก็ได้เหรียญทองด้วยค่ะ"
นักเทควันโดพุมเซ่สาว ยังเปิดใจถึงปี 2023 ซึ่งลงแข่งในนามทีมชาติ 1 แมตช์ และคว้ามาได้ 1 เหรียญ
ทองแดง ในศึกซีเกมส์ที่กัมพูชา ด้วยว่า ถือเป็นอีกหนึ่งปีที่ตัวเองได้เรียนรู้ข้อบกพร่อง ได้เห็นจุดอ่อนและสิ่งที่ต้องแก้ไขหลายอย่าง แต่สิ่งที่ได้เรียนรู้และตนมองว่าสำคัญมากสำหรับการเป็นนักกีฬา ก็คือ วิธีคิด
"ถ้าเป็นช่วงที่เราได้ลงแข่งขันในนามทีมชาติใหม่ๆ ก็จะคิดตลอดว่า ทุกครั้งทุกแมตช์ที่ลงสนาม เราต้องชนะให้ได้ ซึ่งแมตช์ที่ชนะได้ก็มี แต่ก็มีแมตช์ที่แพ้ด้วย ซึ่งพอเราแพ้กลับมา มันจะมีความรู้สึกแย่ๆมีคำถามกับตัวเองอยู่เสมอ แต่พอเรามีประสบการณ์มากขึ้น โดยเฉพาะปีที่ผ่านมา ก็ได้รู้ว่า บางครั้งบางทีในเกมกีฬา มีโอกาสแพ้ชนะได้อยู่แล้ว และในกีฬาเทควันโดพุมเซ่ ซึ่งตัดสินด้วยสายตาด้วย ก็ไม่การันตีร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้วว่าทุกแมตช์ที่ลงสนาม เราจะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะได้ตลอด"
"8 ปีที่ผ่านมาในฐานนะนักกีฬาทีมชาติ ทำให้หนูเรียนรูหลายๆสิ่งเลยค่ะ เข้าใจคำว่ากีฬา คือ มีชนะได้
และก็มีแพ้ได้ แต่ทุกๆแมตช์ถ้าได้รับโอกาส หนูก็ทำเต็มที่เสมอค่ะ ถามว่ามาถึงตรงนี้ได้ ภูมิใจไหม ภูมิใจค่ะ คนรอบข้างหนูทุกๆคนให้การสนับสนุนอย่างดีตลอด และมีส่วนสำคัญทำให้หนูมาถึงจุดนี้ ทั้งครอบครัว เพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ คือถ้าไม่เจอ ก็จะส่งข้อความมาให้กำลังใจในอินสตามแกรมตลอด พอหนูอ่านแล้ว มันก็ทำให้รู้สึกมีกำลังใจกลับไปสู้ต่อค่ะ"
"ส่วนถ้าถามว่า ความสำเร็จต่างๆที่ได้มา ถือว่าอยู่ในจุดสูงสุดหรือยัง หนูก็ไม่มั่นใจค่ะ แต่สำหรับหนูเวลานี้ คือ ก็อยากได้รับโอกาสลงแข่งขันอยู่ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ และถ้าได้รับเลือก ก็พร้อมจะทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ เพื่อคว้าชัยชนะให้ได้"
สาวสวยนักเทควันโดพุมเซ่ ซึ่งปัจจุบันศึกษาอยู่ในระดับปริญญาโท คณะรัฐศาสตร์ ม.กรุงเทพธนบุรี เผยอีกว่า สำหรับปี 2024 ตนเองมีโปรแกรมที่จะลงช่วยสถาบันแข่งขันในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 49 ที่ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ระหว่าง 27 ม.ค. - 5 ก.พ.นี้ ส่วนหลังจากนั้นก็คงจะมีโปรแกรมเข้าเก็บตัวและคัดตัวทีมชาติไทย ซึ่งปีนี้มีการแข่งขัน 3 แมตช์ใหญ่ ที่รออยู่ ทั้งศึกชิงแชมป์เอเชีย ต่อด้วย ชิงแชมป์โลก และ เอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ ในช่วงปลายปีนี้
"ปีนี้ หนูก็ตั้งเป้าจะทำหน้าที่ในฐานะนักกีฬาให้ดีที่สุดในทุกๆแมตช์อีกปี ส่วนอนาคตหากเลิกเล่น ก็มีวางแผนที่จะทำหลายๆอย่างเหมือนกัน ทั้งงานโค้ช ซึ่งก็อยากใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ในฐานะนักกีฬาทีมชาติ มาถ่ายทอดให้น้องๆ หรือเป็นครูสอนเทควันโด เพื่อถ่ายทอดศิลปะป้องกันตัวให้เด็กๆ หรืออาจะช่วยครอบครัว ทำธุรกิจสปา ร้าน Up Health Beauty & Spa ย่านรามอินทรา ส่วนงานนักข่าวกีฬาหรือการทำคอนเทนต์ด้านกีฬา ก็เป็นอีกหนึ่งความฝันที่อยากทำ ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามทำคอนเทนต์เกี่ยวกับกีฬาเทควันโดพุมเซ่ลงเฟซบุ๊ค หรือ TikTok อยู่เรื่อยๆ และหวังว่าคนไทยจะได้รับรู้ รู้จักกีฬาชนิดนี้มากขึ้น
ประวัติส่วนตัว
ชื่อ : อรนวีย์ ศรีสหกิจ
ชื่อเล่น : ออมสิน
เกิด : 20 มิถุนายน 2543 ( 23 ปี)
ที่อยู่ปัจจุบัน : กรุงเทพฯ
การศึกษา : จบประถมศึกษา ร.ร.โสมาภาพัฒนา 4, จบม.ต้นและปลาย ร.ร.สตรีวิทยา ๒, จบ ป.ตรี คณะ
เศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ปัจจุบันกำลังศึกษาอยู่ ป.โท คณะรัฐศาสตร์ ม.กรุงเทพธนบุรี
สถานที่ที่ชอบ : ทะเล เพราะชอบเสียงคลื่น หากเวลาไม่มากพอ ชอบไป Sea Life Bangkok Ocean World โลกใต้น้ำ ที่สยามพารากอน
รายการโปรด : ช่องยูทูปเทพลีลา
ศิลปินโปรด : "มาเบล" สุชาดา สอนพันธ์ วง PiXXiE (พิกซี่) กับ "แม็กกี้" ชรารัตติ์ สาระอาภรณ์ (Mackcha หรือ แม็กชา) ศิลปินวาดภาพ
ความฝัน : ทำ VLOG, โค้ชเทควันโด, นักข่าวสายกีฬา และทำธุรกิจส่วนตัวร้านสปา
ผลงานโดดเด่น
ปี 2016 : เหรียญทองชิงแชมป์โลก
ปี 2017 : เหรียญทองชายหาด ชิงแชมป์โลก, 1 เหรียญทอง และ 1 ทองแดง เยาวชนเอเชีย, 2 เหรียญทอง โคเรีย โอเพ่น และ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ซีเกมส์
ปี 2018 : 1 เหรียญทอง เอเชียนเกมส์, 1 เหรียญทองแดง ชิงแชมป์โลก, 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง มาเลเซีย โอเพ่น, 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย
ปี 2019 : 1 เหรียญทองแดง ม.โลก, 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ศึกฮานมาดัง และรางวัลทีมพุมเซ่หญิงยอดเยี่ยม ชิงแชมป์โลก, 1 เหรียญทองแดง ชางจู เวิลด์ มาเชียล อาร์ต และรางวัลนักกีฬายอดเยี่ยมชายหาดชิงแชมป์โลก, 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ซีเกมส์
ปี 2022 : 1 เหรียญทองแดง โกยาง เวิลด์ เทควันโด พุมเซ่ แชมเปี้ยนชิพ, 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ซีเกมส์ และ 1 เหรียญทองแดง ชิงแชมป์เอเชีย
ปี 2023 : 1 เหรียญทองแดง ซีเกมส์