แมทธิว คิปโคลิ คิมเมนรี (ชาย) ควง เกรดิส เชฟกูรูอิ (หญิง) นักวิ่งน่องเหล็กจากเคนยา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ในงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอน บางแสน21-2023 ขณะที่ แชมป์ชาวไทยตกเป็นของ "บิ๊ก" ณัฐวุฒิ อินนุ่ม (ชาย) และ "ลูกปลา" ลินดา จันทะชิต (หญิง)
การแข่งขัน บางแสน21-2023 งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนงานแรกและงานเดียวของโลก ที่ได้การรับรองมาตรฐานขั้นสูงสุด World Athletics Platinum Label ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 โดยในปีนี้มีนักวิ่งอีลิทระดับท็อปของโลกทั้งชายและหญิง กว่า 20 คน และนักวิ่งชาวไทยและชาวต่างชาติ กว่า 12,000 คน เข้าร่วมแข่งขัน
สำหรับผลการแข่งขันปรากฎว่า แชมป์สนามฝ่ายชายในปีนี้ตกเป็นของ แมทธิว คิปโคลิ คิมเมนรี นักวิ่งน่องเหล็กจากเคนยา ที่เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.03.39 ชั่วโมง เฉือนเอาชนะ เตสกเย เกตาเชฟ นักวิ่งจากเอธิโอเปีย ที่เพิ่งคว้าอันดับ 3 โตเกียวมาราธอน 2023 ซึ่งเข้าเส้นชัยตามหลังมาติดๆ ด้วยเวลา 1.03.44 ชม. และอันดับ 3 เป็นของอามอส คิปรูโต นักวิ่งจากเคนยา เข้าเส้นชัยเวลา 1.03.51 ชม.
ส่วนแชมป์ฝ่ายหญิงได้แก่ เกรดิส เชฟกูรูอิ นักวิ่งน่องเหล็กจากเคนยา เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 1.09.45 ชม. อันดับ 2 ได้แก่ ชีล่า เชฟคิรูอิ จากเคนยา เวลา 1.10.03 ชม. และอันดับ 3 ได้แก่ แองเจลา ทานุย จากเคนยา เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.11.07 ชม.
ฝั่งแชมป์ไทยฝ่ายชายเป็นของ "บิ๊ก" ณัฐวุฒิ อินนุ่ม แชมป์เก่าที่วิ่งนำเข้าเส้นชัยคว้าแชมป์สนามชายไทย ด้วยเวลา 1.09.04 ชม. อันดับ 2 เป็นของ สัญชัย นามเขต เวลา 1.13.34 ชม. อันดับ 3 พีระพัฒน์ มานพ เวลา 1.14.55 ชม. และแชมป์ไทยฝ่ายหญิง ได้แก่ "ลูกปลา" ลินดา จันทะชิต ที่ฮึดสปีดเร่งฝีเท้าแซงนำหน้าคู่แข่งเข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.21.30 ชม. ที่ 2 ตกเป็นของ ปารียา สนเส็ม เวลา 1.23.18 ชม. ที่ 3 ได้แก่ อรอนงค์ วงศร เวลา 1.25.17 ชม.
นายรัฐ จิโรจน์วณิชชากร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมซ์ แอนด์ คอมมูนิเคชั่น จำกัด - Race Director งานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนบางแสน21 เผยว่า ในปีนี้เราจัดการแข่งขันภายใต้การเฉลิมฉลอง World Athletics Platinum Label ใบแรกและใบเดียวของโลก โดยมีอีลิทระดับท็อปของโลก และนักวิ่งกว่า 12,000 คน มาร่วมแข่งขันและร่วมสัมผัสเสน่ห์ของงานบางแสน21 ในเรื่องความท้าท้ายและการได้มาประลองฝีเท้ากัน
"ภาพรวมผลการแข่งขันนักวิ่งก็ยังคงทำเวลาเข้าเส้นชัยในเวลาที่ดีกันโดยถ้วนหน้า ทางตัวแทน World Athletics ได้ให้การชื่นชมการจัดงานของเราว่าจัดงานได้ในระดับเวิล์ดคลาส มีบรรยากาศการแข่งขันที่สนุก รวมถึง Food Festival ที่น่าตื่นตาตื่นใจและหลากหลาย จนกลายเป็น Soft Power ที่นักวิ่งติดใจและอยากจะกลับมาเจอบรรยากาศงานวิ่งแบบนี้อีกครั้ง โดยเราตั้งใจจะจัดงานภายใต้มาตรฐาน Platinum Label และพัฒนาอย่างต่อเนื่องขึ้นไป เพื่อให้นักวิ่งทั่วโลกได้รู้จักบางแสน21 ในฐานะงานวิ่งฮาล์ฟมาราธอนอันดับ 1 ของโลก"
ด้าน แมทธิว คิปโคลิ คิมเมนรี และ เกรดิส เชฟกูรูอิ 2 แชมป์น่องเหล็กจากเคนยา เผยถึงความรู้สึกที่ได้มาแข่งขันในรายการบางแสน21 ว่า นี่เป็นการมาทำการแข่งขันครั้งแรกที่เมืองไทย สนามบางแสน21 นับเป็นสนามแข่งระดับแพลตตินัม ที่มีการจัดการแข่งขันที่ดีมาก มีกองเชียร์คอยให้กำลังใจตลอดทาง ทำให้มีกำลังฮึดสู้ในการวิ่งเข้าเส้นชัย เป็นสนามที่ไม่ง่ายเลย แม้ว่าจะรู้สึกเหนื่อยแต่ก็ไม่ยอมแพ้ สุดท้ายก็สามารถคว้าแชมป์มาครอง รู้สึกดีใจและภูมิใจมากที่ได้แชมป์สนามนี้ มีความสุขกับการได้มาวิ่งในงานนี้ คิดว่าถ้ามีโอกาสจะกลับมาแข่งขันอีกแน่นอน