เปิดใจ “ครีม-วรัญญา” สัตตกรีฑาสาวทีมชาติ พิชิตมงกุฎมิสแกรนด์นครศรีฯ

ที่สำคัญยังเคยเข้าไปเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ในแคมป์กรีฑาทีมชาติไทยมาแล้วด้วย ซึ่งก็ต้องบอกว่าไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นนักกีฬาที่เก่งระดับทีมชาติ แถมยังเป็นแชมป์ระดับประเทศ ก้าวมาสร้างชื่อในวงการนางงาม 

"น้องครีม" เปิดใจถึงเรื่องราวในประเด็นนี้กับทีมข่าวกีฬาสยามด้วยตนเองว่า การคว้ามงกุฎบนเวทีมิสแกรนด์นครศรีธรรมราชได้ ถือเป็นการปลดล็อคความท้าทายของตนเองเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะประสบความสำเร็จจนมีวันนี้ ต้องใช้พยายามอย่างมากในการพัฒนาทักษะด้านต่างๆให้ตัวเอง 

น้องครีม เล่าว่า ตนเองต้องปรับบุคลิกภาพของตัวเอง รวมถึงดูแลตัวเองให้มากขึ้น พัฒนาทักษะในทั้งการคิด วิเคราะห์ ซึ่งก็ต้องหมั่นหาความรู้ และติดตามข่าวสารที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ เพราะเวทีนี้เป็นเวทีนี้ไม่ได้ต้องการคนที่สวยและบุคลิกภาพดีอย่างเดียว แต่ต้องการคนเก่ง มีความคิดดี เข้ากับสังคมและทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย

เจ้าตัวเล่าย้อนว่า สมัยเด็กตนเองมีชีวิตเหมือนเด็กคนอื่นๆทั่วไป กระทั่งมีโอกาสได้เข้าไปศึกษาต่อชั้นม.1 ที่โรงเรียนสามพรานวิทยา จ.นครปฐม และด้วยการมีรูปร่างและสมรรถภาพร่างกายที่โดดเด่นกว่าเด็กสาวทั่วไป ก็ทำให้ได้รับการส่งเสริมจากทางโรงเรียนให้เล่นกรีฑาและเป็นนักกีฬาของโรงเรียน โดยเริ่มจากการวิ่ง จากนั้นก็ค่อยๆพัฒนามาเล่นสัตตกรีฑา ซึ่งนักกีฬา 1 คน จะต้องแข่งขันกีฬาถึง 7 อย่าง ประกอบด้วย วิ่งข้ามรั้ว 100 ม., ขว้างจักร,กระโดดสูง, ทุ่มน้ำหนัก, วิ่ง 200 ม., กระโดดไกล, พุ่งแหลน และวิ่ง 800 ม.

"ครอบครัวของหนูไม่ได้ร่ำรวยค่ะ เพราะฉะนั้นอะไรที่พอจะแบ่งเบาภาระของครอบครัวได้ หนูก็อยากจะทำ ซึ่งในตอนนั้นอาจารย์ที่เป็นโค้ช อยากให้หนูลองมาฝึกแบบจริงจังเพื่อโอกาสเป็นนักวิ่ง หนูเองก็มองว่าน่าจะสนุกค่ะ ก็เลยตั้งมั่นกับตัวเองดู ว่าจะขอลองสักตั้งกับเส้นทางนี้ เผื่อวันใดวันหนึ่ง จะสามารถพาตัวเองไปติดทีมชาติไทยได้ค่ะ ซึ่งครอบครัวที่บ้านไม่ได้ขัด และก็ยอมรับในการตัดสินใจของเราด้วยเช่นกันกับการเล่นกรีฑา"

"น้องครีม" เผยอีกว่า ความสำเร็จครั้งสำคัญของตัวเอง คือ การคว้าเหรียญเงิน สัตตกรีฑา ในกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่จ.บุรีรัมย์ เมื่อปี 2562 ซึ่งหลังจากนั้นก็คว้าเหรียญทองในกีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ กระทั่งในปี 2020 และกวาเหรียญรางวัลอีกมากมาย จนผลงานไปเตะตาสมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทย และได้รับโอกาสำคัญให้เข้ามาเก็บตัวในแคมป์กรีฑาทีมชาติไทย

"ตอนไปเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ หนูก็มีโอกาสได้ซ้อมกับพี่แนน สุนิสา โคตรสีเมือง ค่ะ พี่เขาเป็นเบอร์ 1 ในสัตตกรีฑา ได้ศึกษาซึมซับเทคนิคดีๆหลายอย่างจากพี่ๆและโค้ชทีมชาติ น่าเสียดายที่ตอนเก็บตัวตอนนั้นเป็นช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดหนัก จึงแทบไม่มีโอกาสได้ออกไปแข่งขันในฐานะนักกีฬาทีมชาติ ที่ต่างประเทศเลยค่ะ"

เจ้าของมงกุฎมิสแกรนด์นครศรีธรรมราช เผยอีกว่า จุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้ตนเองมีความคิดที่จะเบนเข็มมาขึ้นเวทีประกวดนางงาม ก็คือตอนที่ได้รับบาดเจ็บที่หลัง ซึ่งก็เกิดจากการฝึกซ้อมที่ไม่ได้ระมัดระวังเท่าที่ควร ทำให้ยกเวทผิดท่า จนได้รับบาดเจ็บหนักถึงขั้นที่ทำให้ร่างกายไม่สามารถกลับมาฝึกซ้อมได้เหมือนเดิม

"จำได้ว่าเราเองยกเวทผิดท่าค่ะ หลังจากนั้นไม่นานก็เหมือนหมดสติไป ฟื้นอีกทีคือตัวอยู่บนเตียงนวด ก็มีพี่ๆโค้ช ทีมกายภาพมาคอยดู หลังจากนั้นไปโรงพยาบาลเพื่อเช็คอาการ ดีที่สมองไม่กระทบกระเทือน"

"สำหรับอาการเจ็บหลังก็หนักเอาการค่ะ ต้องพัก 1-2 เดือนเลย มันจึงมีความคิดที่ว่า ถ้าวันนึงเราหายและไม่สามารถกลับไปซ้อมหรือเล่นสัตตกรีฑาได้ดีเหมือนเดิม จะทำอย่างไร ก็เลยเกิดความคิดว่า ในช่วงที่ระหว่างว่างๆในการพักฟื้น อยาจะลองไปทำอย่างอื่นดู ซึ่งก็ไปสะกิดใจกับ การประกวดนางงาม ซึ่งก็เป็นสิ่งที่หนูชอบและสนใจมาตั้งแต่เด็กๆอยู่แล้ว"

"ครั้งหนึ่งก่อนตัดสินใจมาเก็บตัวกับทีมชาติ หนูเคยลองไปออดิชั่นเวทีมิสแกรนด์สงขลาค่ะ ออดิชั่นผ่านด้วย แต่ยังไม่ทันจะได้สมัคร สมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยได้แจ้งมาว่า อยากให้เราไปเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ ซึ่งก็เพื่อโอกาสได้ลงแข่งขันในแมตช์นานาชาติ ทว่าใจตอนนั้นเรายังอยากเป็นนักกีฬา อยากทำฝันติดทีมชาติก่อน จึงเลือกที่จะไปเก็บตัวในแคมป์ทีมชาติ"

“น้องครีม" ยังเล่าด้วยว่า ระหว่างพักฟื้นให้หายจากอาการเจ็บหลัง ตนเองมีโอกาสได้ลองขึ้นเวทีการประกวดครั้งแรกบนเวทีมิสแกรนด์กทม. เมื่อเดือนก.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งเวทีประกวดที่กทม.ถือว่ายากทีเดียว เพราะมีแต่คนสวยและคนเก่งสมัครเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก แม้สุดท้ายจะไม่ได้รับตำแหน่ง แต่ก็นับเป็นการเปิดโลกและประสบการณ์หลายสิ่งให้ตัวเองมาก

หลังจากนั้นไม่นาน "น้องครีม" ลงประกวดต่อเนื่องทันที บนเวทีมิสแกรนด์นครพนม รอบนี้ไปไม่ถึงฝันอีกเช่นเดิม แต่ก็มีเรื่องน่ายินดีไม่น้อย หลังเจ้าตัวได้รับตำแหน่ง Best Swimming ซึ่งก็ถือเป็นอีกหนึ่งความภูมิใจที่ทำให้เจ้าตัวมีไฟที่จะพัฒนาตัวเองต่อไป

กระทั่งในการประกวด ครั้งที่ 3 เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ย.66 ที่จ.นครศรีธรรมราช เจ้าตัวปลดล็อคความท้าทาย ทำตามความตั้งใจที่ตัวเองฝันเอาไว้ได้สำเร็จ ด้วยการคว้ามงกุฎและสายสะพายมิสแกรนด์นครศรีธรรมราชมาครองได้สำเร็จ ซึ่งก็นับฮือฮาและเซอร์ไพรส์ไม่น้อยกับการที่นักกีฬากรีฑาระดับทีมชาติไทยคนหนึ่งยอมปรับเปลี่ยนตัวเองในหลายๆทาง ทั้งการสลัดมาดรุกแบบลุยๆ มาขึ้นเวทีประกวดนางงาม แถวยังเอาชนะใจกรรมการที่ตัดสินได้อีก

"ครีม" วรัญญา  ยังบอกกับทีมข่าวกีฬาสยามอีกว่า หลังคว้าตำแหน่งมิสแกรนด์นครศรีธรรม ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปไม่น้อย เพราะต้องปฎิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งเดินสายขอบคุณสปอนเซอร์ รวมไปถึงออกอีเวนต์อยู่บ่อยๆ ส่วนงานพรีเซนเตอร์สินค้า หรือรีวิวสินค้า ก็ยังมีเข้ามาอยู่เรื่อยๆ ขณะเดียวกันในระหว่างนี้ตนเองก็ต้องเตรียมตัวเองให้พลางๆ เพื่อให้พร้อมที่สุด สำหรับการประกวดในรอบสุดท้าย เวทีมิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2024 ซึ่งก็จะเริ่มทำการเก็บตัวในช่วงต้นเดือนมี.ค. 2024

เมื่อถูกถามถึงเส้นทางในฐานะนักกีฬาสัตตกรีฑา เจ้าตัวบอกกับเราว่า ยังไม่ปิดกันตัวเองจากเส้นทางนี้ แต่สำหรับการเล่นทีมชาติต้องยอมรับว่ายากเหมือนกัน เพราะตั้งแต่บาดเจ็บหลังไป รู้สึกได้ว่าร่างกายของตนเองนั้นไม่เหมือนเดิม

ต่อข้อถามที่ว่าจะยังเล่นและเป็นนักกีฬาอยู่หรือไม่ เจ้าตัวตอบว่า "แน่นอนค่ะ ว่าจะยังเล่นกรีฑาอยู่ เพราะกีฬาทำให้หนูเองมีทุกวันนี้ได้ ซึ่งถ้าเล่นก็จะลงแข่งขันแมตช์ในระดับประเทศ รวมถึงช่วยม.กรุงเทพธนบุรี สถาบันที่ตนเองศึกษา ลงแข่งขันในระดับอุดมศึกษา ซึ่งต้นปี 2024 ตนเองก็วางแผนว่าจะช่วยมหาวิทยาลัย ในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ด้วย โดยจะลงป้องกันแชมป์สัตตกรีฑา รวมถึงลงวิ่งข้ามรั้ว 100 ม.หญิง ซึ่งก็หวังจะแก้มือให้ได้ หลังคราวก่อนทำเต็มที่แล้ว แต่ได้เหรียญเงินมาครอง"

"หลังจบการแข่งกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยช่วงต้นเดือนก.พ.67 แล้ว หนูก็จะโฟกัสกับการประกวดรอบสุดท้ายอย่างเต็มที่ค่ะ และในการประกวดรอบสุดท้าย ก็จะพยายามทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ ไม่ว่าผลสุดท้ายจะออกมาเป็นอย่างไรก็จะได้ไม่รู้สึกเสียดาย หรือมีความรู้สึกว่ายังมีอะไรที่มันค้างคาใจ" วรัญญา กล่าวทิ้งท้าย 

- ประวัติส่วนตัว -

ชื่อ : วรัญญา เลไธสง

ชื่อเล่น : ครีม

วันเกิด : 30 สิงหาคม 2545

ภูมิลำเนา : จ.ร้อยเอ็ด

ส่วนสูง : 173 ซม.

น้ำหนัก : 53 กก.

งานอดิเรก : ร้องเพลง / ฟังเพลง / เล่นกีตาร์ / เลี้ยงแมว 

การศึกษา : ปัจจุบันศึกษาอยู่ ชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี

- ผลงานด้านกีฬา -  

ระดับเยาวชน

- เหรียญเงิน สัตตกรีฑา กีฬาเยาวชนแห่งชาติ ที่บุรีรัมย์ ปี 2562

- เหรียญทอง สัตตกรีฑา กีฬานักเรียนนักศึกษาแห่งชาติ ที่อุดรธานี ปี 2563

- เหรียญทอง วิ่งข้ามรั้ว 100 ม. กรีฑากรมพลศึกษา ปี 2563

- เหรียญทอง กระโดดไกล กรีฑา กรมพลศึกษา ปี 2563

ระดับประชาชน

- เหรียญทองแดง สัตตกรีฑา ศึกชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ปี 2563

- เหรียญเงิน สัตตกรีฑา กีฬาแห่งชาติ ที่จ.ศรีสะเกษ ปี 2565

- เหรียญทอง สัตตกรีฑา ศึกกรีฑาชิงแชมป์มุ่งซีเกมส์ ปี 2565

- เหรียญทอง สัตตกรีฑา กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่อุดรธานี ปี 2566

- เหรียญเงิน วิ่งข้ามรั้ว 100 ม. กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ที่อุดรธานี ปี 2566