เมื่อวันพุธ ที่ 15 พ.ย. 66 เวลา 10.30 น. ที่จุดรับยื่นหนังสือ ชั้น 1 (โซนกลาง) อาคารรัฐสภา นายธีรัจชัย พันธุมาศ โฆษกคณะกรรมาธิการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ (กมธ.ป.ป.ช.) คนที่ 1 พร้อมคณะรับยื่นหนังสือจาก นาวาโท พูนศักดิ์  เพิ่มทรัพย์ อดีตนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย และคณะ เรื่องขอให้คณะ กมธ.ตรวจสอบการเรียกรับเงินจากนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยที่ได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งประเทศไทย

สำหรับประเด็นดังกล่าว สืบเนื่องจากอดีตนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ที่มีความประสงค์ให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของผู้จัดการทีมและผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย ที่ได้มีการหักเงินอัดฉีดที่ได้รับจากการชนะเลิศการแข่งขันกีฬามาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลา 10 ปี  แม้จะมีนักกีฬาและอดีตนักกีฬาบางคนโพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าเต็มใจให้ถูกหัก เพื่อนำไปแบ่งให้กับนักกีฬาคู่ซ้อม 

อย่างไรก็ตาม จากหลักฐานที่ได้รับเงินอัดฉีดจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ ที่เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่ายังคงมีเงินรางวัลอัดฉีดถูกหักเข้ากองกลางเป็นจำนวนมาก จึงเป็นที่มาของการที่เข้ายื่นหนังสือให้คณะกมธ.พิจารณาตรวจสอบการหักเงินอัดฉีดจากนักกีฬาว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ 

นายธีรัจชัย พันธุมาศ  กล่าวภายหลังรับยื่นหนังสือว่า วันนี้ตนได้รับยื่นหนังสือจากอดีตนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทย ทั้ง นาวาโท พูนศักดิ์  เพิ่มทรัพย์ และ พันตำรวจโท สมพร ใจสิงหล  ประเด็นร้องเรียนเรื่องการเรียกรับเงินจากนักกีฬาเซปักตะกร้อทีมชาติไทยที่ได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งประเทศไทย เป็นเวลา 10 ปี และต้องการทราบว่าเงินที่หักไปได้นำไปใช้ในส่วนใดบ้าง ซึ่งคณะกมธ.เตรียมจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพื่อให้ทุกฝ่ายได้รับความเป็นธรรมต่อไป

ด้าน นาวาโท พูนศักดิ์ เพิ่มทรัพย์ เผยว่า สาเหตุที่ต้องยื่นเรื่องมาถึงปปช.ก็เพราะได้รับการแนะนำจากหลายๆคนและพวกตนก็ไม่อยากให้เรื่องนี้นั้นเงียบหายไปโดยไม่ได้รับการชี้แจงความจริงที่ชัดเจน แม้หลังจากที่พวกเราอดีตทีมชาติจะออกมานำเสนอข้อมูลชี้แจงเรื่องความผิดปกติของการแบ่งเงินรางวัลไปแล้ว จะมีการออกมาชี้แจงของนักกีฬาทีมชาติชุดปัจจุบันว่า เป็นเงินส่วนที่เต็มใจให้มีการหักให้กับน้องๆตัวสำรอง ทว่ามีส่วนต่างทั้งทีมชายและทีมหญิงเกือบ 10 ล้านบาท ที่ไม่ได้รับการชี้แจงว่าเงินส่วนนี้ถูกหักไป นำไปใช้ในส่วนใดและแบ่งให้ใครบ้าง ซึ่งเราก็มีหลักฐานอยู่จำนวนหนึ่งที่เอามายื่นเพื่อให้ทางปปช.ช่วยพิจารณาและตรวจสอบดูว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ผู้ฝึกสอนหรือผู้จัดการทีมนั้นกระทำผิดหลักจริยธรรมหรือไม่