จากกรณีเรื่องฉาวที่กำลังเป็นกระแสอยู่ในโลกออนไลน์ หลังมีผู้ฝึกสอนกีฬายูยิตสูที่เป็นสโมสรสมาชิก ของสมาคมกีฬายูยิตสูแห่งประเทศไทย ถูกกล่าวหามีพฤติกรรมไม่เหมาะสม โดยผู้ฝึกสอนคนดังกล่าว ที่เป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนอยู่ในมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่ง แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม ด้วยการลวนลามเด็กนักเรียนหญิงชั้น ม.6 ซึ่งอดีตเป็นนักกีฬาเทควันโด และได้ไปเรียนยูยิตสู โดยยื่นข้อเสนอขอมีเพศสัมพันธ์ แลกกับการช่วยดำเนินการทำเอกสารให้เด็กนักเรียนหญิงรายนี้สามารถเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยที่ตนเองใฝ่ฝันในฐานะโควตานักกีฬาได้

ล่าสุด "บิ๊กเอ" ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และนายกสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า จากที่ตนได้ยินข่าว ผู้ฝึกสอนกีฬายูยิตสู พยายามจะล่วงระเมิดกีฬาหญิงเพื่อจะแลกกับการโควตา โครงการช้างเผือกในสถาบันศึกษานั้น ตนรู้สึกเป็นกังวลต่อวงการกีฬา จึงอยากจะอธิบายของขบวนการ หรือบทบาทของสมาคมกีฬาที่จะให้นักกีฬามายื่นขอเข้าโครงการช้างเผือก คือ สมาคมนั้นไม่มีบทบาทหน้าที่ ที่จะไปมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของสถาบันการศึกษา สิ่งที่เราทำได้คือ เราสามารถยืนยันหรือออกไปรับรองให้นักกีฬา แต่ต้องเป็นนักกีฬาทีมชาติที่มาขอเอกสารรับรองจากสมาคม ซึ่งทางสโมสรต่างๆไม่สามารถมาขอได้ โดยนักกีฬามาขอสมาคมว่า เขาได้ไปแข่งขันรายการอะไรบ้าง ได้เหรียญทอง เงิน ในระดับประเทศ ซึ่งเราก็จะทำให้โดยตนในฐานะนายกสมาคมฯจะเป็นผู้เซ็นรับรองให้ 

"นักกีฬาจะนำเอาใบรับรองดังกล่าวไปยื่นต่อสถาบันที่ตนเองต้องการจะไปศึกษา เพราะฉะนั้นอยากฝากถึงผู้ปกครองนักกีฬาว่า ถ้ามีผู้ใครคนไหนมาบอกว่าจะช่วยได้ ให้เข้าโครงการนั้นโครงการนี้ อย่าไปเชื่อ แม้แต่สมาคมกีฬาเองก็ไม่สามารถทำได้ ได้แต่ยืนยันผลงานเพื่อนักกีฬาไปยื่นต่อสถาบันการศึกษาเอง" พิมล กล่าว

ทั้งนี้ สมาคมกีฬาเทควันโด เคยโดนแอบอ้าง โดยก่อนหน้านี้มีครูสอนเทควันโดรายหนึ่ง อ้างว่าจะพาเด็กไปเก็บตัวร่วมกับทีมชาติไทย โดยปลอมแปลงเอกสารรายชื่อของสมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย เพื่อนำมาแอบอ้าง ว่าจะช่วยให้เด็กติดทีมชาติได้เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จนทำให้ ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ นายกสมาคมเทควันโดฯถึงกลับมาประกาศจะดำเนินคดีผู้แอบอ้าง เมื่อปี 65 ที่ผ่านมา