ปู่วัย 103 ปี สว่าง จันทรพราหมณ์ นำทัพกรีฑาไทยสู้กรีฑาผู้สูงอายุชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 22 ณ ประเทศฟิลิปินส์ นายกสมาคมฯ วิวัฒน์ วิกรานตโนรส ตั้งไม่ต่ำกว่า 10 ทอง ชี้ นักกีฬาฟิตซ้อมมาอย่างดีเพื่อรายการนี้ หลังจากห่างหายไปนานถึง 4 ปีเพราะการระบาดของโควิด
นายวิวัฒน์ วิกรานตโนรส นายกสมาคมกรีฑาผู้สูงอายุไทย เปิดเผยถึงความพร้อมในการส่งนักกีฬาไทยเข้าร่วมแข่งขันกรีฑา รายการ "กรีฑาสูงอายุชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ครั้งที่ 22 ณ เมือง คาร์ก ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 8-12 พฤศจิกายน 2566 ว่า เป็นการกลับมาแข่งขันในรอบ 4 ปีของรายการชิงแชมป์เอเชีย หลังจากที่แข่งไปล่าสุดที่ประเทศมาเลเซีย หลังจากนั้นต้องยกเลิกการแข่งขันเนื่องจากการระบาดของโควิค 19 แต่ตอนนี้ สถานการณ์กลับสู่สภาวะปกติ การแข่งขันระดับเอเชีย จึงกลับมาอีกครั้ง ที่สำคัญนักกีฬาเองมีความพร้อมกับการแข่งขันในครั้งนี้มาก เพราะไปแข่งต่างประเทศไม่ได้ แต่สมาคมฯ จัดการแข่งขันภายในประเทศมาตลอดไม่ว่าจะเป็นชิงแชมป์ประเทศไทย หรือกีฬาผู้อาวุโสแห่งชาติ
"การแข่งขันที่หายไป 4 ปี ส่งผลให้นักกีฬาเกิดความกระตือรือร้นกับการแข่งขันครั้งนี้ ในการแข่งขันครั้งนี้ไทยส่งนักกีฬาเข้าร่วมชิงชัยทั้งสิ้น 52 คนเป็นนักกีฬาชาย 25 คน นักกีฬาหญิง 27 คน หลักการแข่งขันจะแบ่งนักกีฬาออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรก เป็นนักกีฬาที่สมาคมส่งแข่งขันตามหลักเกณฑ์ ทำลายสถิติประเทศไทย กลุ่มที่ 2 สมาคมออกค่าใช้จ่ายให้บางส่วน และกลุ่มที่ 3 ออกค่าใช้จ่ายเดินทางไปแข่งขันเองทั้งหมด"
นายวิวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า การแข่งขันครั้งนี้ตั้งคว้า 10 เหรียญทอง เพราะเรามีต้องสู้กับ จีน ,ญี่ปุ่น และ อินเดีย ที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเป็นจำนวนมาก นักกีฬาไทยที่อายุมากที่สุดในการแข่งขันครั้งคือ ปู่สว่าง จันทร์พราหมณ์ อายุ 103 ปี คุณปู่ เป็นแชมป์เอเชียถึง 4 รายการคือ วิ่ง 100 ม., ทุ่มน้ำหนัก,ขว้างจักร และพุ่งแหลน
"ไม่แน่ใจการแข่งขันครั้งนี้ปู่สว่าง จะเป็นนักกีฬาที่มีอายุมากที่สุดหรือเปล่า ต้องไปดูที่อินเดียด้วย เพราะเค้ามีนักกีฬาที่มีอายุเยอะเช่นกัน แต่การแข่งขันที่ผ่านมา คุณปู่สว่าง จะมีอายุเยอะที่สุดของการแข่งขัน และมีศักยภาพที่ยังลงแข่งขัน และทำเหรียญทองให้กับประเทศไทยได้ เพราะปู่สว่าง ดูแลสุขภาพดีมาก มีการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง ดูแลเรื่องของโภชนาการ ส่งผลให้ปู่สว่าง ยังคงสามารถลงแข่งขันได้และคิดว่าครั้งนี้ก็น่าจะทำเหรียญทองให้กับทีมไทยได้" นายวิวัฒน์ กล่าว
นอกจากความหวังเหรียญจาก ปู่สว่างแล้ว ไทยยังมีลุ้นเหรียญทองจาก ลักษณา พระลับรักษา ในรุ่น 80-84 ปีหญิง ,นางสมสง่า บุญนอก แชมป์โลกกระโดดไกล กรีฑาสูงอายุชิงแชมป์โลก 2022 ที่ประเทศฟินแลนด์ ลงแข่งในรุ่นอายุ 65-69 ปีหญิง, นายไสว พิชญาภรณ์ รุ่นอายุ 75-79 ปีชาย ,สายเนตร ศรีสมพงษ์ รุ่นอายุ 45-59 ปีหญิง, ณัฐพล นามกันหา รุ่นอายุ 50-54 ปีชาย, จิรพงษ์ เมฆเวียน รุ่นอายุ 40-44 ปี, สุมาลี วงศ์สมิง รุ่นอายุ 50-54 ปี, บุษรา รังไสว รุ่นอายุ 65-69 ปีหญิง, สุมล นวลจันทร์ฉาย รุ่นอายุ 70-74 ปีหญิง, วิ่งผลัด 4x100 ม.ชายรุ่นอายุ 40-44 ปี และ วิ่งผลัด 4x100 ม.หญิงรุ่น 70-74 ปีหญิง