"กัปตันต้น" เอกสิทธิ์ จูมเจริญ กัปตันทีมวีลแชร์บาสเกตบอล ที่คว้า 2 ทอง อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กัมพูชา และ "เงือกปิ่น" อัญชญา เกตุแก้ว ราชินีสระเจ้าของ 7 เหรียญทองอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กัมพูชา ถือธงนำทัพนักกีฬาไทยร่วมพิธีเปิด เจ้าภาพจัดเต็มแสงสีเสียงผ่านเทคโนโลยี เออาร์ (AR) ไม่แพ้เอเชียนเกมส์ที่ผ่านมา ย้ำเน้นเรื่องของความเท่าเทียม
การแข่งขันเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 กำลังจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ วันที่ 22 ตุลาคม หางโจว โอลิมปิก สปอร์ตส์ เซนเตอร์ โดยพิธีเปิดครั้งนี้ จะถูกจัดขึ้นที่ หางโจว โอลิมปิก สปอร์ตส์ เซนเตอร์ ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นภาคต่อของ เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่เพิ่งจบลงไป โดยจะมีธีมเป็น ดอกหอมหมื่นลี้สีทอง ซึ่งเป็นเสน่ห์ของเมืองหางโจว ที่จะคอยต้อนรับ และให้พรแก่นักกีฬาแต่ละประเทศ ซึ่งการแสดงแต่ละชุดจะมีนักแสดงซึ่งเป็นผู้พิการร่วมแสดงด้วย
ขณะที่รูปแบบยังเน้นการใช้ "วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" โดยผู้ชมทางบ้านจะได้เห็นแสงสีเสียงผ่านเทคโนโลยี เออาร์ (AR) ไม่แพ้เอเชียนเกมส์ที่เพิ่งจบไป ขณะที่ผู้ถือคบเพลิงคนสุดท้ายจะมีการติดตั้งแขนหุ่นยนต์ที่ควบคุมโดยระบบควบคุมสมอง อันแข็งแกร่งเพื่อชดเชยข้อบกพร่องทางกายภาพ และจะเน้นถึงความเท่าเทียมของนักกีฬา ที่มุ่งมั่นเปี่ยมไปด้วยแพสชั่นของความเป็นนักสู้
ส่วนนักกีฬาไทย จะเดินขบวนออกมาเป็นลำดับ 37 ของชาติที่เข้าแข่งขันในเอเชียนพาราเกมส์ โดยมีผู้ถือธง 2 คนคือ "เงือกปิ่น" อัญชญา เกตุแก้ว นักว่ายน้ำราชินีสระ เจ้าของ 7 เหรียญทอง อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กัมพูชา และ "กัปตันต้น" เอกสิทธิ์ จูมเจริญ กัปตันทีมวีลแชร์บาสเกตบอล ที่พาทีมคว้า 2 ทอง อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ที่กัมพูชา
สำหรับเอเชียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 4 จัดการแข่งขันทั้งสิ้น 24 ชนิดกีฬา มีชาติต่างๆส่งนักกีฬาเข้ารวมการแข่งขัน 44 ประเทศ
ซึ่งประเทศไทยส่งนักกีฬา รวมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทั้งหมด 453 คน แบ่งเป็นชาย 186 คน หญิง 121 ผู้ช่วยเหลือนักกีฬาชาย 20 คน ผู้ช่วยเหลือนักกีฬาหญิง 6 คน และผู้ฝึกสอน 120 คน