ไทยเปิดหัวคว้า 4 เหรียญทอง ในศึกเพาะกายชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่เนปาล โดย "ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย คว้าทองในการขึ้นเวทีเพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. ส่วนอีก 3 ทองมาจากดาวรุ่งเยาวชนสาวไทย ประกอบด้วย กันติชา สีจันทร์, จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ และ สายใจ สุสมแก้ว
การแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 55 ที่ลัลบา คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เมื่อช่วงค่ำวันที่ 4 ก.ย.66 เป็นการแข่งขันในวันแรก โดยพิธีเปิดการแข่งมี พณฯ นารายัน คาจิ เชรษฐา รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในประเทศเป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมด้วยดาโต๊ะพอล ชัว ประธานสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชีย, นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล เลขาธิการสหพันธ์กีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งเอเชียและ นายราเชษฐ์ บาบู เชรษฐา นายกสมาคมกีฬาเพาะกายของประเทศเนปาลร่วมในพิธีเปิดการแข่งขันในครั้งนี้
สำหรับการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 55 ในวันแรกแข่งขัน 16 รุ่น มีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันและสามารถ ประเดิมคว้าเหรียญทองมาครองได้ถึง 4 รุ่น เริ่มจาก เพาะกายชาย รุ่นน้ำหนักไม่เกิน 60 กก. "ยนต์" จีรพันธ์ โป่งคำ แชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย ได้อันดับที่ 1 ส่วนอันดับที่ 2 และอันดับที่ 3 เป็นของนักกีฬาจากเนปาลทั้งสองคน
เหรียญทองเหรียญต่อมามาจาก ฟิตเนสเยาวชนหญิง อายุไม่เกิน 21 ปี กันติชา สีจันทร์ ได้อันดับที่ 1 โดย จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ ได้อันดับที่ 2 ด้าน พรชนก เชียงพรหม ได้อันดับที่ 5 ส่วนอันดับที่ 3 และ 4 เป็นของนักกีฬาจากเวียดนาม
เหรียญทองเหรียญที่ 3 มาจาก แอธเลติกฟิสิคยุวชนหญิง อายุ 15-18 ปี จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ ส่วนอันดับที่ 2 เป็นของ รพิชา เยาวนารถ และอันดับที่ 3 เป็นของ พรชนก เชียงพรหม และเหรียญทองเหรัยญที่ 4 โมเดลเยาวชนหญิง อายุไม่เกิน 21 ปี สายใจ สุสมแก้ว ส่วนอันดับที่ 2 อันดับที่ 3 เป็นของนักกีฬาจากเวียดนาม ทั้ง 2 คน โดย กันติชา สีจันทร์ ได้อันดับที่ 4 และอันดับที่ 5 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย
ด้านผลแข่งรุ่นอื่นๆ มีดังนี้ ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงไม่เกิน 165 ซม. ศิริพร ศรช่วย ได้อันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของนักกีฬาจากเวียดนาม อันดับที่ 3 เป็นของฮ่องกง และ จินตรามณฑ์ ทวีเมธีโชติ ได้อันดับที่ 4 อันดับที่ 5 เป็นนักกีฬาจากคาซัคสถาน
ฟิตเนสหญิง รุ่นความสูงเกิน 165 ซม.พันจ่าอากาศเอกหญิงอาจารี แท่นทรัพย์ ได้อันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของเวียดนาม และกันติชา สีจันทร์ ได้อันดับที่ 3, เพาะกายชายมาสเตอร์ อายุ 40-49 ปี สุรศักดิ์ ปานเรือง ได้อันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของนักกีฬาจาก อุซเบกิสถาน อันดับที่ 3 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย โดย "หลุน" อิทธิพัทธ์ ประทีป ได้อันดับที่ 4 และอันดับที่ 5 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย
เพาะกายชายมาสเตอร์ อายุเกิน 60 ปี สุวิจักขณ์ พินทุสรชัย คว้าอันดับที่ 2 โดยอันดับที่ 1 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย และอันดับที่ 3 เป็นของนักกีฬาจากอินเดียเช่นกัน, เพาะกายเยาวชนชาย น้ำหนักเกิน 75 กก. บารานคาน ปาทานสิราสวัสดิ์ ได้อันอันดับที่ 3 อันดับที่ 1 เป็นของเนปาล และอันดับที่ 2 อินเดีย, เพาะกายชายมาสเตอร์ รุ่น อายุ 50-60 ปี สมคิด สุเมโธเวชกุลได้อันดับที่ 3 โดยอันดับที่ 1 เป็นของ มาเลเชีย และอันดับที่ 2 เป็นของนักกีฬาจากเกาหลีใต้ อันดับที่ 4 เป็นของนักกีฬาจากอินเดีย โดย เกษม ศิริโสต นักกีฬาของไทยอีกคนได้อันดับที่ 5
สรุปการแข่งขันในวันแรกทัพนักกีฬาเพากายไทย ทำได้ 4 เหรียญทอง 6 เหรียญเงิน 4 เหรียญทองแดง ส่วนในวันที่ 5 ก.ย.นี้ จะเป็นการแข่งขันวันที่สองจะมีนักกีฬาทีมชาติไทยลงทำการแข่งขันใน 20 รุ่น โดยเริ่มรอบคัดเลือกในช่วงเช้าและชิงชนะเลิศในช่วงบ่ายและค่ำวันเดียวกัน