เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แสดงความเป็นกังวล หลังกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตัดงบ 150 ล้านบาท ในการที่จะใช้จัดศึกรถจักรยานยนต์ทางเรียบ "โมโตจีพี 2023" ซึ่งจะมีขึ้น 27-29 ต.ค.นี้ ที่จ.บุรีรัมย์ พร้อมแสดงความเป็นห่วงหลายสมาคมกีฬายังได้รับเงินสนันสนุนไม่ครบ เร้าผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งรัดทำเรื่องนี เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้กับนักกีฬา
ความคืบหน้าในการเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันรถจัรกยานทางเรียบชิงแชมป์โลก รายการโมโตจีพี 2023 สนามที่ 17 ภายใต้ชื่อการแข่งขัน "โออาร์ ไทยแลนด์ กรังด์ปรีซ์ 2023" ซึ่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 27-29 ต.ค. 66 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ อย่างไรก็ตามเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่มี "บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ไม่อนุมัติงบประมาณ 150 ล้านบาท ในการจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2023 โดยให้เหตุผลว่า งบประมาณจัดการแข่งขันควรใช้งบจากการหาสปอนเซอร์ หรือ ผู้สนับสนุนแทน และไม่ควรใช้เงินของกองทุนพัฒนากีฬาอาชีพนั้น
ล่าสุดเกี่ยวกับประเด็นนี้ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 66 ณ ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาแสดงความเป็นกังวลถึงเรื่องนี้ ซึ่งอาจหากไม่สามารถดำเนินการจัดต่อไปได้ จะกระทบกับภาพลักษณ์ทางด้านการท่องเที่ยว ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ซึ่งเรื่องนี้น่าเป็นห่วง ต้องมาดูก่อนว่า การตัดงบประมาณ 150 ล้านบาท เอาไปทำอะไร หรือมีความเป็นไปได้ทางไหนบ้าง ที่จะให้การแข่งขันดำเนินต่อไปได้ ซึ่งอาจต้องหาแหล่งเงินทุนอื่นๆ หรือลดจำนวนเงินลงไป
"กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอยู่ในการดูแลของพรรคเพื่อไทย ซึ่งวานก่อน ผมได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิพาพบปะพูดคุยกัน รวมถึงการกีฬาแห่งประเทศไทย ที่รับผิดชอบด้านกีฬา และกองทุนพัฒนาการกีฬาด้วย ทราบมาว่าหลายๆสมาคมกีฬายังไม่ได้รับสนับสนุนในศึกเอเชียนเกมส์เลย จึงอยากฝากถึงผู้ที่รับผิดชอบในส่วนนี้ด้วยว่า หากจ่ายเงินออกมาได้ ก็จะช่วยสร้างขวัญและกำลังใจในการสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ส่วนถ้าติดขัดตรงไหนก็อยากจะให้พยายามเร่งผลักดัน ผันเงินออกมาให้กับหลายๆสมาคมกีฬาที่เดือดร้อน ที่ทราบมาอย่างสมาคมเทควันโดแห่งประเทศไทย ก็มีการติดค้างอยู่นับ 10 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ค่อนข้างน่าเป็นห่วงเหมือนกัน"
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า ศึกโมโตจีพี ถือเป็นงานสำคัญของประเทศ ซึ่ง กกท. ต้องทำทุกทางให้จัดการแข่งขันให้ได้ โดยอาจจะต้องเกลี่ยงบประมาณ 2566 ไปรวมกับงบประมาณปี 2567 และเรื่องที่จะต้องทำควบคู่กันคือจะต้องทำเรื่องเสนอรัฐบาลใหม่ เพื่อขออนุมัติงบกลาง ทันทีที่รัฐบาลใหม่เข้ามาทำงาน