เปิดหัว มีทเดอะเพรสเอเชียนเกมส์ 8 สมาคมร่วมแถลง-เอ็กซ์ตรีมหวังตั้งเป้าคว้า 2 ทอง

เปิดหัว มีทเดอะเพรสเอเชียนเกมส์ 8 สมาคมร่วมแถลง-เอ็กซ์ตรีมหวังตั้งเป้าคว้า 2 ทอง
8 สมาคมกีฬาร่วมแถลงข่าว​ "มีทเดอะเพรส" สู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 "หางโจเกมส์" เอ็กซ์ตรีมมั่นใจคว้า 2 ทองจากอินไลน์สเกตฟรีสไตส์ ขณะที่โปโลน้ำทีมหญิงลุ้นเหรียญทองแดง "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ หัวหน้าคณะนักกีฬาย้ำเตือนนักกีฬาไทยต้องผ่านการอบรมสารกระตุ้นมีใบรับรองยื่นต่อเจ้าภาพ หากไม่มีจะโดนตัดสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขัน

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยเป็นประธานในงานแถลงข่าวความพร้อมของทัพนักกีฬาไทยที่จะเข้าร่วมการแข่งขันในมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่นครหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน - 8 ตุลาคม 2566 ในงาน "มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19" รอบที่ 1 โดยมี "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานและเหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 พร้อมผู้แทนจาก 8 สมาคมกีฬาประกอบด้วย สมาคมกีฬายกน้ำหนักแห่งประเทศไทย,สมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย,สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย,สมาคมกีฬาหมากล้อม,สมาคมกีฬามวยปล้ำแห่งประเทศไทย,สมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย, สมาคมกีฬาหมากล้อมสากล และ สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ร่วมงานแถลงข่าว ที่ห้องประชุม 222 สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2566   โดยสมาคมที่ตั้งความหวังเหรียญทองมีเพียงสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เพียงสมาคมเดียวที่ตั้งเป้าไว้ 2 เหรียญทองจาก อินไลน์สเก็ต ประเภทฟรีสไตส์ 

 นายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร อุปนายกสมาคมกีฬาเอ็กซ์ตรีมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้สมาคมส่งเข้าร่วม 3 ประเภท ประกอบด้วย สเก็ตบอร์ด, อินไลน์สปีด และ อินไลน์ฟรีสไตล์ ส่งนักกีฬาประเภทละ 8 คน โดยในประเภทสเก็ตบอร์ดเรายังค่อนข้างเป็นรองชาติต่างๆ ในเอเชีย แต่ที่อีเว้นต์ที่นักกีฬาไทยโดดเด่นจริงๆ คือประเภท อินไลน์ฟรีสไตล์ ซึ่งเราเป็นระดับท็อปในเอเชียมีโอกาสคว้าเหรียญทองมากที่สุดถึง 2 เหรียญทอง 

 นอกจากนี้ นายวิสุทธิ์ ตั้งวาริธร ในฐานะนายกสมาคมกีฬามวยปล้ำแห่งประเทศไทย ยังเผยด้วยว่า สมาคมเพิ่งมีผลงานที่ดีจากกีฬาซีเกมส์ที่ผ่านมาล่าสุดที่ประเทศกัมพูชา เราได้เหรียญทองมา ทำให้ได้งบประมาณการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งขาติให้เตรียมไปฝึกซ้อมที่คาซัคสถานในเดือนหน้า ซึ่งเป็นประเทศอันดับหนึ่งของเอเชียในกีฬามวยปล้ำ ก็คิดว่าจะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์และพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาเพื่อความพร้อมก่อนไปหางโจว โดยเราจะส่งแข่งทั้งหมด 11 คน เพราะก่อนหน้านี้เพิ่งบาดเจ็บไป 1 คน ส่วนความหวังตอนนี้คงขอแค่หวังลุ้นเหรียญรางวัลต้องไปดูที่การจับสลากแบ่งสายอีกครั้ง 

 ร.ต.อ.วัลลภ จิราทรวัฒนา รองเลขาธิการสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เราส่งทัพใหญ่เข้าร่วม โดยแบ่งเป็น ว่ายน้ำ 20 คน, โปโลน้ำทีมชาย-หญิง ทีมละ 13 คน รวมเป็น 26 คน, กระโดดน้ำ 4 คน, ระบำใต้น้ำ 12 คน และ ว่ายน้ำมาราธอน 4 คน รวมทั้งหมดเป็นจำนวน 66 คน โดยเราเก็บตัวต่อเนื่องมาตั้งแต่จบกีฬาซีเกมส์เมื่อช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมตั้งความหวังไว้ที่ โปโลน้ำทีมหญิงที่โอกาสลุ้นเหรียญ เพราะ อชก. ครั้งที่ 18 ทีมไทยคว้าอันดับ 4 มาครอง แต่ในครั้งนี้มั่นใจว่าต้องติด 1 ใน 3  เพราะต้องเจอกับคู่แข่งสุดแกร่งไม่ว่าจะเป็น จีน, ญี่ปุ่น เป็นระดับแชมป์โอลิมปิก นอกจากนี้ก็ยังมีเกาหลีใต้, คาซัคสถาน และ อุซเบกิสถาน ส่วน ว่ายน้ำ หวังเข้าไปถึงรอบชิงชนะเลิศและทำสถิติได้ดีกว่าเดิม ก็หวังว่า

 ด้าน รุ่งกานต์ แสงทองสกุลเลิศ กรรมการบริหารสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า นักกีฬาของสมาคมที่จะส่งแข่งในเอเชียนเกมส์ครั้งนี้แบ่งออกเป็น ยิมศิลป์ ชาย 5 คน, ยิมศิลป์ หญิง 3 คน และ ยิมนาสติกลีลา 3 คน รวมทั้งหมด 11 คน โดยในช่วงปีหลังมานี้เรามีลำดับผลงานการได้เหรียญรางวัลที่ดีขึ้นและมีการนำผู้ฝึกสอนที่มีฝีมือจากต่างประเทศเข้าช่วยทีมชาติด้วย ต้องยอมรับว่า จีน ญี่ปุ่น คาซัคสถาน มีฝีมือระดับระดับโลก คงต้องพยายามตั้งเป้าไว้ว่าจะทำอย่างไรให้นักกีฬาไทยผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ 

 นายชยวัฒน์ พิเศษสิทธิ์ นายกสมาคมกีฬาบริดจ์แห่งประเทศไทย เผยว่า เอเชียนเกมส์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่เราเข้าร่วม ครั้งนี้ยอมรับว่าหินมาก เปิดชิงชัย 3 เหรียญทอง แม้สมาคมจะเตรียมนักกีฬามากว่า 2 ปี แต่ในระดับเอเชียนเกมส์ยังคงเป็นระดับที่เราเป็นรองเขา ลึกๆ แล้วเราหวังเล็กๆ ว่าจะได้เหรียญใดเหรียญหนึ่ง แต่คงไม่กล้าคาดหวังสูง  

 นาวาเอก เพชรเกษม รตาภรณ์ รองเลขาธิการสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมทำการส่งนักกีฬาเข้าร่วมเอเชียนเกมส์ครั้งนี้ชาย 7 รุ่น และ หญิง 7 รุ่น คงยังไม่สามารถฟันธงได้เพราะยังไม่เห็นรายชื่อคู่แข่ง เนื่องจากจะมีสนามควอลิฟายน์โอลิมปิกเกมส์ที่ซาอุดิอาระเบียและที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ถึงตอนนั้นคงจะได้เห็นนักกีฬา และเราก็จะใช้ 2 สนามนี้เตรียมความพร้อมนักกีฬาให้มากขึ้นด้วย แต่ยังไม่กล้าฟันธงเหรียญทองเพราะจะเป็นการกดดันนักกีฬา แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด

 ด้าน "บิ๊กต้อม" ธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานและเหรัญญิก คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยชุดสู้ศึกเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 เปิดเผยว่า เจ้าภาพจีนตั้งไว้ โดยครั้งนี้เจ้าภาพกำหนดให้นักกีฬาเดินทางไปก่อนแข่งขันจริง 3 วัน และเดินทางกลับหลังแข่งขันเสร็จ 1 วัน เชื่อว่าด้วยเหตุการณ์โควิดที่เลื่อนการแข่งขันออกมา 1 ปี จะทำให้จีนมีความพร้อมมากๆ เพราะผ่านการเป็นเจ้าภาพระดับโลกมาแล้ว  

 "นอกจากนี้จีนยังได้แจ้งให้ผู้เข้าร่วมทุกคนตรวจ ATK ก่อน 24 ชั่วโมงก่อนขึ้นเครื่องเดินทางไปยังประเทศจีน และจะมีการตรวจทุก 3 วันเมื่ออยู่ในทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน รวมทั้งจะมีการใช้แอพลิเคชั่นติดตามตัวของเจ้าภาพเพื่อติดตามการเดินทางของนักกีฬาว่าเดินทางไปไหนอย่างไร เพื่อป้องกันความปลอดภัยต่างๆ จากเรื่องของโควิด"

 นอกจากนั้นของเรื่องของสารต้องห้ามนั้น ทาง โอซีเอ หรือ สภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย รวมทั้ง องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาดะ ได้ระบุให้นักกีฬาทุกคนมีการอบรมเรื่องของสารต้องห้าม การใช้ยาหรือสารกระตุ้นต่างๆ และต้องผ่านมาตรการในการตรวจโด๊ปจากศูนย์โด๊ปปิ้งของแต่ละประเทศนั้นๆ มาก่อน ต้องมีใบรับรองที่ยืนยันว่าผ่านการอบรมแล้ว ซึ่งของไทยเรานั้นการกีฬาแห่งประเทศไทยก็ได้มีการจัดอบรมและออกใบรับรองให้กับนักกีฬาทุกคนเป็นที่เรียบร้อย ทุกคนจะต้องส่งใบดังกล่าวในหลักฐานการเดินทางและต้องติดตัวไปด้วยในการเดินทาง หากใครไม่มีใบดังกล่าวนี้ติดตัวไป เจ้าภาพจะไม่ให้แข่งขัน ก็ฝากเตือนทุกคนว่าหากใครยังไม่มีใบรับรองหรือยังไม่ผ่านการอบรม ให้รีบดำเนินการโดยด่วน" บิ๊กต้อม กล่าว   

 สรุป มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 1 ทั้ง 8 สมาคมกีฬาตั้งเป้ารวม 2 เหรียญทอง 1 เหรียญทองแดง แบ่งเป็น เอ็กซ์ตรีม 2 เหรียญทอง และ ว่ายน้ำ 1 เหรียญทองแดง

 สำหรับกำหนดการ มีต เดอะ เพรส เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 รอบที่ 2 จะมีขึ้นในวันพุธที่ 16 สิงหาคม 2566 โดยจะมี 4 สมาคมกีฬา ประกอบด้วย ตะกร้อ, เทควันโด, ยูโด และ คาราเต้


ที่มาของภาพ : siamsport
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport