ไทย-มาเลย์-สิงคโปร์พร้อมสร้างมาตรฐานซีเกมส์มุ่งจัดกีฬาสากลต่อยอดเอเชียนเกมส์,โอลิมปิก

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32  ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เตรียมจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค. 2566 ว่า เมื่อช่วงกลางเดือนก.ย.ที่ผ่านมา เพิ่งมีการประกาศชนิดกีฬาแข่งขันจากทางเจ้าภาพ ซึ่งกำหนดจัด 37 กีฬา ชิงชัย 608 ทอง นับว่ามากสุดในประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการแข่งขันมา เรื่องนี้ต้องยอมรับว่า เราไม่ได้สนเหรียญรางวัลรวม แต่ขอมุ่งเน้นไปที่การชิงการเป็นเบอร์ 1 ในชนิดกีฬาสากลที่มีแข่งขันในเอเชียนเกมส์และโอลิมปิกเป็นหลักสำคัญ

ดร.ก้องศักด เผยว่า มีหลายกีฬาและหลายอีเวนต์ที่เป็นกีฬาพื้นบ้านที่เจ้าภาพเลือกบรรจุเข้ามาในครั้งนี้  อย่างไรก็ตามในวงรอบที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพ ขอยืนยันว่า เราจะเน้นบรรจุกีฬาสากล  ที่ต่อยอดไปแข่งขันในเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ได้  ซี่ง ไทย และเจ้าภาพในอีก 2 ครั้งถัดไป อย่าง มาเลเซีย เจ้าภาพในปี 2027 และสิงคโปร์ ในปี 2029 ก็ตกลงกันแล้วว่าจะจับมือกันยกมาตรฐานให้วงการกีฬาอาเซียนอีกครั้ง ด้วยการมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับการแข่งขันในกลุ่มชนิดกีฬาสากล

ผู้ว่าการกกท.ยังเผยถึง การคัดเลือกจังหวัดที่จะทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2025 ซึ่งเป็นวงรอบที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพว่า เวลานี้กกท.ในฐานะผู้ที่รับผิดชอบ เตรียมคลอดเกณฑ์ในการคัดเลือกเมืองและเปิดโอกาสให้หลายจังหวัดที่แสดงความสนใจยื่นข้อมูลสมัครอย่างเป็นทางการ  เพื่อจะได้รู้ว่าจังหวัดไหนต้องเสนอตัวอย่างไรและเตรียมความพร้อมเรื่องไหนบ้าง โดยที่ผ่านมามีหลายจังหวัดในภูมิภาคต่างๆที่แสดงความชัดเจนและต้องการเสนอตัวทำหน้าที่ และก็คาดว่าในการคัดเลือกของไทย จะใช้เวลาไม่นานนัก เพราะขั้นตอนหลังจากได้จังหวัดเจ้าภาพแล้ว ประเทศไทยยังต้องส่งเรื่องไปยังคณะมนตรีซีเกมส์ และไปยืนยันรับธงจัดการแข่งขันในหลังจบการแข่งขันครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา ในเดือนพ.ค.2023

"ส่วนคุณสมบัติและเกณฑ์การคัดเลือกหลักๆนั้น ที่ย้ำเสมอมาคือ กกท.ส่งเสริมให้มีการใช้สิ่งที่จังหวัดนั้นๆมีอยู่แล้วมาปรับปรุงให้ดีขึ้นและใช้ใหม่ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งไม่ส่งเสริมให้สร้างสนามกีฬาใหม่  และก็จะพยายามไม่ให้มีการจัดแข่งขันที่กระจายเมืองกันมากเกินไป เพราะในการแข่งขันคร้ังที่ 31 ที่เวียดนาม เมื่อเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา มีตัวอย่างให้เห็นมาแล้วว่า สร้างความลำบากให้กับชาติต่างๆที่เข้าร่วมในการแข่งขัน ใช้งบประมาณเยอะ ส่วนนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ก็มีความลำบากในการเดินทางไปเข้าร่วม"