สำหรับการแข่งขันกรีฑาเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย ต้องห่างหายไปนานถึง 5 ปีเต็ม นับตั้งแต่ปี 2018 ที่เมืองกิฟุ ประเทศญี่ปุ่นเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เนื่องด้วยผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ระบาดไปทั่วโลก พอสถานการณ์กลับมาปกติ สมาคมกรีฑาแห่งเอเชีย(AAA) ได้นำรายการนี้กลับมาจัดการแข่งขันอีกครั้ง เพื่อให้นักกรีฑาเยาวชนของแต่ละชาติ ทั้งประเภทลู่-ลาน ได้มีเวทีประลองกัน

ด้านสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมชาชูปถัมภ์ ได้ทำการคัดเลือกและส่งนักกีฬาไปร่วมชิงชัย 20 ชีวิตด้วยกัน ซึ่งมีดังนี้

1. "บิว" ภูริพล บุญสอน, 2. "โอ๊ต" ธวัชชัย หีมเอียด, 3. "เบสต์" ศราวุฒิ นวลศรี, 4. "ก้อง" วัชพล ถันทอง, 5. "เมฆ" ศุภกร สินทรัพย์, 6. "ปาย" ณัฐพล สุขเกษม, 7. "ลักกี้" ลักกี้ ยูยามาดู, 8. "ซิม" เมธาวี กัณหาอุดม, 9. "ภูมิ" ธวัชชัย คงแจ่ม, 10. "เฮง" เมธาสิทธิ์ ครามพินิจ, 11. "ไอซ์" อธิชา เพ็ชรกุล, 12. "อิ๋ง" มนัสดา สารมโน, 13. "มิลล์" สุวิมล สระเทียนทอง, 14. "แบม" วิลาสิณี จงจิตต์, 15. "เบลล์" จิราพัชร ขานอ่อนตา, 16. "มุก" ทิพเนตร มีชาญ, 17. "เชียร์" อังคณา ทองแท้, 18. "เพนท์" ภัทราภรณ์ เดชานนท์, 19. "เมย์" มลธิดา ทองประจุแก้ว และ 20. "คิว" ศศิกานต์ เกตบุตร

ก่อนที่การแข่งขันจะเริ่ม ทัพรองเท้าตะปูจากแดนสยามต้องเผชิญกับข่าวที่ไม่สู้ดีนักเมื่อ "เทพบิว" ภูริพล บุญสอน ความหวังเหรียญทองสูงสุดของไทยในทัวร์นาเมนต์นี้ ถูกถอนชื่อจากการแข่งขันอย่างน่าเสียดาย เนื่องจากสต๊าฟโค้ชมองว่า เจ้าตัวยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บร้อยเปอร์เซ็นต์ 

อาการบาดเจ็บดังกล่าว เกิดขึ้นบริเวณตนขาซ้าย ในระหว่างการแข่งขันวิ่ง 200 เมตรชายรอบชิง ในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา เมื่อเดือนก่อน หากเจ้าตัวได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม อาจส่งผลให้เจ็บยาว และจะไม่ทันลงชิงชัยศึกกรีฑาชิงแชมป์เอเชีย 2023 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 12-16 ก.ค.นี้

เมื่อเป็นเช่นนี้ ทำให้ความหวังเหรียญทองจากการวิ่งระยะสั้นทั้ง 3 อีเวนต์ของทีมกรีฑาไทย อันได้แก่ วิ่ง 100 เมตรชาย, วิ่ง 200 เมตรชาย และวิ่งผลัด 4X100 เมตรชาย ต้องหายไปด้วย

อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้ว จากผลงานที่คว้ามาได้ 1 เหรียญทอง, 3 เหรียญเงิน กับอีก 1 เหรียญทองแดง รั้งอันดับ 8 จากทุกชาติเข้าร่วมแข่งขัน ถือเป็นผลงานที่ไม่เลวของสมาคมกรีฑาไทย

สำหรับ 1 เหรียญทองได้จากวิ่งผลัด 4x400 เมตรชาย (เมธาวี  กัญหาอุดม, ลักกี้ ยูยามาดู, ธวัชชัย หีมเอียด และ ศราวุฒิ นวลศรี)

เหรียญเงินได้จากวิ่งผลัด 4x100 เมตรหญิง (จิราพัชร ขานอ่อนตา, มนัสดา สารมโน, สุวิมล สระเทียนทอง และ อธิชา เพ็ชรกุล), วิ่ง 200 เมตรหญิง (อธิชา เพ็ชรกุล) และ วิ่ง 200 เมตรชาย (ศราวุฒิ นวลศรี) ส่วนอีก 1 เหรียญทองแดงจาก อธิชา เพ็ชรกุล

ดาวเด่นแห่งทีมกรีฑาไทยในรายการนี้ คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก "เบสต์" ศราวุฒิ นวลศรี นักวิ่งหนุ่มวัยเพียง 16 ปี ที่มีส่วนสำคัญ กับการวิ่งไม้สุดท้าย จนพาทีมผลัด 4X400 เมตรหนุ่มไทย คว้าเหรียญทองโทนประจำการแข่งขัน นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคว้าเหรียญเงินวิ่ง 200 เมตรชายได้อย่างยอดเยี่ยมด้วย 

อันที่จริง ลมกรดจากชุมพรรายนี้ แจ้งเกิดอย่างเต็มตัว จากการแข่งขันกรีฑายุวชนอายุไม่เกิน 18 ปีชิงแชมป์เอเชีย 2023 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ณ ประเทศอุซเบกิสถาน

รายการดังกล่าว "เบตส์" สามารถคว้าคนเดียว 2 เหรียญทองจากอีเวนต์วิ่ง 400 เมตรชายและผลัดผสมชาย (100+200+300+400 เมตร)

ทั้ง 2 เหรียญทองดังกล่าว เจ้าตัวยังมีส่วนสร้างสถิติใหม่ ในรายการกรีฑายุวชนยู-18 ชิงแชมป์เอเชียอีกด้วย โดยวิ่ง 400 เมตรทำได้ 46.92 วินาที ขณะที่ผลัดผสมทำสถิติได้ 1.52.59 น.

ส่วนอีกคนที่น่าจับตาไม่แพ้กันก็คือ "ไอซ์" อธิชา เพ็ชรกุล ลมกรดสาววัยเพียง 18 ปี ที่ได้กลายเป็นตัวหลักของทีมชาติชุดใหญ่ไปเป็นที่เรียบร้อย 

ในศึกกรีฑาเยาวชนเอเชียหนนี้ สปรินเตอร์สาวจากปทุมธานี คว้าไปได้ 2 เหรียญเงิน จากวิ่ง 200 เมตรหญิง, วิ่งผลัด 4X100 เมตรหญิง และอีก 1 เหรียญทองแดงจากวิ่ง 100 เมตรหญิง 

แม้จะไม่มีเหรียญทองติดมือกลับบ้าน ทว่าจากผลงานที่ดีวันดีคืน เธอจึงเป็นดั่งเพชรเม็ดงามอีกดวง ที่จะคอยไล่ล่าความสำเร็จให้กับทัพกรีฑาไทย ในอีกหลายทัวร์นาเมนต์ต่อจากนี้