สมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย เตรียมจัดการแข่งขัน "ออมสิน ยิมนาสติกลีลา ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย" ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 43 ประจำปี 2566 ระหว่างวันที่ 11-14 มิ.ย.นี้ ที่ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา
น.ต.ศรายุทธ พัฒนศักดิ์ นายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย และ ประธานสหพันธ์ยิมนาสติกแห่งอาเซียน เปิดเผยว่า การแข่งขันปีนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดีเนื่องจากมีนักกีฬายิมนาสติกจากทุกสโมสรทั่วประเทศ ส่งเข้าร่วมแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก โดยแบ่งออกเป็นรุ่นยุวชน, รุ่นเยาวชน และ รุ่นประชาชน ที่สำคัญมีบรรดาดาวรุ่งที่ผลงานดี จำนวนมากเข้าร่วมแข่งขัน เพื่อเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการมีชื่อถูกเรียกเก็บตัวทีมชาติไทย โดยเฉพาะในรุ่นเยาวชน ที่มี "ลูกน้ำ" พรรษพร ทับทอง นักกีฬายิมนาสติกลีลาทีมชาติไทย วัย 14 ปี กับ ปุณณิชา สุทธิธรรม รวมถึงรุ่นประชาชน "ปอปอ" พิยดา พีรมธุกร นักกีฬายิมนาสติกทีมชาติไทยวัย 18 ปี ยังร่วมแข่งขันเหมือนเดิม
"ปอปอ" น.ส.พิยดา พีรมธุกร เจ้าของแชมป์ประเทศไทย 8 สมัย แบ่งเป็นยุวชน 2 ปี, เยาวชน 3 ปี และ ประชาชน 3 ปี เปิดเผยว่า หลังจากคว้าอันดับที่ 17 ในการแข่งขันชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศฟิลิปปินส์เมื่อเดือนที่แล้วว่า ผลงานดังกล่าวทำให้มีความมั่นใจมากขึ้น ประกอบกับร่างกายมีความสมบูรณ์เต็มที่ ไม่มีอาการบาดเจ็บรบกวน ยังคงมุ่งหน้าคว้าแชมป์สมัยที่ 9 ทั้งที่รู้ดีว่า มีนักกีฬาหลายคนที่ความสามารถพัฒนาใกล้เคียงกัน ถือว่าเป็นเรื่องดีที่ทำให้เราไม่ประมาทคู่แข่งขัน
ขณะที่ "ลูกน้ำ" ด.ญ.พรรษพร ทับทอง แชมป์ประเทศไทย 4 สมัย วัย 14 ปี แบ่งเป็นแชมป์ยุวชน 2 ปี และ แชมป์เยาวชน 2 ปี ปีนี้ยังลงแข่งระดับเยาวชนต้องการเก็บแชมป์สมัยที่ 3 และเพิ่มสถิติเป็นแชมป์สมัยที่ 5 เหมือนพี่ "ปอปอ" ก่อนจะขยับขึ้นรุ่นประชาชนปีหน้า ส่วนปีนี้รู้สึกกดดันบ้างเนื่องจากมีหลายคนที่พัฒนาฝีมือและความสามารถขึ้นมาดี แต่ขอสู้เต็มที่เพื่อเทียบสถิติรุ่นพี่ให้สำเร็จตามที่ได้ตั้งใจไว้
"ครูไก่" ดร.กุสุมาลย์ ประเสริฐศรี อุปนายกสมาคมกีฬายิมนาสติกแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมชาติไทย กล่าวว่า ศึกชิงแชมป์ประเทศไทยปีนี้ ยังคงเหมือนเดิม โดยแบ่งการแข่งขันเป็นรุ่นยุวชน, เยาวชน และ ประชาชน ที่ดีใจคือมีนักกีฬาจากทั่วทุกภาคส่งเข้าร่วมแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก แข่งขัน 4 วัน โดยวันที่ 11 -12 มิ.ย. เป็นรุ่นยุวชน กับ ประชาชน ชิงชนะเลิศประเภททีม และ บุคคลรวมอุปกรณ์ ส่วนวันที่ 13 มิ.ย. ช่วงเช้า เป็นรุ่นยุวชน และ เยาวชน ชิงชนะเลิศประเภทกรุ๊ปเอ็กเซอร์ไซส์ 5 อุปกรณ์
จากนั้นช่วงบ่าย รุ่นประชาชน ชิงชนะเลิศ ประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์, ประเภทบุคคลเฉพาะอุปกรณ์ (ห่วง กับ บอล) ด้านวันที่ 14 มิ.ย. ช่วงเช้า รุ่นยุวชน ชิงชนะเลิศประเภทเฉพาะอุปกรณ์ (ห่วง - บอล) ต่อเนื่อง รุ่นเยาวชน ชิงชนะเลิศประเภทบุคคลเฉพาะอุปกรณ์ (คฑา - ริบบิ้น) และปิดท้าย ประเภทประชาชน ชิงชนะเลิศ ประเภททีม, ประเภทบุคคลรวมอุปกรณ์ และ บุคคลเฉพาะอุปกรณ์ (คฑา และ ริบบิ้น)
"ครูไก่" เผยอีกว่า ปีนี้จะลงลึกในรายละเอียด แต่ละคน แต่ละอุปกรณ์อย่างชัดเจน ด้วยการเฟ้นหานักกีฬาที่ฉายแววโดดเด่น คัดคนที่เก่ง และ มีความสามารถจริง ๆ เข้ามาเก็บตัวทีมชาติไทย ซ้อมกับผู้ฝึกสอนมืออาชีพชาวต่างชาติ และ "ครูบาส" ที่เป็นครูสอนนักเต้นให้กับศิลปินนักร้องชื่อดังของไทย กับเป้าหมายใหญ่ ในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่จีนในช่วงปลายนี้ และต่อเนื่องไปถึงการเตรียมไว้เข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย ในอีก 2 ปีข้างหน้า ดังนั้นรายการนี้ ไม่มีเด็กเส้น ไม่มีรายการคุณขอมา หากไม่เก่งจริง ปิ๋วอย่างแน่นอน