เพาะกายวางแผนลุย 3 ศึกตลอดปี 2023 ประกอบด้วย ชิงแชมป์อาเซียน, ชิงแชมป์เอเชีย และชิงแชมป์โลก ล่าสุดเปิดคัดนักกีฬารวม 66 คน เพื่อหานักกีฬาทำศึกทั้ง 3 รายการ
นายศุกรีย์ สุภาวรีกุล นายกสมาคมกีฬาเพาะกายและฟิตเนสแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ล่าสุดสมาคมฯ ได้จัดการแข่งขันคัดเลือกนักกีฬาเพาะกายทีมชาติไทย ในงานเชิดชูเกียรติตำนานนักกีฬาซีเกมส์ไทย ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ เพื่อคัดนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 3 รายการ ตลอดปี 2566 ประกอบด้วย ศึกชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ระหว่างวันที่ 8-12 มิ.ย.2566 ที่เมืองบาตั้ม ประเทศอินโดนีเซีย ต่อด้วยชิงแชมป์เอเชีย วันที่ 1-7 ก.ย.2566 ที่เนปาล และชิงแชมป์โลก วันที่ 6-12 พ.ย.2566 ที่เกาหลีใต้ เป็นจำนวน 11 ประเภท
"จากนักกีฬาทั้งหมด 66 คน ถึงแม้จะมาเข้าร่วมการแข่งขันคัดตัวนักกีฬาครั้งนี้แค่ 65 คน ก็ตาม ไม่มีปัญหาแต่อย่างไร เราให้ทางกลุ่มสตาฟฟ์โค้ช และกรรมการผู้ตัดสินมาพิจารณาการคัดตัวครั้งนี้ ซึ่งเป็นการแข่งขันคัดตัว เหมือนการแข่งขันจริง ทั้งประเภทเพาะกาย แอธเลติกฟิสิค สปอร์ตฟิสิค โมเดลฟิสิคฟิตเนส"
นายศุกรีย์ เผยต่อไปอีกว่า วัตถุประสงค์ในการแข่งขันคัดตัวทีมชาติครั้งนี้ มีขึ้นเพื่อตัดตัวนักกีฬา จาก 66 คน เราจะคัดนักกีฬาชุดแรก 17 คน เพื่อ เข้าร่วมการแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วันที่ 8-12 มิ.ย.2566ที่ อินโดนีเซีย ต่อด้วยรายการที่ 2 อีก 38 คน เข้าร่วมการแข่งขัน ชิงแชมป์เอเชีย วันที่ 1-7 ก.ย.2566 ที่เนปาล ส่วนที่เหลืออีก 11 คน จะไปแข่งชิงแชมป์โลก วันที่ 6-12 พ.ย.2566 ที่เกาหลีใต้
"ในสัปดาห์หน้า ทางทีมโค้ชเพาะกายทีมชาติไทยจะเข้าร่วมประชุมหารือร่วมกัน เพื่อพิจารณาว่า จากผลการคัดตัวนักกีฬาครั้งนี้ คนไหนเหมาะสมที่จะลงแข่งรายการไหน และหลังจากนั้นจะประกาศรายชื่อนักกีฬาต่อไป โดยนักกีฬาที่ได้ที่ 1 ชิงแชมป์อาเซียน จะได้เป็นตัวแทนไปแข่งชิงแชมป์เอเชีย และนักกีฬาที่ได้ ที่ 1 ชิงแชมป์เอเชีย จะได้สิทธิ์ไปแข่งขันชิงแชมป์โลก ต่อไป ทางสมาคมฯ ต้องการเฟ้นหาคนที่ดีที่สุด เพื่อจะได้ไปแข่งขันและสามารถสร้างชื่อเสียงและความสำเร็จมาสู่ประเทศไทยต่อไปในอนาคต"