"ส่วน 4 เหรียญทองที่ทำได้มาจาก เรือยาว 12 ฝีพาย รุ่นทั่วไป ระยะ 250 ม., เรือยาว 12 ฝีพายทีมผสม รุ่นอายุไม่เกิน 24 ปี ระยะ 250 ม., เรือยาว 12 ฝีพายชาย รุ่นอายุไม่เกิน 24 ปี ระยะ 500 ม.  และ เรือยาว 12 ฝีพาย รุ่นอายุไม่เกิน 24 ปี ระยะ 800 ม. ซึ่งก็ถือเป็น 4 ใน 6 อีเวนต์ของการแข่งขันเรือยาวมังกรในซีเกมส์รอบนี้ ส่วนอีก 7 รายการ ที่เจ้าภาพจัดนั้น ล้วนเป็นการแข่งขันเรือประเพณีทั้งสิ้น" 

นาวาเอก วิวัฒน์ เผยต่อไปอีกว่า ในปี 2023 ทีมเรือยาวมังกร ยังมีทัวร์นาเมนต์ใหญ่ให้ลงทำการแข่งขันอีก 2 รายการ คือ การแข่งขันเรือยาวมังกรชิงแชมป์โลก 2023 ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคมนี้ ก็คาดว่าน่าจะใช้อ่างเก็บน้ำมาบประชันเป็นสถานที่จัดชิงชัย เหมือนที่ไทยเคยเป็นเจ้าภาพจัดครั้งล่าสุดเมื่อปี 2019 รวมถึงยังมีการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 ที่หางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงเดือนกันยายน" 

"สำหรับนักกีฬาทั้ง 2 ชุด สมาคมก็ได้คัดเลือกเอาไว้แล้ว โดยในศึกชิงแชมป์โลก ที่เราเป็นเจ้าภาพ มั่นใจว่าด้วยศักยภาพของไทย รวมถึงประสบการณ์ที่ผ่านมาที่เราเคยทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพจะสามารถจัดการแข่งขันออกมาได้ดี และสมาคมก็หวังว่านักกีฬาของไทยที่ได้ลงแข่งขันในฐานะเจ้าบ้าน มีความคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมต่างๆ จะประสบความสำเร็จอีกครั้ง ส่วนเอเชียนเกมส์ โอกาสคว้าเหรียญทองของทีมไทยมี แต่ก็มองข้ามคู่แข่งสำคัญ อย่าง เจ้าภาพ จีน, ไทเป, อินโดนีเซีย หรือ เมียนมา ไม่ได้เช่นกัน" นาวาเอก วิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย