เมื่อพูดถึงคุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่เกือบทั้งประเทศ ต่างรู้จักท่านเป็นอย่างดี เนื่องจากมหาบุรุษผู้นี้ คือนักการเมืองชื่อดังมาอย่างยาวนาน จนเคยดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีมาแล้ว ส่วนอีกด้านหนึ่งที่เป็นภาพลักษณ์ติดตัวคุณสุวัจน์มาโดยตลอดก็คือการเป็นคนรักกีฬา นอกจากจะเคยดำรงตำแหน่งรองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ยังเคยนั่งเก้าอี้นายกลอนเทนนิสสมาคมแห่งประเทศไทยอีกด้วย แถมตอนที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี ยังดูแลกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาอีกต่างหาก เรียกได้ว่างานด้านการบริหารกีฬา ถือเป็นหนึ่งในเรื่องที่คุณสุวัจน์ถนัดเป็นอย่างมาก
จากการคลุกคลีในวงการกีฬามาอย่างยาวนาน (พอๆกับการเมือง) จึงทำให้คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ มักจะเชิญอดีตนักกีฬาทีมชาติ ที่มีความสนใจการเมือง เข้ามาเป็นสมาชิกของพรรคด้วย เพื่อให้นักกีฬาเหล่านี้ เป็นปากเป็นเสียงแทนเพื่อนนักกีฬาอีกหลายๆคน ในการนำปัญหาที่เกิดกับวงการกีฬา มาแก้ไขให้ดีขึ้นต่อไป
ดังเช่นในปัจจุบัน พรรคชาติพัฒนากล้า ที่คุณสุวัจน์เป็นประธานพรรค ก็ยังคงมี "วิว" เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักเทควันโด ฮีโร่เหรียญทองแดงโอลิมปิก 2004 เป็นสมาชิกด้วย โดยเธอได้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งคราวนี้ด้วย
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 66 ที่ผ่านมา คุณสุวัจน์ ลิปตพัลลภ และทีมงานที่นำโดย เยาวภา บุรพลชัย ได้เดินทางไปที่อาคารที่พัก 200 เตียง ภายในสนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อเข้าเยี่ยมและให้กำลังใจนักกีฬาผู้พิการทีมชาติไทย ก่อนสู้ศึกอาเซียนพาราเกมส์ 2023 ระหว่างวันที่ 3-9 มิถุนายนนี้ ที่ประเทศกัมพูชา
คุณสุวัจน์ กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับคณะนักกีฬาผู้พิการทีมชาติไทย ทำให้รู้ว่ากีฬานั้นสร้างประโยชน์อันล้ำค่าให้กับชาติบ้านเมือง
"มีตัวแทนนักกีฬาคนพิการคนหนึ่งได้กล่าวกับผมว่า นักกีฬาคนพิการแทบทั้งหมด เคยเป็นคนปกติที่อวัยวะครบมาก่อน แต่พอเกิดอุบัติเหตุจึงกลายเป็นผู้พิการ จึงทำให้คุณพ่อหรือคุณแม่คนใดคนหนึ่ง ต้องลาออกจากงานประจำ เพื่อมาดูแลลูกที่พิการป่วยติดเตียง ผลกระทบที่ตามมาก็คือครอบครัวมีรายได้น้อยลง แต่พอผู้พิการเหล่านี้ ได้มาฝึกกีฬาและได้กลายเป็นนักกีฬาขึ้นมา กลายเป็นว่าเขาสามารถดูแลตัวเองได้ คุณพ่อหรือคุณแม่ที่ลาออกจากงานเพื่อมาดูแล สามารถกลับไปทำงานได้ตามปกติ ที่สำคัญนักกีฬาคนพิการทีมชาติหลายคน ยังเป็นหลอดเลือดใหญ่ในการหารายได้มาสู่ของครอบครัวอีกด้วย" คุณสุวัจน์ กล่าว
จะเห็นได้ว่า กีฬานั้นมีประโยชน์อย่างมหาศาล ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้า จึงมีนโยบายพัฒนาวงการกีฬาอย่างจริงจัง โดยมี 8 ข้อด้วยกัน
1. สนับสนุนให้ประชาชนทั่วไปและเยาวชนได้ออกกำลังกาย เพื่อสุขภาพ และสร้างความรักความสามัคคี ให้มีสถานที่ออกกำลังกายให้ทั่วถึง ในระดับหมูบ้าน ตำบล อำเภอ ในทุกจังหวัด โดยจัดให้มี mini sport complex และ mini fitness ให้ทั่วถึง
2. เพิ่มชั่วโมงของกิจกรรมกีฬาในโรงเรียนและมหาวิทยาลัย เพื่อการออกกำลังกาย และสร้างนักกีฬาทีมชาติและกีฬาอาชีพ ส่งเสริมให้มีโรงเรียนกีฬาในภูมิภาค และส่งเสริมหลักสูตรกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬาในสถาบันการศึกษา
3. ดึงภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจเข้ามาสนับสนุนการพัฒนาวงการกีฬา การจัดกีฬา การสร้างนักกีฬา โดยใช้มาตราการทางภาษีเป็นแรงจูงใจ
4. ส่งเสริมให้มีการจัดกีฬาระดับโลกในไทย เพื่อส่งเสริมเยาวชนให้สนใจกีฬา สร้างนักกีฬาทีมชาติ สร้างนักกีฬาอาชีพ และธุรกิจด้านกีฬา เพื่อสร้างงานสร้างรายได้สร้างพื้นฐานใหม่ด้านเศรษฐกิจจากกีฬา และเป็นการประชาสัมพันธ์ประเทศ ใช้กีฬาส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยการจัดกีฬาระดับโลกตามเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ
5. ผลักดันกีฬาที่เป็นของคนไทยและกีฬาพื้นบ้านให้เป็นกีฬาสากล เพื่อความภาคภูมิใจ ประชาสัมพันธ์ประเทศ เช่น การจัดแข่งขันมวยไทย สร้างความเป็นอัตตลักษณ์ทางด้านกีฬา เพื่อเป็น Soft Power สร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้ประเทศชาติ
6. ส่งเสริมให้มีลีกกีฬาอาชีพในทุกประเภทกีฬา เพื่อพัฒนาการกีฬาและสร้างนักกีฬาอาชีพ และเศรษฐกิจด้านกีฬา
7.เพิ่มเงินรางวัลให้นักกีฬาที่ชนะเลิศการแข่งขัน ระดับโอลิมปิก เหรียญทอง 20 ล้านบาท, เอเชียนเกมส์ เหรียญทอง 5 ล้านบาท และ ซีเกมส์ เหรียญทอง 1 ล้านบาทเพื่อสร้างแรงจูงใจ ในการสร้างชื่อเสียงและประชาสัมพันธ์ประเทศและความรักชาติ เพิ่มสวัสดิการดูแลฮีโร่นักกีฬาของชาติเพื่อเป็น Idol แบบอย่างในการกระตุ้นเยาวชนและการพัฒนาวงการกีฬา
8.จัดตั้งกองทุน Soft power 10,000 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนกีฬาที่เป็น soft power ที่สำคัญของชาติ เพื่อให้มีเงินทุนในการสนับสนุนด้านกีฬา ให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว สร้างความสุข เช่น การสร้างนักกีฬาดาวรุ่งจากเยาวชนสู่ระดับโลก การจัดกีฬาระดับโลก การจัดกีฬาตามเมืองท่องเที่ยว การอุดหนุนสมาคมกีฬาเพื่อพัฒนานักกีฬา การถ่ายทอดกีฬาระดับโลกให้คนไทยได้ชม และ สนับสนุนภารกิจต่างๆ ในการนำ soft Power ด้านกีฬามาก่อให้เกิดประโยชน์
จะเห็นได้ว่า กีฬามีประโยชน์หลายด้าน ทั้งเรื่องสุขภาพ หากคนไทยหันมาเล่นกีฬามากขึ้น สุขภาพก็จะแข็งแรง ก็จะช่วยประหยัดงบด้านสาธารณสุขไปด้วย นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความสุขและความสามัคคีให้กับคนทั้งชาติ ในยามที่นักกีฬาไทยประสบความสำเร็จในเวทีนานาชาติ คนทั้งประเทศก็มีความสุขตามไปด้วย อีกทั้งกีฬายังช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศอีกต่างหาก ถ้าประเทศเราได้เป็นเจ้าภาพกีฬารายการใหญ่ระดับโลก จะช่วยประชาสัมพันธ์ให้ชาวโลกรู้จักประเทศไทย และเดินทางมาเที่ยวประเทศไทยมากขึ้น
นอกจากนี้ กีฬายังมีประโยชน์อีกมากมาย ดังนั้นพรรคชาติพัฒนากล้าจึงเชื่อว่า ถ้าพัฒนากีฬาของประเทศอย่างจริงจัง จะส่งผลให้ชาติเจริญก้าวหน้าได้ คุณสุวัจน์กล่าวทิ้งท้าย