ไทยจัดวิ่งคบเพลิงซีเกมส์-อาเซียนพาราฯ,ยันเป้าเจ้ากีฬาสากล

ความเคลื่อนไหวของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ซึ่งจะมีขึ้นระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.นี้ ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 17 เม.ย. ที่ผ่านมา ประเทศไทย จัดกิจกรรมวิ่งคบเพลิง กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 เพื่อประชาสัมพันธ์การแข่งขันขึ้น ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งไทยเป็นชาติที่ 9 ที่จัดกิจกรรมนี้ขึ้น ต่อจากสิงคโปร์

ในงานดังกล่าวเป็นไปอย่างคึกคัก ได้รับเกียรติจาก มร.ฮอร์ สารัน เลขานุการกระทรวงการท่องเที่ยว ของกัมพูชาพร้อมด้วย มร.ฮุน สรุน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย, พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ, นายกองเอก ชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีอีโอ สำนักงานซีเกมส์, ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย, ร้อยโท ณัยณพ ภิรมย์ภักดี ประธานคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย, พลตรี โอสถ ภาวิไล ประธานสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน, พ.อ.หญิง วันดี โตสุวรรณ เลขาธิการสหพันธ์กีฬาคนพิการแห่งอาเซียน พร้อมด้วย นักกีฬาทีมชาติไทยและนักกีฬาอาเซียนพารา มากกว่า 300 คน เข้าร่วม

มร.ฮุน สรุน เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำประเทศไทย เผยว่า กิจกรรมนี้ เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการเมื่อกลางเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ที่กัมพูชา โดยจัดให้มีการวิ่งคบเพลิงที่จะใช้ในซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 ไปทั่วภูมิภาคอาเซียน ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของชาติสมาชิก และยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ของทุกๆชาติเพื่อส่งเสริม พัฒนา วงการกีฬาอาเซียน ให้แข็งแกร่ง

พลเอก วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เลขาธิการคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า กิจจกรรมนี้มีนักกีฬาที่เข้าร่วมการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 32 และ อาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 12 รวมถึงนักวิ่งที่เป็นประชาชนคนไทยเข้าร่วมพอสมควรทีเดียว ซึ่งกิจกรรมนี้ถือเป็นการแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของไทย ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วม รวมถึงยังเป็นการกระตุ้นการรับรู้ของประชาชนให้ร่วมส่งกำลังใจ ให้นักกีฬาที่เข้าร่วมชิงชัยทั้ง 2 รายการ

ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศ เผยว่า ถือเป็นข่าวดีมากที่กัมพูชาประกาศไม่เก็บค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 กับชาติสมาชิก รวมถึงยังเปิดให้แฟนๆกีฬาเข้าไปชมฟรีที่สนามแข่งขัน ซึ่งก็จะเป็นโอกาสดีที่แฟนกีฬากัมพูชา แฟนกีฬาไทย และแฟนกีฬาอาเซียนจากชาติต่างๆ จะได้เข้าไปชมและเชียร์นักกีฬาชาติของตัวเองถึงสนามแข่งขัน

"ส่วนเป้าหมายของทัพนักกีฬา กกท.ยังขอยืนยันเหมือนเดิมว่า โฟกัสไปที่การเป็นเบอร์ 1 ในกลุ่มชนิดกีฬาสากลที่มีบรรจุแข่งขันในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ซึ่งก็เชื่อมั่นว่านักกีฬาของเราจะทำได้ แต่เหรียญรางวัล คงจะยังบอกไม่ได้ว่าเท่าไหร่ ส่วนในการแข่งขันซีเกมส์ ก็ยังหวังว่าจะคว้าได้ถึง 164 เหรียญทอง อย่างที่ กกท.ได้มีการประเมินความคาดหวังกับสมาคมกีฬาต่างๆเอาไว้" ผู้ว่าการกกท. กล่าวทิ้งท้าย