ตามที่สมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ได้ส่งนักกีฬาเยาวชนรุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี เข้าร่วมแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 3 รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี กลุ่ม บี ระหว่างวันที่ 17-23 เม.ย.2566 ที่แอฟริกาใต้ กับ ชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 18 ปี ระหว่างวันที่ 11-18 มี.ค.2566 ที่มองโกเลีย โดยทั้ง 2 รายการนี้ได้การรับรองจากสหพันธ์กีฬาฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ และจะทำให้ทีมไอซ์ฮอกกี้รุ่นยู-18 ของไทย มีโอกาสเข้าไปร่วมการคลอลิฟายยูธโอลิมปิกฤดูหนาว
ล่าสุดทางสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย ได้ทำการเรียกนักกีฬารุ่นอายุไม่เกิน 18 ปีรายงานตัว และ อบรมเรื่องสารต้องห้ามของการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยทีมชุดนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชุดคือชุดเอ จะแข่งขันเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 3 และ ชุดบีจะแข่งขันชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย สำหรับความพร้อมนั้น ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตอนนี้นักกีฬาเราก็มีความพร้อมเป็นอย่างมากทั้งร่างกายและจิตใจ แต่ก็มีเรื่องกังวลไม่กี่เรื่องที่นักกีฬาไทยต้องเตรียมตัวเป็นพิเศษเพราะนักกีฬาชุดนี้เดินทางไปแข่งขันต่างประเทศเป็นครั้งแรก โดยอย่างแรกที่ต้องระวังคือการใช้สารต้องห้ามโดยที่ไม่รู้ตัว เช่น การทานอาหารที่มีการปนเปื้อน หรือ ใช้ยาทาตามร่างกาย และอย่างที่สองคือเรื่องกติกาแบบฟูลคอนแท็ก ที่เด็กไทยยังไม่เคยลองเล่น ซึ่งเป็นกติกาแบบเดียวกับรุ่นโอเพ่น คือการสามารถเข้าปะทะได้อย่างเต็มที่ ก็อยากให้ระวังเรื่องอาการบาดเจ็บ รวมทั้งการควบคุมอารมณ์ให้ดี
"นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการตื่นสนามของนักกีฬา เพราะนี่จะเป็นครั้งแรกของนักกีฬาเยาวชนไทยที่จะเดินทางไปแข่งต่างประเทศในนามทีมชาติ แล้วเจอกับกติกาแบบเดียวกับรุ่นโอเพ่น แต่โชคดีที่นักกีฬายู-18 นั้นสมาคมสร้างมาเป็นเวลา 10 ปี เข้าโปรแกรมของวิทย์-กีฬา กกท.มาตั้งแต่หัดเล่นไอซ์ฮอกกี้อายุยังไม่ถึง 10 ขวบ ทำให้ตอนนี้มีร่างกายที่สูงใหญ่ สามารถสู้กับต่างชาติได้ แล้วการที่เราไปแข่งเวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ก็จะทำให้ไทยได้มีแรงกิ้งประเภทเยาวชนในระดับโลกของสหพันธ์ แล้วจะทำให้มีโอกาสควอลิฟายยูธโอลิมปิกฤดูหนาว" ม.ล.กฤษฎา กล่าว
สำหรับแมตช์เวิลด์แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 3 กลุ่ม บี มี 4 ทีมคือ ไทย, นิวซีแลนด์, ฮ่องกง และ แอฟริกาใต้ โดยจะหาทีมแชมป์เลื่อนชั้นไปสู่ดิวิชั่น 3 กลุ่ม เอ ส่วนชิงแชมป์เอเชีย ที่มองโกเลีย จะมี 6 ชาติเข้าร่วมชิงชัยคือ ไทย, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อิหร่าน, มองโกเลีย, เติร์กเมนิสถาน และ อุซเบกิสถาน ซึ่งชุดชิงแชมป์เอเชียจะเดินทางในวันที่ 7 มี.ค.นี้ โดยออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ เวลา 13.00 น. ไปสนามบินนานาชาติภูเก็ต เพื่อต่อเครื่องบินไปมองโกเลีย