นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 4 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 14 ก.ย.ที่ผ่านมา
วาระสำคัญของการประชุมนั้น นายพิพัฒน์ ได้แจ้งในที่ประชุมให้รับทราบว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาการนายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติให้จัดสรรงบกลางของประเทศไทยเพื่อนำมาใช้จัดการแข่งขันเอเชี่ยนอินดอร์ฯ ได้ แต่ต้องอยู่ในการพิจารณาของสำนักงบประมาณว่าจะสามารถให้ได้เท่าไหร่ และส่วนอื่นๆ ก็ต้องพิจารณาดูว่าจะหางบประมาณใดมาช่วยทดแทนได้บ้าง ซึ่งในที่ประชุมได้มีการพิจารณาแหล่งของงบประมาณในการจัดการแข่งขัน โดยกกท.ได้มีการประเมินค่าใช้จ่ายสำหรับการจัดการแข่งขันอยู่ที่ 1,254,998,000 บาท โดยมีงบประมาณที่ได้รับอนุมัติจากเงินสะสมของกกท. 250,000,000 บาท และจะขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสมทบค่าใช้จ่ายในการจัดการแข่งขัน จำนวน 1,004,998,000 บาท
นอกจากนี้ที่ประชุมได้มีการยืนยันการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์และมาเชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 จากสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (โอซีเอ) ในวันที่ 17-26 พฤศจิกายน 2566 ที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดชลบุรีอย่างเป็นทางการ และทางประเทศไทยจะมีการทำรายงานความก้าวหน้าเพื่อไปรายงานในที่ประชุมโอซีเอ ที่ประเทศกัมพูชา ระหว่างวันที่ 2-5 ตุลาคมต่อไป อีกทั้งยังได้มีการยืนยันเพิ่มจำนวนกีฬาจากเดิม 29 ชนิดกีฬา เป็น 33 ชนิดกีฬา โดยกีฬาที่เพิ่มเข้ามาได้แก่ ฟันดาบ, กาบัดดี้, โรลเลอร์สกี และยกน้ำหนัก
ด้าน ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการกกท. ชี้แจงว่า เรื่องงบประมาณจะเร่งกลับมาคำนวนอย่างเร่งด่วนภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อจะให้ทันการประชุมของบอร์ดกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ที่จะมีขึ้นช่วงปลายเดือนกันยายนนี้ ส่วนแหล่งเงินอื่นๆ ที่ยังไม่แน่นอนคงจะยังไม่นำมาคำนวณ ถ้าหากได้มาค่อยนำมาลดค่าใช้จ่ายจากงบกลางต่อไป
ภายหลังการประชุมนายพิพัฒน์ กล่าวว่า จากงบประมาณที่ต้องใช้ ก็ให้ทางกกท.ไปสรุปตัวเลขมาใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อนำเสนอในคณะกรรมการกองทุนฯ ที่จะประชุมกันในช่วงปลายเดือนกันยายน ว่าจะมีการให้การสนับสนุนได้หรือไม่ นอกเหนือจากนั้นกระทรวงและกกท. จะนำตัวเลขที่เหลือไปขอเสนองบกลาง ภายในเดือนหน้า น่าจะเสนอเข้าคณะรัฐมนตรีได้ วงเงินคาดว่าจะไม่เกินนี้ อยู่ราวๆ 1255 ล้านบาท เพราะบางอย่าง สิทธิประโยชน์ จากการคลี่คลายของโควิด-19 จะหาสนับสนุนได้ง่ายขึ้น และยังเป็นการหนุนการท่องเที่ยวด้านกีฬาด้วย
รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวปิดท้ายว่า อย่างไรก็ตามทางกระทรวงฯ, กกท. และหน่วยงานอื่นๆ พร้อมดำเนินการจัดการแข่งขันอยู่แล้ว และถ้าเป็นกีฬาระดับนานาชาติแบบนี้ทางรัฐบาลก็จะสนับสนุนงบประมาณอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวข้องกับงบของกกท. ส่วนเงินสนับสนุนอื่นๆ จะมีหรือไม่นั้น เราไม่ได้มุ่งหวังเรื่องสปอนเซอร์ แต่เรามุ่งหวังว่าเราสามารถจัดกีฬาระดับนานาชาติแบบนี้ได้ ซึ่งเอเชี่ยนอินดอร์ฯ เป็นเกมใหญ่ที่มีถึง 45 ประเทศเข้าร่วมแข่งขัน จะเป็นการแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทย ที่ทำได้โดยไม่ต้องจ้างผู้จัดการแข่งขันจากประเทศอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนเรื่องของการท่องเที่ยว และแสดงศักยภาพของการท่องเที่ยวหลังผ่านจากช่วงโควิด-19 อีกด้วย