"บิ๊กป้อม" พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย หนุนเผยแพร่มวยไทย สร้าง "ซอฟท์พาวเวอร์" ซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติของไทยไปทั่วโลก ผ่านภาพยนต์และเกม ชี้เป็นการสร้างจุดแข็งทางวัฒนธรรมอีกทั้งยังช่วยเพิ่มมูลค่าทางด้านเศรษฐกิจและกีฬา รับการที่มวยไทยได้รับการรับรองจากองค์กรนานาชาติ ถือเป็นใบเบิกทางชั้นดีในการบรรจุเข้าชิงชัยในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกเกมส์
"บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ที่คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เมื่อ 17 ก.พ.66 โดยมีคณะกรรมการบริหารของคณะกรรมการโอลิมปิกฯ พร้อมด้วยผู้บริหารจากการกีฬาแห่งประเทศไทย, กรมพลศึกษา และสมาคมกีฬาต่าง เข้าร่วมหารือ
สำหรับที่ประชุมมีมติเห็นชอบ ผลักดัน อำนวยความสะดวกให้สหพันธ์กีฬา หรือองค์กรกีฬาระหว่างประเทศ ย้ายสำนักงานมาตั้งสาขาในประเทศไทย เพื่อพัฒนายกระดับการกีฬาไทยสู่สากล นอกจากนี้ยังเห็นชอบผลประเมินและประกาศความพร้อมของกรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา ในการร่วมกันเป็นเจ้าภาพกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย ปี พ.ศ.2568 หรือ ค.ศ. 2025 รวมไปถึง จ.นครราชสีมา เจ้าภาพการแข่งขันกีฬาอาเซียนพาราเกมส์ ครั้งที่ 13 ปี พ.ศ. 2568 ด้วยเหตุผลในด้านความพร้อมทุกๆด้านสำหรับนักกีฬาคนพิการ ขณะเดียวกันที่ประชุมเห็นชอบมอบสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่ประเทศกัมพูชา กลางปีนี้ให้กับ บริษัท ทรู คอปอเรชั่นจำกัด (มหาชน)
พล.อ.ประวิตร เปิดเผยว่า ได้กำชับให้เดินหน้าผลักดันยกระดับกีฬามวยไทย เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยเสนอให้มีการสนับสนุนสร้างภาพยนต์ศิลปะมวยไทยเป็น "ซอฟพาวเวอร์" เพื่อจุดกระแสความนิยมมวยไทยอย่างกว้างขวางสู่เวทีโลก พร้อมเน้นย้ำว่า "ศิลปะมวยไทย" ถือเป็น "ซอฟพาวเวอร์" ของชาติที่สำคัญ ซึ่งต้องเร่งผลักดันยกระดับสู่สากลร่วมกันอย่างเป็นระบบ โดยการรับรองจากคณะกรรมการโอลิมปิกนานาประเทศ ถือเป็นใบเบิกทางที่สำคัญสู่การวางแผนผลักดันกีฬา "มวยไทย" เข้าสู่การแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ต่อไป นอกจากนี้ยังได้เสนอให้จัดทำมวยไทยนำเสนอผ่าน "เกม" เพื่อสร้างกระแสมวยไทยสู่กระแสโลก ร่วมสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจด้านกีฬา และวัฒนธรรมที่เป็นจุดแข็งของไทยต่อไป
พล.อ.ประวิตร เผยอีกว่า อยากขอบคุณทุกสมาคมกีฬาที่ร่วมผลักดันส่งเสริม และยกระดับกีฬาของประเทศไทยสู่สากล พร้อมกำชับทุกสมาคมมุ่งเน้นส่งเสริมใช้ประโยชน์จากวิทยาศาสตร์การกีฬาอย่างมีพัฒนาการให้มากขึ้น รวมทั้งต้องป้องกัน และไม่ส่งเสริมการใช้สารต้องห้ามอย่างเด็ดขาด และจริงจัง