แข้งดรีมทีม-ลูกยาง7เซียนคว้าสุดยอดทีมกีฬางาน3ทศวรรษส.นักข่าวช่างภาพกีฬาฯ

สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย จัดงานใหญ่" 3 ทศวรรษ วินาทีสู่ฝันพลังแห่งความภาคภูมิใจ" ในโอกาสครบรอบการก่อตั้งสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาฯครบ 30 ปี (2535-2565)  มอบรางวัลเกียรติยศใก้กับนักกีฬา แยกเป็นทศวรรษละ 10 รางวัล และรางวัลพิเศษอีก 8 รางวัล รวมทั้งสิ้น 38 รางวัล สุดยอดนักกีฬายุคต่างๆ รวมทั้งบุคลากรกีฬาทุกยุดเข้ารับรางวัลอันทรงเกียรติกันด้วยความยิ่งใหญ่ ที่โรงละครอักษรา คิงเพาเวอร์(ชั้น 3 ) เมื่อ 9 ก.พ.66 โดยมี นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษา รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานงานฯ และผู้สนับสนุนมากมายร่วมงาน พร้อมด้วย คณะกรรมการสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย นำโดย นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมฯ

นายสิรภพ ดวงสอดศรี ที่ปรึกษา  รมว.กระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณ สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย ที่ให้ความสำคัญ กับการจัดงานรำลึก นึกถึงคุณงามความดีของนักกีฬารุ่นเก่าๆ ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนเองในฐานะรัฐมนตรีฯ ไม่เคยเห็นหน่ายงานไหนจัดมาก่อน การจัดงาน 3 ทศวรรษนี้ เชื่อว่าจะทำให้เยาวชน แฟนกีฬารุ่นใหม่ ได้รู้จักนักกีฬาที่เคยสร้างชื่อให้ประเทศไทยในยุคก่อนๆมากขึ้น เพื่อเป็นแรงบันดาลใจในการรักการเล่นกีฬา รักการออกกำลังกายมากขึ้น ในนามของกระทรวงฯ พร้อมให้การสนับสนุน กิจกรรมดีๆมีคุณค่าของสมาคมฯอย่างเต็มที่ 

ขณะที่นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมฯ เปิดเผยว่า  งานครบรอบ 30 ปี การก่อตั้งสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬา ได้มอบรางวัลให้กับนักกีฬาทรงคุณค่าในช่วง 3 ทศวรรษ ที่ผ่านมา ในชื่อว่า "3 ทศวรรษ วินาทีสู่ฝันพลังแห่งความภาคภูมิใจ"  โดยทศวรรษแรก คือ พ.ศ.2535-2545, ทศวรรษที่ 2 พ.ศ. 2545-2555 และ ทศวรรษที่ 3 พ.ศ.2555-2565 ซึ่งการจัดงานครบรอบ 30 ปี หรือ 3 ทศวรรษของการก่อตั้งสมาคมฯครั้งนี้ จัดเพื่อวัตถุประสงค์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงผลงานของนักกีฬารุ่นต่างๆ ในยุคตั้งแต่ 30 ปี-20 ปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะ นักกีฬารุ่นก่อนๆ ที่แฟนๆกีฬารุ่นใหม่ส่วนใหญ่แทบไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ไม่เคยดูผลงาน ก็ได้เห็น และจัดขึ้นเพื่อเชิดชู เป็นการให้เกียรติ ให้ความสำคัญกับนักกีฬาในยุคต่างๆ ประเภทต่างๆที่เสียสละเวลาส่วนตัว ไปสร้างชื่อเสียงให้ประเทศมากมาย สมควรอย่างยิ่งที่จะได้รับการยกย่อง ได้รับการรับรู้ทั่วกันจากแฟนกีฬาทั้งยุคก่อนและยุคปัจจุบัน สุดท้ายต้องขอขอบคุณทุกท่าน ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน ที่สนับสนุน จนงานผ่านไปได้ด้วยดี ในนามสมาคมฯ พร้อมที่จะทำสิ่งดีๆเพื่อสังคม เพื่อวงการกีฬาไทยต่อไปครับ "นายกสมาคมฯกล่าว

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัล แยกเป็น ประเภทของรางวัล ในแต่ละทศวรรษ มีดังนี้

1.สมาคมกีฬาแห่งทศวรรษ (ทศวรรษแรก 2535-2545)ได้แก่ สมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย, ทศวรรษที่ 2 (2545-2555) สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย, ทศวรรษที่ 3 (2555-2565) สมาคมกีฬาเทควันโดแห่งประเทศไทย

2.บุคคลสำคัญแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 พลตรีจารึก อารีราชการัณย์, ทศวรรษ 2 นายธนา ไชยประสิทธิ์, ทศวรรษ 3 คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล

3.ทีมกีฬาแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1  ฟุตบอลดรีมทีม, ทศวรรษที่ 2 ทีมเซปักตะกร้อ ชุดของสืบศักดิ์ ผันสืบ, ทศวรรษ 3 วอลเลย์บอลหญิง ชุด 7 เซียน

4.นักกีฬาอาชีพยอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 สามารถ พยัคฆ์อรุณ (มวยสากล-มวยไทย), ทศวรรษ 2 ธงชัย ใจดี (กอล์ฟ), ทศวรรษที่ 3 "โปรเม" เอรียา จุฑานุกาล(กอล์ฟ)

5.ผู้จัดการทีมแห่งทศวรรษ  ทศวรรษที่ 1 "บิ๊กหอย" ธวัชชัย สัจจกุล(ฟุตบอล), ทศวรรษที่ 2 บุษบา ยอดบางเตย (ยกน้ำหนัก), ทศวรรษที่ 3 "มาดามแป้ง"นวลพรรณ ล่ำซำ(ฟุตบอล)

6.ผู้ทำชื่อเสียงในเวทีกีฬาสากลแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 "บังยี"วรวีร์ มะกูดี (อดีตนายกส.ฟุคบอลฯ), ทศวรรษที่ 2 ผศ.ดร.พิมล ศรีวิกรณ์ (นายกส.เทควันโด), ทศวรรษที่ 3 วิชัย ศรีวัฒนประภา(อดีตประธานสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้)

7.นักกีฬาตัวอย่างแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 "ซิโก้"เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง(ฟุตบอล), ทศวรรษที่ 2 บัวขาว บัญชาเมฆ(มวยไทย), ทศวรรษที่ 3 "ตูน บอดี้สแลม" อาทิวราห์ คงมาลัย (นักวิ่ง-เทเบิลเทนนิส)

8.นักกีฬายอดเยี่ยมแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 นาวาตรี สมรักษ์ คำสิงห์ รน. (มวยสากล), ทศวรรษที่ 2 ร.อ.หญิงปวีณา ทองสุข (ยกน้ำหนัก), ทศวรรษที่ 3 "เทนนิส"พานิภัค วงศ์พัฒนกุล(เทควันโด) 

9.ที่สุดนักกีฬาแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1  "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นายวัฒนา ภู่โอบอ้อม (สนุกเกอร์), ทศวรรษที่ 2 "บอล"ภราดร ศรีชาพันธ์ (เทนนิส), ทศวรรษที่ 3 "เจ"ชนาธิป สรงค์กระสินธ์(ฟุตบอล)

10.วินาทีความทรงจำแห่งทศวรรษ ทศวรรษที่ 1 "วัง"ธวัชชัย ดำรงค์อ่องตระกูล(ฟุตบอล), ทศวรรษที่ 2 พันโทหญิง อุดมพร พลศักดิ์ เจ้าของวลีเด็ด "สู้โว้ย"(ยกน้ำหนัก), ทศวรรษที่ 3 "โค้ชเช" ชัชชัย เช ผู้ฝึกสอนกีฬาเทควันโด

ขณะที่ประเภทของรางวัลพิเศษ มีดังนี้ 1.รางวัลที่สุดแห่งความทรงจำ จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ "ซ้ายทะลวงใส้" เขาทราย แกแล็คซี่ หรือ นายสุระ แสนคำ  (มวยสากล) กับ"เพชรฆาตหน้าหยก" นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน (ฟุตบอล), 2.รางวัลเกียรติยศแห่งทศวรรษ  มี 6 รางวัล ได้แก่ 1.มนัส บุญจำนงค์(มวยสากล), 2.พันตำรวจโท วิจารณ์ พลฤทธิ์ (มวยสากล), 3.สมจิตร จงจอหอ (มวยสากล), 4.พันตรีหญิง ประภาวดี เจริญรัตนธารากุล (ยกน้ำหนัก), 5.โสภิตา ธนสาร (ยกน้ำหนัก) และ 6.สุกัญญา ศรีสุราช (ยกน้ำหนัก)