ม.ล.กฤษฎา เกษมสันต์ นายกสมาคมกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงแผนงานในการส่งนักกีฬาฮอกกี้น้ำแข็งทีมชาติไทย ทั้งรุ่นทั่วไป และรุ่นอายุต่าง ๆ ไปแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ในปี 2566 นั้น สมาคมฯ วางแผนส่งนักกีฬาไปแข่งขันอย่างต่อเนื่อง ตลอดทั้งปี โดยที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติแล้ว เป็นรุ่นทั่วไป ที่จะเดินทางไปแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง รายการ ไอไอเอชเอฟ ไอซ์ ฮอกกี้ เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 3 กรุ๊ป เอ ระหว่างวันที่ 17-23 เม.ย. 2566 ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้  

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของทีมยู-18 สมาคมฯ ได้ทำเรื่องเสนอของบกองทุนฯ เพื่อส่งทีมไปเข้าร่วมการแข่งขันฮอกกี้น้ำแข็ง รายการ 2023 ไอไอเอชเอฟ ไอซ์ ฮอกกี้ ยู-18 เอเชีย โอเชียเนีย แชมเปี้ยนชิพ ระหว่างวันที่ 11-18 มี.ค.2566 ที่เมืองอูลานบาตอร์ ประเทศมองโกเลีย และ 2023 ไอไอเอชเอฟ ไอซ์ ฮอกกี้ ยู-18 เวิลด์ แชมเปี้ยนชิพ ดิวิชั่น 3 กรุ๊ปบี ระหว่างวันที่ 13-16 มี.ค.2566 ที่เมืองเคปทาวน์ ประเทศแอฟริกาใต้ ไปในคราวเดียวกัน แต่ไม่ได้รับการพิจารณา 

ในเรื่องนี้ ยอมรับว่า เมื่อเป็นเช่นนี้ รู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากจะกระทบต่อการพัฒนาในระดับเยาวชน ซึ่งเรามีนักกีฬาจำนวนมาก สามารถแบ่งออกเป็น 2 ทีมไปแข่งขันใน 2 รายการที่แข่งขันในช่วงเวลาเดียวกันได้ อีกทั้งการขาดช่วงส่งแข่งขันตามที่สหพันธ์ฮอกกี้น้ำแข็งนานาชาติ กำหนด จะทำให้คะแนนไม่ถูกนับ ลำดับคะแนนในสหพันธ์ฯ อาจลดลงได้ และที่ร้ายแรงไปกว่านั้น อาจถึงขั้นถูกเพิกถอนสิทธิ์การแข่งขันในรุ่นอายุนี้ หรือในรายการแข่งขันนั้นๆในระยะยาวได้  ม.ล.กฤษฎา กล่าว 

"การมีสิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันแต่ละประเภท สหพันธ์ฯ จะเป็นผู้กำหนดประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขัน การเข้าร่วมตามที่กำหนดหรือไม่นั้น จะมีผลเป็นคะแนน แต่หากไม่เข้าร่วมก็มีโอกาสที่ทีมของเราในรุ่นอายุนี้ อาจโดนแบนยาว เมื่อเป็นเช่นนี้ สมาคมฯ จึงทำเรื่องเสนอไปยัง ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อีกทาง ซึ่ง ผู้ว่าฯ ก้องศักด ไม่รีรอ รับที่จะดูเรื่องนี้ให้ เพราะไม่อยากให้ทีมเยาวชนไทย เสียโอกาสดีๆไป" ม.ล.กฤษฎา กล่าว