สสส.จับมือพันธมิตรจัดกิจกรรมให้คนไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาวะที่ดี

สสส.จับมือพันธมิตรจัดกิจกรรมให้คนไทยออกกำลังกายเพื่อสุขภาวะที่ดี
สสส. ร่วมลงนามแสดงปฏิญญา กับภาคีเครือข่าย ส่งเสริมกิจกรรมทางกาย การเล่นกีฬา และการออกกำลังกาย ภายใต้คอนเซ็ปท์ "Move more-Get more-Together" พร้อมยืนยันเจตจารมณ์ และยึดมั่นในอุดมการณ์ ช่วยให้คนไทยมีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอต่อการป้องกันโรคภัย และมีสุขภาวะที่ดี

กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จัดพิธีร่วมลงนามแสดงปฏิญญากับภาคีเครือข่าย กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม วิชาการ ชุมชนท้องถิ่น ในการส่งกิจกรรมทางกาย การเล่นกีฬา และการออกกำลังกาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ "Move more Get more Together" ที่ห้อง MR 208 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 31 มกราคม 2566

 ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ผู้ช่วยผู้จัดการกองทุน สสส. และรักษาการผู้อำนวยการสำนักสร้างเสริมวิถีชีวิตสุขภาวะ สสส.พร้อมด้วยภาคีด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายทั้งในประเทศไทย ได้แก่ กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กองนโยบายการท่องเที่ยวและกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมลงนามแสดงปฏิญญา เพื่อเป็นการยืนยันเจตจารมณ์ยึดมั่นในอุดมการณ์ และเป้าหมายร่วมกันในการสานพลังบูรณาการองค์ความรู้ เพื่อฟื้นฟูให้คนไทยทุกกลุ่มทุกคนมีโอกาส และความตระหนักในการเข้าถึงความรู้ พื้นที่สุขภาวะ และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ เพื่อให้มีกิจกรรมทางกายอย่างเพียงพอต่อการป้องกันโรคภัยและมีสุขภาวะที่ดี ทั้งด้านกาย จิตปัญญา และสังคม ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Move more Get more Together” เพื่อส่งเสริมให้คนไทยร่วมกันออกกำลังก้าวไปให้ข้างให้มากกว่า เพื่อให้ได้สุขภาพที่ดีกว่าไปด้วยกัน

 โดย ดร.นพ.ไพโรจน์ เสาน่วม ได้กล่าวว่า จากข้อมูลงานวิจัยของศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดลพบว่า สถานการณ์โควิด-19 ส่งผลต่อการมีกิจกรรมทางกายลดลง ดังนั้น สสส. จึงสานพลังภาคีส่งเสริมกิจกรรมทางกายบนวิถีใหม่ เพื่อนำไปสู่การฟื้นฟูกิจกรรมทางกายให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป

 นอกจากนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.ปิยวัฒน์ เกตุวงศา ผู้อํานวยการศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค) สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล ได้สรุปและสังเคราะห์องค์ความรู้จากการประชุมวิชาการในครั้งนี้เพื่อนำไปสู่แนวทางการฟื้นฟูกิจกรรมทางกายของคนไทย โดยมีประเด็นที่น่าสนใจภายใต้สองหัวข้อหลัก คือ Active People และ Active System/ Policy ดังนี้

 หัวข้อ Active People ประกอบด้วยเรื่อง การพัฒนาหลักสูตรอบรมผู้นําสุขภาพในสถานท่ีทํางานเพื่อป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ในประชาชนวัยทํางาน โดย รศ.นพ.เพชร รอดอารีย์ (เครือข่ายคนไทยไร้พุง ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย), การเดินมากกว่า 5,000 ก้าวต่อวัน ช่วยลดความเส่ียงการหกล้มในผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงตํ่าและอาศัยอยู่ในชุมชนเมือง โดย รศ.ดร.กภ.ชุติมา ชลายนเดชะ (คณะกายภาพบําบัด มหาวิทยาลัยมหิดล), การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะในบริบทประเทศไทยโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กรณีศึกษาโครงการลานกีฬาวัฒนธรรมชุมชน โดย คุณอิสริยา ปุณโณปถัมภ์ (สถาบันอาศรมศิลป์)

 ผลของการขัดการนั่งต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานที่มีต่อความดันโลหิตขณะพักของผู้ใหญ่ช่วงต้นเพศชายที่มีภาวะอ้วน โดย อาจารย์ ดร.วริศ วงศ์พิพิธ (คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), การพัฒนาสร้างเสริมองค์ความรู้และการเผยแพร่กิจกรรมทางกายสู่สังคมอย่างยั่งยืน โดย ผศ.ดร.สุชาติ ทวีพรปฐมกุล (ศูนย์กีฬาแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย),การสื่อสารรณรงค์องค์ความรู้เพ่ือการส่งเสริมการมีกิจกรรมทางกายท่ีเพียงพอของคนไทยในช่วงสถานการณ์โควิด-19 อาจารย์ โดย ดร.ชลชัย อานามนารถ (วิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา มหาวิทยาลัยมหิดล), การวิเคราะห์กิจกรรมทางกาย พฤติกรรมเนือยนิ่งและการนอนหลับ ในประชากรไทย: โดยวิธี Compositional Data Analysis จากผลการสํารวจการใช้เวลาระดับประเทศ โดย อาจารย์ ดร.นุชราภรณ์ เลี้ยงรื่นรมย์ (สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล) และการส่งเสริมสุขภาวะทางกายของเด็กในชุมชนชาติพันธุ์จังหวัดเชียงราย โดยคุณจุฑามาศ ราชประสิทธิ์ (มูลนิธิพัฒนาชุมชนและเขตภูเขา (พชภ.))

 ในส่วนของหัวข้อ Active System/ Policy ประกอบด้วย การประเมินการส่งเสริมกิจกรรมทางกายในบริบทเมืองของไทยด้วยแผนปฏิบัติการส่งเสริมกิจกรรมทางกายโลก โดย นพ.อุดม อัศวุตมางกุร (กองกิจกรรมทางกายเพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข), เว็บไซต์เพื่อการพัฒนาศักยภาพในการวางแผนและจัดทําโครงการเพิ่มกิจกรรมทางกายของคนไทยในกองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น โดย ดร.กุลทัต หงส์ชยางกูร (สถาบันนโยบายสาธารณะ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์), Framework for Enhancing Thailand Physical Activities with Metaverse and Web3.0 Opportunities โดย รศ.ดร.ยศชนัน วงศ์สวัสดิ์ (สถาบันบริหารจัด การเทคโนโลยีและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยมหิดล (iNT))

 การส่งเสริมกิจกรรมทางกายในเวชปฏิบัติ โดย รศ.นพ.อภิชัย วรรธนะพิศิษฐ์ (สํานักวิชาแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์), การจัดทําระบบแพลตฟอร์มเชื่อมโยงและบูรณาการข้อมูลสถิติการออกกําลังกายและการเล่นกีฬาของประชาชน (Calories Credit Challenge: CCC) โดย คุณบงกชรัตน์ โมลี (ผู้อํานวยการกองนโยบายการท่องเที่ยวกีฬาแห่งชาติ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา),การเพิ่มกิจกรรมทางกายของประชาชนไทยผ่านแอปพลิเคชัน นพ.ภัทรภณ อติเมธิน (สมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA)), การนําแอปพลิเคชันเบาใจไปใช้เพื่อลดความเส่ียงโรคไม่ติดต่อเรื้อรังและเพิ่มกิจกรรมทางกาย โดย คุณกฤดิ์ชนา หุตะแพทย์ (บริษัท พ็อพเมด จํากัด),How Big Data Analytics Can Support Preventive Healthcare in Thailand: A Preliminary Study โดย อาจารย์ ดร.เจษฎา อานิล (คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล)

 ประสิทธิผลของการส่งเสริมกิจกรรมทางกายเชิงระบบด้วยแนวคิด 4PC โดยคุณปัญญา ชูเลิศ (ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค)),การศึกษาผลความแตกต่างของจำนวนก้าวเดิน และระยะทางขณะปฏิบัติงานในรูปแบบที่แตกต่างกันของพนักงานในร้านสะดวกซื้อ โดย ดร.ธัญนุช ประเสริฐสกุล (คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสุขภาพ มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช),การสร้างปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อกิจกรรมทางกาย เพื่อฟื้นฟูย่านเก่าของเมืองอย่างมีส่วนร่วม กรณีศึกษา: ย่านตลาดน้อย โดย คุณจุฤทธิ์ กังวานภูมิ (บริษัท ปั้นเมือง จำกัด), ขับเคลื่อนนโยบายระดับประเทศ "เด็กไทยเล่นเปลี่ยนโลก" โดย ดร.ทับทิม ศรีวิไล (กองกิจกรรมทางกาย เพื่อสุขภาพ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข) และ การพัฒนาพื้นที่สุขภาวะด้วยกลุ่มกลไกพลเมือง โดย คุณอัญชัญ แกมเชย (ห้างหุ้นส่วนสามัญอรุณอินสยาม)

 ทั้งนี้ยังมีประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องระบบข้อมูลสารสนเทศ และนวัตกรรมการส่งเสริมสุขภาพ ได้แก่ สถานการณ์ความเหลื่อมล้ำของการมีกิจกรรมทางกายในประเทศไทย โดย คุณณรากร วงษ์สิงห์ (ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกาย ประเทศไทย (ทีแพค)), การบูรณาการ และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลภาครัฐทางด้านสาธารณสุข เพื่อสนับสนุนการตัดสินใจวางแผนการดำเนินงานด้านการส่งเสริมกิจกรรมทางกายของประเทศไทย โดยการใช้แพลตฟอร์มข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data platform) โดย รศ.ดร.ทศนัย ชุ่มวัฒนะ (วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยรังสิต) และการประยุกต์ใช้ฐานข้อมูลการวิจัยด้านกิจกรรมทางกาย สำหรับการพัฒนาระบบวิเคราะห์ข้อมูล และสถิติ เพื่อการส่งเสริมกิจกรรมทางกาย (Data Analytic System for Physical Activity Promotion: DASPAP) โดย คุณดนุสรณ์ โพธารินทร์ (ศูนย์พัฒนาองค์ความรู้ด้านกิจกรรมทางกายประเทศไทย (ทีแพค), บทเรียนจากการพัฒนา


ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport