กกท.หนุนทัพไทยสู้3ศึกใหญ่ปี66เป้าหมายซีเกมส์ต้องเจ้ากีฬาสากล

ผู้ว่าการกกท. เผยปี 2566 กกท.พร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้ทัพไทยทำผลงานได้ดีที่สุดในมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติ ทั้งซีเกมส์, เอเชียนเกมส์, เอเชียนอินดอร์แอนด์มาเชียลอาร์ตเกมส์ และฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โดยซีเกมส์ หน 32 ที่จะมีขึ้นในเดือนพ.ค.นี้ เป้าหมายของไทยที่แท้จริงคือการเป็นเบอร์ 1 ในชนิดกีฬาสากล

ผู้ว่าการกกท. เผยอีกว่า สำหรับอีเวนต์กีฬาที่คนไทยติดตามคือ ซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ที่กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา ซึ่งมีชนิดกีฬาค่อนข้างเยอะ ถือเป็นมหกรรมซีเกมส์ที่มีการชิงชัยเหรียญทองมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเราอยากจะให้ทำความเข้าใจว่า ในการเตรียมความพร้อมของนักกีฬานั้น กกท. และสมาคมกีฬาต่างๆ ก็อยากจะให้มีการเก็บตัวให้เร็ว และได้อนุมัติงบเก็บตัวนักกีฬาทุกชนิดไปเรียบร้อยล่วงหน้านานแล้ว แต่การเก็บตัวจริงๆ ยังได้ยาก เพราะต้องรออีเวนต์ของเจ้าภาพว่าจะกำหนดแข่งขันในรุ่นไหนบ้าง และจะมีมาตรฐานตามสากลของโอลิมปิกหรือไม่ แต่ชนิดกีฬาส่วนใหญ่ 99 เปอร์เซ็นต์นิ่งหมดแล้ว ตอนนี้นักกีฬาไทยอยู่ในแผนการเก็บตัวแบบ NTC ให้มากินนอนซ้อมด้วยกัน แต่บางชนิดกีฬาที่เป็นอาชีพยังมีข้อกำจัดอยู่

ดร.ก้องศักด เผยอีก ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ ได้เน้นขอให้นักกีฬาได้มีโอกาสใช้อุปกรณ์ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาให้ทั่วถึง ซึ่งเราได้บริหารจัดการศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬากระจายไปให้นักกีฬาทุกชนิดได้ใช้มากที่สุด ซึ่งจะทำต่อเนื่องไปจนถึงปลายปี ฉะนั้นคราวนี้นักกีฬาไทยจะมีความแข็งแกร่ง ความฟิต เพราะเราไม่อยากเห็นนักกีฬาไทยไปแข่งขันซีเกมส์แล้วไม่ฟิต ไม่พร้อม เราตั้งกฎไว้เลยว่าครั้งนี้ทุกชนิดกีฬาไม่มียกเว้นว่า จะต้องผ่านเกณฑ์การประเมินของศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา เพราะฉะนั้นจะไม่มีการขอผ่อนผัน ไม่มีความพร้อม ไม่เข้าไปทดสอบจะไม่มี ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของปีนี้

"เป้าหมายในซีเกมส์ครั้งนี้ของเราก็ยังคงต้องเป็นเจ้ากีฬาสากล แต่เราก็จะเจาะลึกลงไปในแต่ละอีเวนต์ด้วย ไม่ใช่คำว่ากีฬาสากลจะเป็นสากลอย่างแท้จริง เพราะบางทีชื่อชนิดกีฬาเป็นสากล แต่ไส้ในเนื้อในอีเวนต์ไม่เป็นสากล อย่างนี้เราก็จะต้องดูด้วย ต้องชี้แจงให้พี่น้องคนไทยได้เข้าใจว่า ที่เราจะเน้นจริงๆ คือกีฬา หรืออีเวนต์ที่ต่อยอดไปเอเชียนเกมส์ และโอลิมปิกเกมส์ได้ เพราะฉะนั้นเราอาจจะมีความอึดอึดว่า ทำไมเหรียญเราไม่เป็นอันดับ 1 เหรียญรวม ซึ่งตรงนั้นเราก็พยายามอยู่แล้ว เราไม่ทิ้งกีฬาทั่วไป แต่ต้องยอมรับว่า เมื่อมีเงินจำกัด เราก็ต้องวางลำดับความสำคัญให้กับกีฬาที่ต่อยอดไปโอลิมปิกได้ และแผนงานเรายังคงเหมือนเดิม คือ ต้องเป็นอันดับ 1 ในอาเซียนของกีฬาสากล" ผู้ว่าการกกท. กล่าวทิ้งท้าย