แผนกศึกษาธิการและกีฬา แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี จัดโครงการ "กีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน" เพื่อสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี และแขวงจำปาสัก
โครงการดังกล่าว ใช้กีฬาเป็นกิจกรรมหลักในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีและส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีขึ้นเมื่อวันที่ 15 ม.ค.2566 โดยมีนายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี, นายสมบูล เฮืองวงสา รองเจ้าแขวงจำปาสัก, รองศาสตราจารย์ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฎอุบลราชธานี และ พลเอก นิรุทธ เกตุสิริ นายกสภามหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นประธานเปิดและมอบราวัลแก่นักกีฬา ที่เวทีหน้าต้นตาลคู่ปราสาทวัดพู แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว โบราณสถาน หนึ่งในมรดกโลกที่สำคัญของ สปป.ลาว ท่ามกลางบรรยากาศที่อบอุ่นและมิตรภาพที่ดีระหว่างนักกีฬาจากทั้งสองประเทศที่เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาในครั้งนี้กว่า 1 พันคน
สำหรับกิจกรรมกีฬาที่จัดขึ้นในโครงการ "กีฬาและการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาวะที่ดีของประชาชน" ประกอบด้วย ฟุตบอลชาย รุ่นอายุ 30 ปี และ รุ่นอายุ 50 ปี, เปตอง, แรลลี่เส้นทาง จ.อุบลราชธานี-แขวงจำปาสัก, ปั่นจักรยาน ระยะ 10 กม., วิ่งระยะ 5 กม. และ วิ่งเทรล ระยะ 10 กม.
ส่วนผลแข่งขันของแต่ละชนิดกีฬา มีดังนี้ ฟุตบอล ชนะเลิศ รุ่นอายุ 30 ปีขึ้นไป เป็นของทีมนักเตะ มรภ.อุบลราชธานี, รุ่นอายุ 50 ปีขึ้นไป แชมป์ตกเป็นของ แขวงจำปาสัก, วิ่งฟันรัน ระยะ 5 กม. แชมป์เป็นของนักวิ่งไทย พุทธดาวัน สีลาเพชร เวลา 19.00 นาที, อันดับ 2 ทะวีสุข หมอสมบัติ 25.22 นาที และอันดับ 3 คาบตะวัน ไซซะนะ นักวิ่งจากลาว 27.40 นาที
วิ่งเทรล ระยะ 10 กม. ปรากฎว่านักวิ่งจากสปป.ลาว ทำผลงานยอดเยี่ยม คว้ารางวัล 3 อันดับแรกมาครอง โดย สุกสะหวัน สีจันท์ดร เข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 ด้วยเวลา 53.22 นาที, อันดับ 2 ปานทองตั้ง ไซยะราช 53.44 นาที และอันดับ 3 วัดทะกร ภูมีเขียว 56.17 นาที และ เปตอง มหาวิทยาลัยจำปาสัก คว้าแชมป์ประเภทชายคู่และหญิงคู่ ส่วนมรภ.อุบลราชธานี ได้แชมป์คู่ผสม
หลังการแข่งขัน นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจ.อุบลราชธานี กล่าวว่า จังหวัดอุบลราชธานี มีความสัมพันธ์อันราบรื่นกับแขวงจำปาสักของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่มีพรมแดนติดกัน โดยที่เรามีด่านพรมแดนทางบก ช่องเม็ก-วังเต่า ที่เชื่อมต่อการคมนาคม การค้า การท่องเที่ยวระหว่างกันในส่วนประเทศไทยนั้นนับว่าจังหวัดอุบลราชธานีเป็น "ประตูการค้าสู่อินโดจีน" ดังนั้นตนจึงรู้สึกดีใจอย่างยิ่งที่เราทั้งสองเห็นถึงความสำคัญและช่วยกันผลักดัน สนับสนุน เกื้อกูลกันจนเกิดงานในวันนี้ขึ้นซึ่งถือเป็นโครงการสำคัญที่เชื่อมโยงกิจกรรมของประชาชนในระดับพื้นที่ของ ทั้งสองประเทศ
"การจัดโครงการครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ออกกำลังกาย พร้อมๆ ไปกับการท่องเที่ยวชมทัศนียภาพที่สวยงามและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของแขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่งผลกระตุ้นให้ประชาชนในพื้นที่ตื่นตัว ใส่ใจสุขภาวะ และมีพฤติกรรมที่ดีด้านการออกกำลังกาย รวมทั้งสร้างรายได้ให้กับประชาชน และนำไปสู่ความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองเมือง สองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป และเกิดความยั่งยืนในความร่วมมือต่อไป"
ด้านนายสมบูล เฮืองวงสา รองเจ้าแขวงจำปาสัก เผยว่า การจัดกิจกรรมกีฬา และการท่องเที่ยวในครั้งนี้ มีความสำคัญและมีหลากหลายกิจกรรมที่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวและพัฒนางานกีฬา-กายกรรมและเป็นการรักสาความแน่นแฟ้น ความสามัคคี และดึงดูดนักท่องเที่ยว บวกกับการสร้างขบวนการต้อนรับงานบุญ นมัสการปราสาทหินวัดภูประจำปี 2023 ที่จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 3-5 ก.พ. ทั้งนี้ ก็ได้ส่งเสริมงานกิจกรรม กีฬา-กายกรรมนำไปสู่ชุมชนเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความเข้มแข็ง และเป็นแบบอย่างที่ดีให้แก่เยาวชน และเพื่อให้ทุกคนหันมาใส่ใจการเล่นกีฬาอย่างกว้างขวางเพื่อหลีกเลี่ยงจากสิ่งเสพติด และแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดงานดังกล่าวนี้จะเป็นพื้นฐานให้แก่งาน ก็คือกิจกรรมอื่นๆต่อจากนี้เพื่อสร้างความสามัคคีและการร่วมมือระหว่างแขวงจำปาสัก และจังหวัดอุบลราชธานี ให้มีความแน่นแฟ้นยิ่งๆขึ้นไป"
ขณะที่ รองศาสตราจารย์ธรรมรักษ์ ละอองนวล รักษาราชการอธิการบดีมรภ.อุบลราชธานี กล่าวว่า โครงการนี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือที่เข้มแข็งของสถาบันการศึกษาในแขวงจำปาสัก ทั้งมหาวิทยาลัยจำปาสัก วิทยาลัยเทคนิคจำปาสัก วิทยาลัยการเงินภาคใต้ และแผนกศึกษาธิการและกีฬา แขวงจำปาสัก กับ มรภ.อุบลราชธานี เป็นไปตามยุทธศาสตร์มหาวิทยาลัยแห่งสุขภาวะที่ดี และการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระดับภูมิภาค กิจกรรมนี้ มรภ.อุบลราชธานีได้นำนักศึกษานับร้อยคนจาก 5 คณะเข้าช่วยงานแบบจัดการเรียนการสอนเชิงบูรณาการกับการทำงาน โดยเฉพาะนักศึกษาชาวลาวที่เรียนที่ มรภ.อุบลราชธานี ทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งสร้างความพึงพอใจและบรรลุตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ รวมทั้งเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือในโครงการอื่น ๆ ต่อไป
"จากจุดเริ่มต้นที่ดีในครั้งนี้ทำให้โครงการนี้จะได้รับการสนับสนุนให้ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในทุกๆปี โดยจะมีการนำข้อมูลต่างๆมาหารือเพื่อปรับการจัดงานให้ตอบสนองความต้องการของนักกีฬาและเพิ่มความน่าสนใจดึงดูดนักกีฬามากขึ้น โดยเฉพาะนักกีฬาไทยที่จะได้มีโอกาสมาสัมผัสบรรยากาศที่สวยงามของธรรมชาติแหล่งท่องเที่ยวที่จำปาสักอย่างใกล้ชิด โดยทางมหาวิทยาลัยฯจะสนับสนุนอย่างเต็มที่แน่นอน" รศ.ธรรมรักษ์ กล่าว