"มาดามบุษ"ซิวเลขาธิการฯควบที่ปรึกษาปธ.สหพันธ์ยกเหล็กเอเชีย

 "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานกิตติมศักดิ์ของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ) เปิดเผยว่า สหพันธ์ฯ ได้จัดประชุมคณะกรรมการบริหารฯ เมื่อ 4-5 ม.ค. 2566 ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ โดยมีวาระสำคัญอยู่ที่การเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ในส่วนของวันที่ 4 ม.ค.2566 เป็นการประชุมของคณะกรรมการบริหารฯ ชุดเก่า จากนั้นวันที่ 5 ม.ค. 2566 เป็นการประชุมของสมาชิกทั้งหมด มีประเทศที่เดินทางมาเข้าร่วมประชุม 43 ประเทศ และออนไลน์ 1 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 44 ประเทศ ที่ประชุมได้รายงานการดำเนินงานที่ผ่านมา ก่อนเข้าสู่วาระการเลือกตั้ง โดยประเทศไทย ส่ง นายนิพนธ์ ลิ่มบุญสืบสาย ที่ปรึกษาสมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ เป็นผู้แทนลงคะแนน

พล.ต.อินทรัตน์ กล่าวต่อว่า นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้แทนประเทศไทยได้รับตำแหน่งสำคัญรวมทั้งสิ้น 5 คน รวม 6 ตำแหน่ง ได้แก่ "มาดามบุษ" นางบุษบา ยอดบางเตย ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักฯ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการกิตติมศักดิ์และที่ปรึกษาประธานของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ), ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการบริหารของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (บอร์ดเอดับเบิ้ลยูเอฟ)

นอกจากนี้ ดร.สิริลักษณ์ ทัดมั่น ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการฝ่ายเทคนิค ของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ), นาวาเอก เพชรเกษม รตาภรณ์ ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการฝ่ายผู้ฝึกสอนและวิจัย ของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ) และ นาวาโท นรเศรษฐ์ อุปริพุทธางกูร ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งคณะกรรมการฝ่ายแพทย์ ของสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ) สำหรับผู้ได้รับการเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักแห่งเอเชีย (เอดับเบิ้ลยูเอฟ) ได้แก่ อัล มานะ โมฮาเหม็ด ยูเซฟ ชาวกาตาร์ ได้รับความไว้วางใจจากสมาชิกให้ดำรงตำแหน่งต่ออีกสมัย ขณะที่ โมฮัมเหม็ด อัลฮาร์บี จากซาอุดีอาระเบีย รับตำแหน่งเลขาธิการสหพันธ์ฯ 

"ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่การเลือกตั้งครั้งนี้มีตัวแทนของประเทศไทย ได้รับการเลือกตั้งรวมทั้งสิ้น 5 คน ทำให้สามารถเข้าไปมีบทบาทในการบริหารของสหพันธ์ฯ ได้ทุกส่วน ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จในการผลักดันให้บุคลากรของวงการยกน้ำหนักของไทยได้เข้าไปทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับสหพันธ์ระดับนานาชาติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและการพัฒนาของสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทยเป็นอย่างมาก"