เพาะกายไทยวางเป้าปี 66 สร้างผลงานเยี่ยมบนเวทีโลก-เอเชีย

นายกสมาคมกีฬาเพาะกายฯเผยว่า สมาคมได้ตั้งเป้าหมายสำคัญที่จะต่อยอดนโยบายการบริหารงานให้ได้รับความสำเร็จอย่างต่อเนื่องในทุกๆ ด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการสร้างผลงานการแข่งขันในระดับนานาชาติ โดยวางเป้าหมายใน 3 รายการหลักของปี 2566 คือการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 32 ระหว่างวันที่ 5-17 พ.ค.2566 ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งกีฬาเพาะกายมีชิงชัยถึง 15 เหรียญทอง ตามด้วยการแข่งขันกีฬาเพาะกายและฟิตเนสชิงแชมป์เอเชีย ครั้งที่ 55 ที่ประเทศเนปาล ระหว่างวันที่ 8-14 สิงหาคม 2566 และรายการแข่งขันชิงแชมปโลก 2023 ที่ประเทศเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 31 ต.ค.- 6 พ.ย.2566 

"รายการแข่งขันระดับนานาชาติทั้ง 3 รายการนี้ เป็นรายการที่สมาคมได้สร้างผลงานมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในปี 2566 นี้สมาคมจึงต้องการที่จะต่อยอดความสำเร็จอย่างยั่งยืนจึงได้กำหนดให้แผนการทำงานของสมาคมเป็นปีที่จะต้องยืนหยัดความยั่งยืนให้ต่อเนื่องตลอดไป เพราะสมาคมกีฬาเพาะกายได้ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2496 และ ปี 2566 นี้ ก็จะครบรอบ 70 ปีการก่อตั้งสมาคมซึ่งนับได้ว่าเป็นสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยที่มีประวัติการก่อตั้งมาอย่างยาวนาน" 

นายศุกรีย์ กล่าวอีกว่า แผนงานด้านส่งเสริมสนับสนุนกีฬาเพาะกายภายในประเทศ สมาคมยังคงเดินหน้าโครงการ "เพาะกายทุกวัย สดใสทุกวัน" ภายใต้การสนับสนุนของกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่ได้ให้การสนับสนุนกับทางสมาคมนับ 10 ปีทำให้กิจกรรมของสมาคมไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม"แคลอรี่เครดิตฟิตช่วยหมอ" ที่ได้ช่วยจัดหาเครื่องไฮโฟล์วอ๊อกซเจนให้แก่โรงพยาบาลทั่วประเทศไทยที่ขาดแคลนอุปกรณ์ดังกล่าวในช่วงเกิดวิกฤตการแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในปี 2565 กว่า 20 โรงพยาบาลทั่วประเทศไทย ส่วนทางด้านการเตรียมนักกีฬาที่จะสู้ศึกใน 3 รายการสำคัญของปี 2566 นี้ ทางสมาคมได้เตรียมนักกีฬาทีมชาติทั้งชายและหญิง 50 คนที่ได้ร่วมกันสร้างผลงานในช่วงปี 2565 ที่ผ่านมาเป็นชุดนักกีฬาหลักและจะมีการพิจารณาคัดตัวนักกีฬาเพิ่มเติมจากการแข่งขันรายการต่างๆ ของสมาคมมาเพิ่มเติมต่อไป ในปี 2565 ที่ผ่านมาสมาคมต้องขอขอบคุณการกีฬาแห่งประเทศไทย กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และผู้สนับสนุนสมาคมจากภาคส่วนต่างๆ ตลอดจนสื่อมวลชนทุกแขนงที่ให้การสนับสนุนสมาคมด้วยดีเสมอมา