นายธนดล กาบแก้ว เจ้าหน้าที่สำนักงานควบคุมการใช้การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นวิทยากรอบรม บรรยายถึงโทษของการใช้สารต้องห้ามสำหรับนักกีฬา และ ผลที่ตามมาโดยตรงแก่นักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ จำนวน 17 คน รวมทั้งผู้ฝึกสอนอีก 3 คน รวม 20 คน ที่ห้องกลยุทธ์ ชั้น 7 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 84 พรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย 

ในการอบรบครัังนี้ วัฒนา ภู่โอบอ้อม หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย นักสนุกเกอร์จอมเก๋า นำทีมน้องๆนักสอยคิว อาทิ อรรคนิธิ์ ส่งเสริมสวัสดิ์ (ซันนี่ อาร์แบค), ภาสกร สุวรรณวัฒน์ (กร นครปฐม), ประพฤติ ชัยธนสกุล (รมย์ สุรินทร์) เข้ารับฟัง โดยมี กิตติพงษ์ พรชัย, อำนวยพร โชติพงษ์ และ วีระพงษ์ บริสุทธิ์สุขกมล ผู้ฝึกสอนควบคุมนักกีฬาเข้ารับฟังตลอด 2 ชั่วโมงเต็ม

ทั้งนี้นายธนดล กาบแก้ว ได้บรรยายถึงกฎข้อบังคับ โทษ และ ผลที่ตามมาของการใช้สารต้องห้ามในนักกีฬา ตามระเบียบของ องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (วาด้า) ด้วยการเน้นและตอกย้ำการให้ความรู้แก่นักกีฬาสนุกเกอร์ทีมชาติที่เข้าร่วมอบรมถึงการใช้ยาอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ยาชนิดไหนเข้าข่ายการใช้สารต้องห้าม และยาชนิดไหนที่ไม่ควรแตะต้องก่อน และ หลังแข่งขัน รวมทั้งการมีเจตนาหลีกเลี่ยงการตรวจสอบของคณะกรรมการเจ้าหน้าที่ นักกีฬาจะมีโทษถึงกับห้ามเล่นกีฬาในนามทีมชาติไทยตลอดไป

ส่วนในเรื่องของโทษที่นักกีฬาพลาดพลั้งใช้สารต้องห้ามในกรณีที่เป็นไข้หวัด ไม่สบาย หรือ จำเป็นต้องทานยาระงับอาการปวด และรวมทั้งการบริโภคที่มีสารปนเปื้อนกับอาหารโดยที่คาดไม่ถึง รวมถึงการทานยาลดน้ำหนัก สารยับยั้งการทำงานของฮอร์โมนเพศหญิง และ ยา หรือ อาหารเสริม ที่สร้างกล้ามเนื้อให้กับเพศชายในนักกีฬาบางประเภท ซึ่งบางชนิดเป็นยากระตุ้นที่มีผลเกี่ยวกับการเต้นของหัวใจ นอกจากนี้สารกระตุ้นทุกชนิดมีผลถึงการออกฤทธิ์โดยตรงต่อสมองทำให้ตื่นตัว ทำให้ไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ถือว่าเป็นผลเสียต่อร่างการตรง และพบว่าทุกๆปี ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ ทั้งซีเกมส์ เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิกเกมส์ หรือ รายการชิงแชมป์โลก จะมีนักกีฬาถูกตรวจการใช้สารต้องห้ามอยู่เป็นประจำ 

นายธนดล กล่าวอีกว่า  การกีฬาแห่งประเทศไทยได้ให้ความสำคัญกับนักกีฬาทีมชาติทุกชนิด ซึ่งก่อนการแข่งขันรายการระดับนานาชาติทุกครั้ง จะเชิญนักกีฬาทุกสมาคมเข้ารับข้อมูลในการป้องกันการใช้สารต้องห้าม หรือ หลีกเลี่ยงการโด๊ปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยู่เป็นประจำ เชื่อว่านักกีฬาอีกจำนวนมากที่ไม่รู้ถึงภัยใกล้ตัว โดยเฉพาะในเรื่องสารที่ปนเปื้อนมากับอาหาร , น้ำต้มบางชนิดที่ปลดล็อคจากยาเสพติดเช่น น้ำกัญชง น้ำกัญชา, น้ำใบกระท่อม ซึ่งอยู่ในข่ายสารที่มีผลต่อการกระตุ้นทุกชนิดทำให้หัวใจเต้นเร็ว หงุดหงิดง่าย และ มือไม่นิ่ง ส่งผลเสียต่อ กีฬายิงปืน, ยิงธนู , ยิงเป้าบิน, สนุกเกอร์, มวยสากล, เปตอง, โบว์ลิ่ง , ยกน้ำหนัก และ เพาะกาย จึงขอเตือนนักกีฬาทุกคนว่า หากจำเป็นต้องใช้ยา ขอให้ปรึกษาผู้ฝึกสอน หรือหากสะดวกให้เดินทางมาปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา (แผนกโด๊ปปิ้ง) ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ทุกวัน  หรือเข้าไปศึกษาข้อมูลจากเฟสบุ๊ค DCAT Doping Control Agency of Thailand  หรือ www.dcat.in.th ได้ตลอดเวลา เพื่อเป็นการป้องกัน และตัดไฟตั้งแต่ต้นลม  

ขณะเดียวกัน นายกิตติพงษ์ พรชัย หัวหน้าผู้ฝึกสอนสนุกเกอร์ทีมชาติไทย หลังจากที่ได้เข้าร่วมการอบรม ได้แสดงความเป็นห่วงนักกีฬาหลายคน เนื่องจากบางคนกำลังบริโภคอาหารเสริมเพื่อสร้างกล้ามเนื้อ บางคนทานยาลดน้ำหนัก และบางคนมีโรคประจำตัวได้ทานยาอยู่เป็นประจำ จึงได้เรียกมาทำความเข้าใจ พร้อมกับเตรียมนำตัวอย่างไปปรึกษาหมอ และ ผู้เชี่ยวชาญของศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท.ในเร็วๆนี้