จัดด์ ทรัมป์ เฉือน ฮอว์กินส์ คว้าแชมป์สนุกเกอร์ยูเคแชมเปี้ยนชิพสมัยที่ 2

จัดด์ ทรัมป์ เฉือน ฮอว์กินส์ คว้าแชมป์สนุกเกอร์ยูเคแชมเปี้ยนชิพสมัยที่ 2
เป็นไปตามคาดดั่งที่สำนักเดิมพันทั้งหลายได้เต็งกันไว้เมื่อ "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ นักสอยคิวมือ 1 ของโลกจากอังกฤษ ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นจอมคิวที่ดีที่สุดแห่งยุค สามารถคว้าแชมป์สอยคิวรายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อย่างยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2024 ไปครองได้สำเร็จ

หลังรอบชิงชนะเลิศ เมื่อช่วงดึกของวันที่ 1 ธ.ค. 67 เอาชนะม้ามืดประจำรายการอย่าง "พญาเหยี่ยว" แบร์รี่ ฮอว์กินส์ มือ 20 ของโลกจากชาติเดียวกันไปอย่างระทึก 10-8 เฟรม ในสังเวียนยอร์คบาร์บิกัน เมืองยอร์ค ประเทศอังกฤษ

แม้ "หนุ่มจัดด์" จะถูกมองว่าเป็นต่อหลายขุม ทว่าตลอดการแข่งขัน แบร์รี่ ฮอว์กินส์ ไล่จี้มาตลอด ไม่ปล่อยให้นักสอยคิวมือ 1 ของโลก ทิ้งห่างไปไกลแบบขาดลอยเลย เกมจึงออกมาสนุกสูสี จนกระทั่งไล่มาเป็น 8-9 เฟรม 

และในเฟรมที่ 18 ฮอว์กินส์ ได้โอกาสเข้าเบรกก่อน และมีโอกาสตีเสมอป็น 9-9 เฟรม ทว่าเขากลับตบแดงหลุมกลางซ้ายพลาด เปิดโอกาสให้ ทรัมป์ เข้าเบรกยาวจนแต้มขาด 2 สนุ้ก

เกมทำท่าจะขาด แต่ที่ไหนได้ แบร์รี่ อาศัยลูกตื๊อวางสนุ้กหลายครั้งหลายหน จนกองเชียร์ทั้งสองฝ่ายต่างต้องลุ้นกันตัวโก่ง

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะวางยากเพียงใด จัดด์ ทรัมป์ ก็แก้ได้แทบทุกครั้ง โดยแก้พลาดแค่ครั้งเดียวเท่านั้น จึงเหลือสนุ้กเดียว

กระทั่ง ฮอว์กินส์ มาวางน้ำตาลพลาดหลุดไปจ่อเอง ก่อนที่จอมคิวขาวซิ่ง จะจัดการตบลงไป พร้อมกับเอาชนะไปในที่สุด 10-8 เฟรม คว้าแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2024 ไปครองได้ตามที่หลายคนคาด นับเป็นแชมป์สมัยที่ 2 ของเจ้าตัวต่อจากปี 2011 หรือ 13 ปีที่แล้ว พร้อมกับรับเงินก้อนโตมูลค่า 250,000 ปอนด์(ราวๆ 10.8 ล้านบาท)

อีกทั้ง ยังเป็นแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ (ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ, มาสเตอร์ส) รายการที่ 5 ของเจ้าตัว ต่อจากยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2011, มาสเตอร์ส 2019, ชิงแชมป์โลก 2019, มาสเตอร์ส 2023 และยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2024

นอกจากนี้ ยังถือเป็นแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง (มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลก) รายการที่ 30 ของเจ้าตัวอีกด้วย ส่งผลให้ "หนุ่มจัดด์" ในวัย 35 ปี รั้งอันดับ 4 ในทำเนียบนักสอยคิวที่คว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมากที่สุด โดยเป็นรองเพียง 3 คนเท่านั้น ได้แก่ รอนนี่ โอซัลลิแวน(41 รายการ), สตีเฟ่น เฮนดรี้(36 รายการ) และ จอห์น ฮิกกินส์(31 รายการ)

และจากความสำเร็จดังกล่าว ทำให้ จัดด์ ทรัมป์ โกยคะแนนสะสมอื้อซ่าถึง 235,000 แต้ม จนรั้งบัลลังก์อันดับ 1 ของโลกอย่างเหนียวแน่น ด้วยคะแนนมหาศาลถึง 1,812,200 คะแนน นำอันดับ 2 ของโลกอย่าง ไคเรน วิลสัน จากชาติเดียวกันแบบไม่เห็นฝุ่นถึง 658,200 แต้มเลยทีเดียว พร้อมกับคว้าสิทธิ์ดวลคิวในศึกแชมเปี้ยนออฟแชมเปี้ยนส์ 2025 หรือแชมป์เหนือแชมป์ในปีหน้าอีกด้วย

ด้าน แบร์รี่ ฮอว์กินส์ แม้ว่าจะได้แค่รองแชมป์ ทว่าเขาได้รับคำชมจากแฟนสนุกเกอร์อย่างมาก เพราะตลอดเส้นทางก่อนเข้าชิง ได้สร้างวีรกรรมโค่นยอดฝีมือหลายคน อาทิ จัดการสยบแชมป์เก่าอย่าง รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 4 ของโลกจากอังกฤษในรอบ 32 คน 6-4 เฟรม, เอาชนะ ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 8 ของโลกจากอังกฤษ ในรอบก่อนรองชนะเลิศ 6-2 เฟรม และปราบอีก 1 ตัวเต็งอย่าง มาร์ค อัลเลน มือ 5 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ในรอบรองชนะเลิศ 6-5 เฟรม

นอกจากนี้ การคว้ารองแชมป์ดังกล่าว ยังถือว่าเป็นผลงานที่ดีที่สุดของเจ้าตัว ในศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพอีกด้วย คว้าเงินรางวัลไป 100,000 ปอนด์(ประมาณ 4.3 ล้านบาท) พร้อมกับรับคะแนนสะสมเพิ่มอีก 100,000 แต้ม ขยับจากอันดับ 20 ขึ้นมารั้งอันดับ 13 ของโลกเป็นที่แน่นอนแล้ว นับเป็นการกลับเข้าสู่ท็อป 16 ของโลกอีกครั้ง

และจากการที่ศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2024 คือรายการสุดท้าย ที่เปิดโอกาสให้นักกีฬาได้โกยคะแนนสะสม ก่อนจะคัดเอามืออันดับ 1-16 ของโลกไปแข่งขันรายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อีกรายการอย่างมาสเตอร์ส 2025 ในช่วงต้นปีหน้า จึงทำให้ ฮอว์กินส์ คว้าตั๋วอันล้ำค่าไปลุยศึกมาสเตอร์ส 2025 อย่างฉิวเฉียด

ล่าสุด ผลการจับสลากประกบคู่ในรอบแรก(รอบ 16 คน)ของศึกมาสเตอร์ส 2025 ออกมาเป็นที่เรียบร้อย ปรากฏว่า ฮอว์กินส์ ถูกจับมาเจอกับ จัดด์ ทรัมป์ ส่งผลให้ทั้งคู่ จะต้องประชันเพลงคิวกันอีกคำรบ


ที่มาของภาพ : gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport