อย่างไรก็ตาม จากวีรกรรมที่เธอคว้าชัยเหนือคู่แข่ง ที่เป็นผู้ชายอกสามศอกมาถึง 3 รอบ ไล่ตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 1 (รอบ 144 คน) ชนะ ฟารัคห์ อาจาอิบ มือ 111 ของโลก จากปากีสถาน 6-4 เฟรม ตามด้วยรอบคัดเลือกรอบที่ 2(รอบ 112 คน) โค่น เจมี่ โจนส์ มือ 54 ของโลกจากเวลส์ 6-4 เฟรม และรอบคัดเลือกรอบที่ 3 (รอบ 80 คน) เฉือน สกอตต์ โดนัลด์สัน มือ 44 ของโลกจากสกอตแลนด์ 6-5 เฟรม

ส่งผลให้แม่นางไป่ ที่อยู่ในวัย 21 ปี กลายเป็นนักสนุกเกอร์สตรีเพศคนแรกแห่งศตวรรษ ที่คว้าชัยได้ถึง 3 แมตช์ ในรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ของทัวร์อาชีพโลก ที่แข่งรวมกับนักกีฬาชาย ก่อนจะมาถึงวันนี้ ไป่ ยู่ หลู ได้ฉายแววเก่ง ในกีฬาแม่นรู ตั้งแต่เธออายุ 16 ปีแล้ว วันนี้เราจะไปพบกับเรื่องราวของเธอกัน

จุดเริ่มต้น ต้องย้อนกลับไปเมื่อครั้งสมัยที่เธออายุได้เพียง 10 ขวบ ครั้งนั้นเธอเป็นเพียงเด็กสาวธรรมดาที่รักสนุกตามประสาเด็กทั่วไป ทว่าคุณพ่อของเธอคลั่งไคล้กีฬาสนุกเกอร์เป็นชีวิตจิตใจ ถึงขนาดซื้อโต๊ะสนุกเกอร์ขนาดมาตรฐาน(ขนาด 12X6 ฟุต) มาติดตั้งไว้ที่บ้าน ณ เมืองตงกว่าน มณฑลกวางตุ้ง พร้อมกับบังคับให้ลูกสาว ซ้อมแทงวันละ 8-10 ชั่วโมง

มีหลายครั้งที่บิดาบังเกิดเกล้า ผู้บ้ากีฬาสอยคิวผู้นี้ ยินยอมให้บุตรสาวไม่ต้องไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน เหมือนดั่งเด็กคนอื่น เพื่อให้ซ้อมสนุกเกอร์อยู่ที่บ้าน จนคนอื่นมองว่า การกระทำของเขาไม่ต่างอะไรจากคนบ้าเลย

อย่างไรก็ตาม แม้จะเคี่ยวเข็ญให้ลูกสาวซ้อมสนุกเกอร์หนักเพียงใด แต่ทั้งคุณพ่อและคุณแม่ ก็ยังจ้างอาจารย์ มาสอนวิชาภาษาอังกฤษ, ภาษาจีน และคณิตศาตร์ ให้ถึงที่บ้าน เพราะมองว่า 3 วิชานี้ มีความสำคัญและจำเป็นต่อการดำรงชีวิต

หลังจากซ้อมที่บ้านจนชำนาญในระดับหนึ่ง คุณพ่อของแม่นางไป่ ได้พาเธอมาซ้อมที่ตงกว่านสนุกเกอร์คลับ โดยมี หลี่ เจียน ปิง โค้ชของคลับดังกล่าว เป็นผู้ดูแลการฝึกซ้อม โดยคุณพ่อของเธอ ได้มองการณ์ไกล พร้อมกับตั้งเป้าหมายระยะยาวว่า อยากให้เธอไปร่วมแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกที่อังกฤษ และไม่ใช่แค่ทัวร์หญิงเท่านั้น แต่อยากให้ลูกสาว ลงแข่งขันทัวร์อาชีพร่วมกับผู้ชายอีกด้วย เนื่องจากทัวร์ชาย เงินรางวัลสูงกว่าทัวร์หญิงหลายเท่า

ด้วยเหตุนี้ คุณพ่อและคุณแม่ จึงวางแผนตั้งแต่เนิ่นๆ ที่จะขายทรัพย์สินส่วนตัว เพื่อส่งเสียให้บุตรสาวหัวแก้วหัวแหวน ไปถึงฝั่งฝัน บนเส้นทางการเป็นนักสอยคิวอาชีพโลกให้ได้

กระทั่งเมื่อปี 2018 ไป่ ยู่ หลู อยู่ในวัยเพียง 16 ปี ได้โอกาสลงแข่งขันรายการหญิงชิงแชมป์โลกรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี ณ เมืองจี่หนาน ประเทศจีน พร้อมกับหักปากกาเซียน ผ่านเข้ารอบชิงได้อย่างเหลือเชื่อ ก่อนจะพ่ายต่อ "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ที่ตอนนั้นอยู่ในวัย 19 ปีไป 2-4 เฟรม

แม้จะได้เพียงตำแหน่งรองแชมป์เยาวชนหญิงโลก ทว่ามันเป็นผลงานที่ทำให้เธอได้รับการจับตามอง จนกระทั่งในศึกเยาวชนหญิงโลก 2019 ในปีถัดมา ที่เมืองชิงเต่า ประเทศจีน "แม่นางไป่" เข้าชิงกับ "สาวมิ้งค์" อีกครั้ง และคราวนี้ เธอสามารถล้างแค้นจอมคิวสาวไทยได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะไปได้ 4-0 เฟรม ผงาดคว้าแชมป์เยาวชนหญิงโลกมาครองเป็นครั้งแรก

ความสำเร็จดังกล่าว เสมือนจุดเริ่มต้น ที่จะทำให้เธอ ตั้งเป้าหมายที่จะทะยานก้าวไปเล่นทัวร์อาชีพหญิงโลกที่อังกฤษ ทว่าอีกไม่นานต่อจากนั้น อุปสรรคสำคัญได้มาเยือน นั่นก็คือการระบาดของโควิด-19 ซึ่งรัฐบาลจีนในขณะนั้น มีนโยบายซีโร่โควิด คนในประเทศห้ามออก คนนอกประเทศห้ามเข้า

ฉะนั้น ไป่ ยู่ หลู จึงมิอาจเดินทางมาแข่งขันนอกประเทศจีนได้ ต้องอาศัยอยู่ในจีนถึง 3 ปี ทำได้เพียงซ้อมและลงแข่งขันในแผ่นดินมังกรเท่านั้น

จนกระทั่งในปี 2023 รัฐบาลจีนได้เปิดประเทศ แม่นางไป่จึงสามารถเดินทางมาแข่งขันนอกประเทศได้ ก่อนที่จะคว้ารองแชมป์โลกเมื่อปี 2023 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยรอบชิงพ่าย "ใบพัด ศรีราชา" ศิริภาพร นวนทะคำจัน 3-6 เฟรม

ก่อนที่อีก 1 ปีให้หลัง เธอจะกลับมาคว้าแชมป์โลกหญิง 2024 ได้สำเร็จ ซึ่งแข่งขันที่ตงกว่าน ประเทศจีน ดินแดนที่เปรียบเสมือนบ้านเกิดของเธอ โดยรอบชิงเอาชนะคู่ปรับอย่าง "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย ไปอย่างฉิวเฉียด 6-5 เฟรม เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

ความสำเร็จดังกล่าว ส่งผลให้แม่นางไป่ ได้สิทธิ์เล่นทัวร์อาชีพโลกของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ร่วมกับนักกีฬาชาย ในอีก 2 ฤดูกาลถัดไป(2025/26 และ 2026/26)อีกด้วย นอกจากนี้ ในปีเดียวกัน เธอยังคว้าแชมป์ยูเควีเมนส์แชมเปี้ยนชิพ 2024 อีก 1 รายการ

จากผลงานที่ร้อนแรงในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา กล่าวได้ว่า เธอเป็นนักสอยคิวหญิงอีกคนที่น่าจับตามอง ในยุทธจักรสนุกเกอร์สตรีโลก อีกทั้งเป้าหมายของเธอ มิได้อยู่ที่ทัวร์หญิงเท่านั้น แต่เธอตั้งเป้าที่จะทำผลงานผงาดทัวร์อาชีพที่เล่นร่วมกับผู้ชายด้วย

ด้วยวัยแค่ 21 ปี ยังสามารถพัฒนาฝีมือไปได้อีกไกล จึงน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า ไป่ ยู่ หลู จะมีผลงานดีแค่ไหน ในเวทีสนุกเกอร์อาชีพโลก