เผลอแป๊บเดียว ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ได้เป็นสังเวียนศึกสอยคิวชิงแชมป์โลก 47 ปีเข้าให้แล้ว อีก 3 ปีก็จะครบครึ่งศตวรรษพอดี จนทำให้สถานที่แห่งนี้ คือหนึ่งในสัญลักษณ์แห่งวงการคิวโลกอย่างแท้จริง

และมันก็ได้รับการขนานนามว่า เป็นโรงละครแห่งความฝัน ของนักสนุกเกอร์หลายๆคนด้วย เพราะคนที่จะเข้ามาโชว์เพลงคิวในศึกชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายที่นี่ จะต้องเป็นมือท็อป 16 ของโลก และมือที่ผ่านมาจากรอบคัดเลือกเพียง 16 คนเท่านั้น

อย่างนักสอยคิวไทย ก็มีเพียง 5 คนเท่านั้น ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรค เข้ามาดวลคิวในศึกชิงแชมป์โลก ณ สถานที่แห่งนี้ ได้แก่ "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม, "ต่าย พิจิตร" ชูชาติ ไตรรัตนประดิษฐ์, "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัติ พุ่มแจ้ง, "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ และ "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู โดย ต๋อง, แจ๊ค และ หมู คือ 3 คนที่เคยลิ้มรสชาติกับการคว้าชัยชนะ ณ โรงละครที่เต็มเปี่ยมไปด้วยมนต์ขลังแห่งนี้

อย่างไรก็ตาม อีก 3 ปีต่อจากนี้ อาจเป็น 3 ปีสุดท้ายแล้ว ที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ จะถูกใช้เป็นสังเวียนจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย เพราะเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) ได้ลงนามเซ็นสัญญาร่วมกับสภาเมืองเชฟฟิลด์ หน่วยงานที่เป็นเจ้าของครูซิเบิลเธียร์เตอร์ จนถึงศึกชิงแชมป์โลกปี 2027 เท่านั้น

พร้อมกับมีกระแสข่าวออกมาว่า องค์กรคิวโลกอาจจะย้ายศึกสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย ไปแบทเทิ่ลเพลงคิว ณ สังเวียนอื่น และมันอาจไม่ใช่ในอังกฤษด้วย นับตั้งแต่ศึกชิงแชมป์โลกปี 2028 เป็นต้นไป

ย้อนเวลากลับไปในปี 2017 หรือ 7 ปีที่แล้ว สัญญาฉบับเดิมที่เวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (ขณะนั้นยังใช้ชื่อองค์กรเดิมว่า เวิลด์สนุกเกอร์) ทำกับสภาเมืองเชฟฟิลด์ ในการใช้ครูซิเบิลเธียร์เตอร์เป็นสังเวียนแข่งชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย กำลังจะหมดลงหลังจบศึกชิงแชมป์โลก 2017 ได้เกิดข่าวลือมากมายว่า จีนที่ประชากรในประเทศ คลั่งไคล้กีฬาแม่นรูเป็นอย่างมาก เตรียมทุ่มงบมหาศาล เพื่อดึงศึกสอยคิวชิงแชมป์โลกไปจัด ณ แดนมังกร

ด้วยศักดิ์ศรีของการเป็นดินแดนต้นตำรับกีฬาชนิดนี้ จึงทำให้คีย์แมนแห่งวงการคิวโลก ที่เป็นชาวอังกฤษทั้ง เจสัน เฟอร์กูสัน ประธานสมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) กับ แบร์รี่ เฮิร์น ประธานเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST)ในขณะนั้น จัดการชิงเซ็นสัญญากับสภาเมืองเชฟฟิลด์ เพื่อให้ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ จัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายต่อไปอีก 10 ปี ระหว่างปี 2018-2027

เผลอแป๊ปเดียว ใกล้จะครบสัญญาแล้ว จึงน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรคิวโลกจะเอายังไงกับสถานที่จัดการแข่งขันรายการชิงแชมป์โลกรอบสุดท้าย ตั้งแต่ปี 2028 เป็นต้นไป

7 ปีก่อน มีแค่จีนเท่านั้นที่สนใจดึงศึกชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายไปจัด ล่าสุดมีซาอุดีอาระเบียอีก 1 ประเทศ สนใจเป็นเจ้าภาพจัดศึกสอยคิวทัวร์นาเมนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเช่นกัน ซึ่งทั้ง 2 ประเทศดังกล่าว พร้อมเปย์ไม่อั้นที่จะดึงชิงแชมป์โลกไปจัด ณ แผ่นดินตัวเอง

เท่านั้นยังไม่พอ ยังมีนักสนุกเกอร์และแฟนสอยคิวอีกจำนวนไม่น้อยที่มองว่าถึงเวลาต้องเปลี่ยนสถานที่จัดการแข่งขันชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายแล้ว เนื่องจากโรงละครครูซิเบิล จุคนได้น้อยเกินไป โดยสามารถรองรับผู้ชมได้แค่ราวๆ 980 ที่นั่งเท่านั้น

หากศึกชิงแชมป์โลกย้ายไปบรรเลงเพลงคิว  สถานที่อื่นที่จุคนได้เยอะกว่า ไม่ว่าจะเป็นในอังกฤษหรือประเทศอื่น จะทำให้องค์กรคิวโลก มีรายได้จากค่าตั๋วเข้าชมต่อรอบที่มากกว่านี้หลายเท่า

อย่างไรก็ตาม กลุ่มคนที่เห็นต่างซึ่งเป็นทั้งนักสนุกเกอร์และแฟนกีฬาแม่นรู ที่อยากให้ศึกชิงแชมป์โลกจัดที่ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ต่อไปก็มีเช่นกัน

คนกลุ่มนี้มองว่าโรงละครดังแห่งเมืองเชฟฟิลด์ เต็มไปด้วยเสน่ห์ ประวัติศาสตร์ และมนต์ขลังแห่งศึกสอยคิวโลกมากมาย หากย้ายไปจัดที่อื่น บรรยากาศจะไม่คลาสสิคเหมือนเดิมอีกต่อไป

อีก 3 ปีต่อจากนี้ น่าสนใจเป็นอย่างยิ่งว่า องค์กรคิวโลกจะตัดสินใจอย่างไร จะย้ายสถานที่แข่งขันไปจัดที่อื่น หรือจะเร่งเจรจาเซ็นสัญญากับสภาเมืองเชฟฟิลด์ เพื่อให้ครูซิเบิลเธียร์เตอร์ ยังคงจัดศึกชิงแชมป์โลกรอบสุดท้ายต่อไป แฟนกีฬาแม่นรูทั้งหลาย ต้องคอยติดตามกัน