ยังคงยอดเยี่ยม ยิ่งใหญ่ และเกรียงไกร จนเป็นเบอร์ 1 ในวงการกีฬาแม่นรูอย่างต่อเนื่อง สำหรับ “เดอะร็อกเก็ต” รอนนี่ โอซัลลิแวน นักสอยคิวมือ 1 ของโลกจากอังกฤษ แม้อายุจะอยู่ในวัย 48 ย่าง 49 แต่ฝีมือของเขามิได้ร่วงโรยตามกาลเวลาเลย หลังล่าสุด สำแดงเพลงคิวไล่แซงจนเอาชนะ "เดอะกัปตัน" อาลี คาร์เตอร์ มือ 10 ของโลกจากชาติเดียวกันไปได้ 10-7 เฟรม ในสนุกเกอร์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์อย่างมาสเตอร์ส 2024 รอบชิงชนะเลิศ ที่สังเวียน อเล็กซานดราพาเลซ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา
ชัยชนะดังกล่าว ได้ทำให้จอมคิวผู้มีความแม่นเป็นอมตะ คว้าแชมป์มาสเตอร์สไปครองเป็นสมัยที่ 8 ซึ่งถือเป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์รายการนี้มากที่สุดอีกด้วย คว้าเงินรางวัลก้อนโต 250,000 ปอนด์(ราวๆ 11 ล้านบาท) ไปครอง พร้อมกับทำสถิติเป็นแชมป์มาสเตอร์ส ที่อายุมากที่สุด ด้วยวัย 48 ปี 40 วัน ทำลายสถิติเดิมของ สจวร์ต บิงแฮม ที่คว้าแชมป์มาสเตอร์ส 2020 ด้วยวัย 43 ปี 243 วันอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังทำให้เจ้าตัว ขยายสถิติการเป็นแชมป์ 3 รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ (ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ,มาสเตอร์ส) มากที่สุดออกไปอีก ด้วยผลงาน 23 รายการ ประกอบด้วยแชมป์ยูเคแชมเปี้ยนชิพ 8 สมัย, แชมป์มาสเตอร์ส 8 สมัย และชิงแชมป์โลกอีก 7 สมัย
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นก็คือ การคว้าแชมป์มาสเตอร์สที่เพิ่งจบลงไป ทำให้ “เดอะร็อกเก็ต” มีลุ้นทำสถิติคว้าแชมป์ศึกใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ทัวร์นาเมนต์ ครบทั้ง 3 รายการ ภายในฤดูกาลเดียวกัน หลังจากศึกยูเคแชมเปี้ยนชิพ 2023 เมื่อปลายปีก่อน เขาก็เพิ่งคว้าแชมป์มาครองหมาดๆ
ดังนั้น หากในศึกชิงแชมป์โลก 2024 ในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคมนี้ รอนนี่ สามารถคว้าแชมป์มาครองได้ จะทำให้เขากลายเป็นจอมคิวคนที่ 4 ที่คว้าแชมป์ทริปเปิลคราวน์ครบทั้ง 3 ทัวร์นาเมนต์ภายในฤดูกาลเดียวกันทันที ต่อจาก “เทพบุตรคิวทอง” สตีฟ เดวิส ที่ทำได้ในฤดูกาล 1987/88, “มัจจุราชผมทอง” สตีเฟ่น เฮนดรี้ ที่ทำได้ถึง 2 ครั้งในซีซั่น 1989/90 และ 1995/96 และ “จรวดทองเรียบ” มาร์ค เจ วิลเลียมส์ ที่ทำได้ในฤดูกาล 2002/03
นอกจากนี้ ยังจะทำให้ รอนนี่ โอซัลลิแวน ทำสถิติแซง สตีเฟ่น เฮนดรี้ ด้วยการเป็นนักแม่นรูที่คว้าแชมป์โลกมากที่สุดโลก ด้วยจำนวน 8 สมัยอีกต่างหาก(นับเฉพาะยุคโมเดิร์นตั้งแต่ศึกชิงแชมป์โลกปี 1969 เป็นต้นมา) ซึ่งน่าติดตามเป็นอย่างยิ่งว่า ท้ายที่สุดแล้ว มหาเทพแห่งวงการแม่นรูผู้นี้ จะสามารถคว้าแชมป์โลก 2024 จนสร้างสถิติมหัศจรรย์ทั้ง 2 เรื่องขึ้นมาได้หรือไม่
ด้าน อาลี คาร์เตอร์ ที่แม้จะแทงได้ดีในทัวร์นาเมนต์นี้ จนผ่านเข้ารอบชิงศึกมาสเตอร์ส 2024 แบบหักปากกาเซียน แต่ก็ต้องอาภัพกับการคว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ต่อไป โดยจากความปราชัยต่อ รอนนี่ 7-10 เฟรม ในรอบชิงมาสเตอร์สที่เพิ่งปิดฉากลงไป ทำให้จอมคิวที่มีความสามารถในการขับเครื่องบิน ต้องผิดหวังในรอบไฟนัลของศึกทริปเปิลคราวน์เป็นครั้งที่ 4 เข้าให้แล้ว
แถม 3 ใน 4 คือความพ่ายแพ้ให้กับ รอนนี่ อีกต่างหาก ประกอบด้วยชิงแชมป์โลก 2008(แพ้ รอนนี่ รอบชิง 8-18 เฟรม), ชิงแชมป์โลก 2012(แพ้ รอนนี่ รอบชิง 11-18 เฟรม และล่าสุด มาสเตอร์ส 2024 (แพ้ รอนนี่ ในรอบชิง 7-10 เฟรม) ส่วนอีกรายการอย่าง มาสเตอร์ส 2020 “เดอะกัปตัน” พ่ายในรอบชิงให้กับ สจวร์ต บิงแฮม นักสอยคิวชาวอังกฤษอีกคนไป 8-10 เฟรม
การคว้ารองแชมป์ในศึกมาสเตอร์สหนนี้ ทำให้ คาร์เตอร์ รับเงินรางวัลปลอบใจไป 100,000 ปอนด์(ประมาณ 4.4 ล้านบาท) นอกจากนี้ ตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ คาร์เตอร์ ในวัย 44 ปี ยังทำเซ็นจูรี่เบรก(ตบไม้เดียว 100 แต้มขึ้นไป) ถึง 9 ครั้ง พร้อมกับทำให้เจ้าตัว สร้างสถิติขึ้นมาใหม่ ด้วยการเป็นนักสนุกเกอร์ที่ทำเซ็นจูรี่เบรกได้มากที่สุดในศึกมาสเตอร์สครั้งเดียว โดยทุบสถิติเก่าของ รอนนี่ ที่เคยแทงไป 8 เซ็นจูรี่เบรก ทั้งในมาสเตอร์ส 2007 และมาสเตอร์ส 2009 อีกด้วย
สำหรับศึกมาสเตอร์ส 2024 มีการทำแม็กซิมั่มเบรก(ตบไม้เดียว 147 แต้ม) ได้ถึง 2 ครั้งจาก ติง จุ้น ฮุย มือ 11 ของโลกจากจีน ในแมตช์ที่แพ้ รอนนี่ 3-6 เฟรม ในรอบแรก กับ มาร์ค อัลเลน มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ ในแมตช์ที่ชนะ มาร์ค เซลบี้ 6-5 เฟรมในรอบก่อนรองชนะเลิศ ทำให้ ติง กับ อัลเลน รับโบนัสไปคนละ 7,500 ปอนด์ หรือราวๆ 3.3 แสนบาท