รายการนี้ เป็นทัวร์นาเมนต์แทงโชว์ ที่ไม่ได้อยู่ในปฏิทินของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ทว่าองค์กรคิวโลก ก็ไม่ได้ห้ามแต่อย่างใด พร้อมกับเปิดโอกาสให้จอมคิวเลื่องชื่อทั้ง 8 สามารถพกคิวคู่ใจมาวาดลวดลายได้ เนื่องจากช่วงเวลาดังกล่าว โปรแกรมสนุกเกอร์อาชีพโลกได้เว้นว่างพอดี เพื่อให้นักสอยคิวในทัวร์แต่ละคน ได้ใช้เวลาพักผ่อนกับครอบครัว เนื่องในโอกาสช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่มีข้อแม้ว่าห้ามถ่ายทอดสด

อันที่จริง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่มาเก๊าจัดการแข่งขันสนุกเกอร์ที่นำจอมคิวระดับโลกมาดวลกัน ย้อนเวลากลับไปเมื่อ 5 ปีก่อน ศึกมาเก๊ามาสเตอร์ส 2018 เป็นรายการเล็กๆประเภทอินวิเตชั่น ที่อยู่ในปฏิทินขององค์กรคิวโลกด้วย แต่เงินรางวัลไม่สูงมากนัก โดยจัด 2 ประเภท ได้แก่ประเภททีม ทีมที่ได้แชมป์รับ 50,000 เหรียญสหรัฐฯ(ราวๆ 1.8 ล้านบาท), รองแชมป์ได้ 30,000 เหรียญสหรัฐฯ(ประมาณ 1 ล้านบาท) ส่วนอีกประเภทอย่าง 6 แดง แชมป์ได้รับ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ(ราวๆ 7 แสนบาท)

ในครั้งนี้ แม้ศึกมาเก๊ามาสเตอร์ส 2023 จะเป็นแค่ศึกแทงโชว์ ทว่าเงินรางวัลกลับมากมายมหาศาล โดยแชมป์ฟาดถึง 150,000 ปอนด์(ประมาณ 6.7 ล้านบาท)เลยทีเดียว เรียกได้ว่ามากกว่าหลายรายการในทัวร์อาชีพเสียอีก แถมยังไม่รวมกับค่าจ้างของแต่ละคน ที่จะต้องได้รับเป็นจำนวนเงินก้อนโตอีกด้วย

ลองคิดดูเล่นๆว่า ช่วงคริสต์มาส เทศกาลที่ชาวฝรั่งมังค่าส่วนใหญ่ จะใช้เวลาพักผ่อนอยู่กับครอบครัว ฝ่ายจัดการแข่งขันมาเก๊ามาสเตอร์ส 2023 จะต้องใช้เงินจ้างสูงขนาดไหน เพื่อดึงให้จอมคิวบิ๊กเนมเหล่านี้ ให้อยู่ห่างจากครอบครัว เพื่อมาบรรเลงเพลงคิว ณ ดินแดนที่ได้รับการขนามว่า เป็นลาสเวกัสแห่งเอเชีย

เมื่อดูกลยุทธิ์การดึงนักสอยคิวมาแข่งขันนั้น จะเห็นได้ว่าฝ่ายจัดการแข่งขันมาเก๊ามาสเตอร์ส 2023 เลือกแต่บรรดาพวกที่แทงไว, สนุก และเร้าใจคนดู มาด้วยกันแทบทั้งสิ้น อาทิ รอนนี่ โอซัลลิแวน, จัดด์ ทรัมป์, ไคเรน วิลสัน, มาร์ค เจ วิลเลียมส์ และ แจ๊ค ลิซอฟสกี้ 

ขณะที่อีก 3 คนที่เป็นจอมคิวจากเอเชีย ได้แก่ ติง จุ้น ฮุย จากจีน, ซื่อ เจี้ย ฮุย จากจีนเช่นกัน และ มาร์โก ฟู จากฮ่องกง ฝ่ายจัดต้องการซุปตาร์จากจีนและฮ่องกงเหล่านี้ เรียกคนดูจากทั้งสองชาติ ให้เดินทางมาเชียร์ถึงวินน์พาเลซ ณ มาเก๊ามากยิ่งขึ้น

กล่าวได้ว่า ทัวร์นาเมนต์นี้เป็นศึกแทงโชว์ก็จริง แต่คงมีแฟนสนุกเกอร์ทั้งในมาเก๊า, ฮ่องกง และจีน เข้ามาดูกันอย่างล้นหลาม ภาพที่คาดว่าปรากฏว่าออกมา คงจะคลาคล่ำไปด้วยแฟนสนุกเกอร์จนแน่นฮอลล์แข่งขันอย่างแน่นอน ตลอด 4 วันแห่งการดวลคิว เงินคงจะสะพัดไม่น้อย เศรษฐกิจมาเก๊าในช่วงคริสต์มาส คงเฟื่องฟูน่าดู

หากประสบความสำเร็จในแง่คนดู เชื่อว่ามาเก๊ามาสเตอร์ส คงจะจัดอย่างต่อเนื่องในปีถัดๆไปเป็นแน่แท้ ยิ่งถ้ามีแฟนสนุกเกอร์ดูอย่างเนืองแน่น จนกลายเป็นภาพอันน่าประทับใจเหมือนดั่งฮ่องกงมาสเตอร์ส 2022 ที่มียอดผู้ชมเกือบหมื่น รายการนี้อาจถูกยกระดับให้กลายเป็นทัวร์นาเมนต์อาชีพ ที่อยู่ในปฏิทินของเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ในภายภาคหน้าต่อไป