จอห์น ฮิกกินส์ ตั้งเป้าขออยู่ท็อป16ของโลกไปจนอายุ50

ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาถือเป็นนักแม่นรูที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดคนหนึ่งของวงการเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะวีรกรรมการคว้าแชมป์โลกถึง 4 ครั้ง แถมยังเป็นเพียง 1 ใน 11 มือพระกาฬเท่านั้น ที่คว้าแชมป์รายการใหญ่ระดับทริปเปิลคราวน์ได้ครบทั้ง 3 ทัวร์นาเมนต์ อันประกอบด้วย ชิงแชมป์โลก, ยูเคแชมเปี้ยนชิพ และมาสเตอร์ส

เท่านั้นยังไม่พอ ตลอดเส้นทางการเล่นอาชีพราวๆ 3 ทศวรรษเศษๆ "ป๋าจอห์น" ยังรักษามาตรฐานการแทงให้อยู่ในระดับเบอร์ต้นๆของโลกมาอย่างต่อเนื่อง 

เรียกได้ว่า ตั้งแต่ทำอันดับโลกเข้ามาสู่ท็อป 16 ของเมื่อปี 1995 เป็นต้นมา เขาไม่เคยหลุดมือ 1-16 ของโลกอีกเลย

จึงทำให้แฟนสนุกเกอร์ทุกเจเนอเรชั่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่นเดอะ ที่ชมกีฬาแม่นรูมาอย่างยาวนานกว่า 30 ปี ตั้งแต่สมัยที่ "พี่ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม ยังรุ่งๆ จวบจนมาถึงแฟนยุคใหม่ในช่วงเพลาปัจจุบัน ต่างคุ้นชื่อของ จอห์น ฮิกกินส์ มาเป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลที่แล้ว(2022-2023) เป็นซีซั่นที่จอมคิวแห่งเมืองน้ำเมาผู้นี้ ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย เพราะนอกจากจะไม่ได้แชมป์ในรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลกแล้ว ยังตกรอบแรกๆเป็นประจำอีกด้วย

แชมป์เดียวที่ได้ในซีซั่นก่อน คือรายการเล็กอย่างศึกแชมเปี้ยนชิพลีก  2023 เท่านั้น แถมยังไม่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลกอีกต่างหาก เนื่องจากเพียงรายการประเภท non-ranking ทัวร์นาเมนต์ 

และจากการทำผลงานในฤดูกาลที่แล้วได้ค่อนข้างขี้เหร่ จึงทำให้เขา มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลนั้นๆ(one year ranking) ไม่เพียงพอต่อการเข้าไปดวลคิวใน 3 รายการสำคัญอย่าง เวิลด์กรังด์ปรีซ์ 2023, เพลย์เยอร์สแชมเปี้ยนชิพ 2023 และ ทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 

กระนั้นก็ตาม ด้วยแต้มบุญที่สะสมมาเยอะ จึงทำให้อันดับโลกของ จอห์น ฮิกกินส์ ไม่ร่วงมากนัก โดยปัจจุบันเขารั้งอันดับ 9 ของโลก ยังอยู่ในท็อป 16 ของโลก 

ล่าสุด อดีตแชมป์โลก 4 สมัยจากเมืองน้ำเมาได้กล่าวว่า ฤดูกาลที่ผ่านมา ถือเป็นซีซั่นที่ไม่น่าจดจำเอาเสียเลย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะอายุขัยเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้ผลงานการแทงได้ร่วงโรยไปตามสังขาร

ช่วงปิดฤดูกาลในตอนนี้ ฮิกกินส์ ได้กล่าวว่า เขาได้เตรียมตัวอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะกลับมาทำผลงานให้ผงาดอีกครั้ง 

พร้อมกับตั้งเป้า ที่จะรักษาอันดับโลกให้อยู่ในท็อป 16 ของโลกให้ได้ไปอย่างน้อย 2-3 ปี หรือจนกระทั่งอายุครบ 50 ปี

ฮิกกินส์ ได้กล่าวอีกว่า ด้วยวัย 48 ปี เป็นเรื่องที่ยากมากที่จะออกคิวได้แม่นยำเหมือนเมื่อก่อน อีกทั้งในปัจจุบันก็เริ่มมีนักสอยคิวดาวรุ่งหลายคนทำผลงานได้ดีขึ้น จึงมิใช่ง่ายที่จะรักษาผลงานให้อยู่ในท็อป 16 ของโลก ไปอีก 2-3 ปีตามเป้าหมายที่วางไว้

- ถิรพัฒน์  ณ ลำปาง -