ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา มีข่าวที่ไม่สู้ดีนักสำหรับวงการกีฬาไทย เมื่อคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ บอร์ด กกท. มีมติขอเลื่อนหรือยกเลิกการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 14-26 พฤศจิกายนนี้ โดยกรุงเทพฯ-ชลบุรี คือสองเมืองหลักที่ถูกวางให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน
"บิ๊กป้อม" พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ให้เหตุผลว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนผ่านรัฐบาล อีกทั้งยังมีเรื่องของระยะเวลาที่ยังไม่แน่นอน และยังไม่รู้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่เมื่อไหร่
ด้วยเหตุนี้บอร์ด กกท.จึงมีมติขอเลื่อน โดยจะขอให้ประเทศซาอุดิอาระเบีย ที่จะเป็นเจ้าภาพจัดเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชี่ยลอาร์ทเกมส์ครั้งต่อไปในปี 2025 ขยับมาจัดในปีนี้ แล้วให้ไทยสลับไปจัดในครั้งต่อไปในปี 2025 แทน หรืออาจจะยกเลิกไม่จัดไปเลย
พร้อมกับได้ประสานงานไปยังคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ให้ทำเรื่องแจ้งเลื่อนการเป็นเจ้าภาพไปยังสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) เป็นที่เรียบร้อย โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จะเป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปหารือกับสภาโอลิมปิกแห่งเอเชีย (OCA) อีกครั้ง ในวันพุธที่ 7 มิถุนายนนี้ แล้วจะนำข้อสรุปจากการเจรจา มาหารือภายในบอร์ดการกีฬาแห่งประเทศไทยต่อไป
หลังจากทราบเรื่องดังกล่าว "เสธ.โต" พลเรือเอก สุรวุฒิ มหารมณ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ซึ่งคร่ำหวอดอยู่ในวงการกีฬาบ้านเรามาอย่างยาวนาน ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วย พร้อมกับแนะนำให้ประเทศไทย เดินหน้าจัดการแข่งขันเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ในช่วงปลายปีนี้ตามกำหนดการณ์เดิม เนื่องจากหากเลื่อนหรือยกเลิก จะส่งผลให้ชื่อเสียงของประเทศชาติได้รับความเสียหาย
จะว่าไป ศึกเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 นับว่าเป็นทัวร์นาเมนต์ที่อาภัพยิ่งนัก เพราะการแข่งขันต้องเลื่อนแล้วเลื่อนอีก เดิมทีจะต้องจัดในปี 2021 ทว่าช่วงนั้นมีโควิด-19 จึงเลื่อนมาเป็นปี 2022 แต่ก็ยังติดปัญหาที่นักกีฬาจีนออกจากประเทศในช่วงเวลาดังกล่าวไม่ได้ เนื่องด้วยนโยบายซีโร่โควิดของรัฐบาลแดนมังกร จึงต้องเลื่อนมาจัดในปีนี้แทน และทำท่าจะเลื่อนอีกแล้ว
ถ้าบทสรุปสุดท้าย ต้องเลื่อนการแข่งขันจริง จะกระทบต่อการเตรียมนักกีฬาของหลายๆสมาคมอย่างแน่นอน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือทัพสอยคิวของไทย ภายใต้การดูแลของสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทยด้วย
เดิมที ทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติของบรรดานักแม่นรูมือสมัครเล่นก็นับว่าน้อยอยู่แล้ว ยิ่งหากศึกเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ในช่วงปลายปีโดนยกเลิกหรือเลื่อนอีก ก็จะทำให้รายการระดับนานาชาติของทัพสอยคิวไทย หายไปอีก 1 ทัวร์นาเมนต์
กีฬาอื่นอย่าง เทควันโด, วอลเลย์บอล, แบดมินตัน และอื่นๆ อาจจะไม่กระทบมากนัก เพราะตลอดทั้งปี ชนิดกีฬาสากลเหล่านี้ มีรายการระดับนานาชาติให้ร่วมชิงชัยมากมาย ซึ่งตรงกันข้ามกับกีฬาคิวสปอร์ต
ในปีหนึ่ง ทัพสอยคิวมือสมัครเล่นของไทย มีโปรแกรมทัวร์นาเมนต์นานาชาติลงแข่งขันเพียง 4 รายการเท่านั้น ก็คือ สมัครเล่นโลก, สมัครเล่นเอเชีย, เยาวชนโลก และ เยาวชนเอเชีย
ปีไหนที่ตรงกับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ก็จะมีซีเกมส์เพิ่มขึ้นมาอีกรายการ เฉกเช่นเดียวกันกับปีไหนที่ตรงกับเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ก็จะมีมหกรรมกีฬาเอเชียนอินดอร์ฯเพิ่มมาอีกทัวร์นาเมนต์
ถ้าเกิดเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ในช่วงปลายปีนี้ถูกยกเลิกการแข่งขันขึ้นมาจริง กว่าจะมีทัวร์นาเมนต์มหกรรมกีฬาอีก ก็ต้องรอถึงซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในอีก 2 ปีข้างหน้าเลยทีเดียว
เนื่องจากปีหน้า (2024) จะไม่มีซีเกมส์ และเชื่อว่าซาอุดิอาระเบีย ไม่น่าจะพร้อมจัดเอเชียนอินดอร์ฯแทนไทยในช่วงปลายปีนี้หรือปีหน้าด้วย เพราะระยะเวลามันกระชั้นชิดจนเกินไป พวกเขาคงเดินหน้าจัดในปี 2025 ตามแผนการเดิมที่วางไว้
ได้แต่หวังว่าผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการกีฬา จะยังคงร่วมมือร่วมใจช่วยกันผลักดันให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชียนอินดอร์แอนด์มาร์เชียลอาร์ทเกมส์ ครั้งที่ 6 ตามกำหนดการณ์เดิมเพื่อให้ทัพนักสอยคิวทีมชาติไทย ได้มีเวทีลงชิงชัย ในมหกรรมกีฬาแห่งทวีปเอเชียต่อไป
ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง