สำหรับในปีนี้ การแข่งขันจะถูกจัดขึ้นที่สถาบันพัฒนากีฬาบิลเลียดแห่งเอเชีย ราชมังคลากีฬาสถาน การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก โดยการชิงชัยจะแบ่งออกเป็น 2 สนามด้วยกัน ประกอบด้วยสนามแรก 1-6 พฤษภาคม กับสนามที่ 2 ระหว่างวันที่ 7-12 พฤษภาคม ผู้ที่เข้าชิงทั้ง 2 สนาม (จำนวน 4 คน) จะได้สิทธิ์รับการ์ดทัวร์ให้ไปเล่นอาชีพใน 2 ฤดูกาลถัดไปเป็นอย่างน้อย(2023-2024 กับ 2024-2025) ต่อไป

ในคิวสกูลครั้งก่อน ทัพนักสอยคิวชาวไทยสามารถคว้าสิทธิ์การ์ดทัวร์ไปแข่งขันได้ถึง 2 คน ประกอบด้วย "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง กับ "แมน นครปฐม" ธนวัฒน์ ถิรพงศ์ไพบูลย์ ทว่ารายหลังโดนตัดสิทธิ์อย่างน่าเสียดาย จากคดีล็อกผลการแข่งขัน จึงทำให้ เดชาวัต เป็นจอมคิวชาวไทยเพียงรายเดียว ที่ได้สิทธิ์จากคิวสกูลปีก่อน จนหวนกลับคืนสู่ยุทธจักรคิวอาชีพโลกอีกครั้ง

สำหรับในปีนี้ กล่าวได้ว่าโอกาสคว้าตั๋วอันล้ำค่าของทีมแม่นรูแห่งแดนสยาม คงจะลำบากยากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เนื่องจากบรรดากองทัพสอยคิวจีน สามารถเดินทางมาแข่งขันได้แล้ว หลังครั้งก่อนต้องอดเข้าร่วมชิงชัย สืบเนื่องมาจากนโยบายซีโร่โควิดของรัฐบาลแดนมังกร ณ เวลานั้น ห้ามมิให้ประชาการของพวกเขาเดินทางออกนอกประเทศเป็นอันขาด

ทำให้ศึกคิวสกูลโซนเอเชีย/โอเชียเนียในครั้งที่กำลังจะอุบัติขึ้น ทัพแม่นรูอาตี๋ต่างพากันสมัครเข้าร่วมชิงชัยแบบเต็มคาราเบลถึง 20 ชีวิตเลยทีเดียว มากกว่าไทยชาติเจ้าภาพจัดการแข่งขันเสียอีก ซึ่งจอมคิวบ้านเราสมัครร่วมดวลคิว 11 คนเท่านั้น

ขึ้นชื่อยี่ห้อจีน แน่นอนว่าสร้างความครั่นคร้ามให้กับชาติอื่นได้ไม่น้อย เพราะในช่วงหลังๆ จอมคิวดาวรุ่งแดนมังกร ฝีมือพัฒนาไปไกลมาก ยิ่งยกโขยงมากัน 20 คนด้วย ยิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับจอมคิวจากชาติอื่น ไม่เว้นแม้แต่ไทยเราเอง 

พร้อมกันนี้ กูรูหลายคนต่างมองว่า 4 ที่นั่งที่จะได้การ์ดทัวร์จากคิวสกูลโซนเอเชีย/โอเชียเนียคราวนี้ ต้องมีจีนอย่างแน่นอน

อย่างไรก็ตาม จากการที่ประเทศไทยจัดการแข่งขัน จึงทำให้จอมคิวจากแดนสยามยังพอสู้ได้ ในฐานะที่เป็นเจ้าภาพ เพราะจะมีแฟนสนุกเกอร์ไปให้กำลังใจอย่างใกล้ชิดถึงขอบโต๊ะ รวมถึงเชียร์ผ่านการดูไลฟ์สดทางสตรีมมิ่งอีกด้วย 

อันที่จริง ทัพนักแม่นรูไทยที่ลงสมัครร่วมดวลคิวในครั้งนี้ มีหลายคนที่น่าจับตามอง ไม่ว่าจะเป็น "ไบรท์ ศรีราชา" ณัทณพงศ์ ชัยกุล แชมป์เยาวชนประเทศไทยครั้งล่าสุด ที่แม้จะอายุเพียง 18 ปี ทว่ามีฝีมือที่น่าจับตามองมาก แถมก่อนลงดวลคิวในศึกคิวสกูลคราวนี้ ยังไปลับฝีมือที่อังกฤษมา 1 เดือนเต็มอีกต่างหาก

นอกจากนี้ก็ยังมี "โตโต้ ศิษย์ตุ้ม" ทวีทรัพย์ คงกิจเชิดชู อดีตรองแชมป์เยาวชนโลกเมื่อปี 2021, "ท็อปจันท์" พงศกร จงใจรักษ์ แชมป์รายการไทยแลนด์แรงค์กิ้งปีนี้สนามที่ 1 ที่จังหวัดกาญจนบุรี, "พุธ รังสิต" พุธกานต์ ขิมสุข แชมป์เยาวชนประเทศไทยปี พ.ศ.2561, "โฟน เนวาด้า" ณรงค์เดช ตาขันทอง แชมป์เยาวชนประเทศไทย พ.ศ.2559, "เพิ่ม ศรีราชา" เจริญ จันทร์ศรี เจ้าของเหรียญทองสนุกเกอร์ 15 แดงบุคคลชายจากกีฬาเยาวชนแห่งชาติครั้งล่าสุดที่จังหวัดนครสวรรค์ และคนอื่นๆอีกมากมาย

หวังว่าศึกคิวสกูลโซนเอเชีย/โอเชียเนียในปีนี้ จะมีนักสอยคิวจากแดนสยาม ฝ่าฟันอุปสรรคคว้าการ์ดทัวร์ เพื่อเข้าสู่เวทีสนุกเกอร์อาชีพโลกได้สำเร็จ แม้เส้นทางจะยากลำบากเพียงใดก็ตาม

สำหรับ 11 นักสนุกเกอร์ในคิวสกูลโซนเอเชีย/โอเชียเนีย 2023 มีดังนี้ "ไบร์ท ศรีราชา" ณัทณพงศ์ ชัยกุล, "บอย วิภู" วิภู ภูธิศาบดี, "ควิด คิวเฮ้าส์" มนัสวินษ์ เพชรมาลัยกุล, "โฟน เนวาด้า" ณรงค์เดช ตาขันทอง, "โตโต้ ศิษย์ตุ้ม" ทวีทรัพย์ คงกิจเชิดชู, "ติม เอสวัน" ชัชพงศ์ นาสา, "พุธ รังสิต" พุธกานต์ ขิมสุข, "ปอง พันคิว" วรวิท์ ทองเหวียง, "เพิ่ม ศรีราชา" ปริญ รัศม์มุกดา, "ท็อป จันท์" พงศกร จงใจรักษ์ และ "โย่ จันท์" ตะวัน พูลทอง

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง