ส่งเสียงดังๆเชียร์ "หมู-เอฟ" เฮอีกด่านเพื่อเข้าครูซิเบิ้ล

รอบคัดเลือกดังกล่าว จะคัดนักสอยคิวทั้งสิ้น 128 คน(มือ 17 ของโลกลงไปจนถึงอันดับร้อยกว่า รวมไปถึงมือสมัครเล่นที่ได้สิทธิ์ไวลด์การ์ดลงแข่งขัน) ให้เหลือเพียง 16 คนเท่านั้น ก่อนจะนำไปแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ร่วมกับมือท็อป 16 ของโลก ที่ได้สิทธิ์ไปรอในรอบเมนดรอว์โดยอัตโนมัติ ระหว่างวันที่ 15 เมษายน - 1 พฤษภาคมนี้ ณ ครูซิเบิ้ลเธียร์เตอร์ เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษต่อไป

ที่ผ่านมา การชิงชัยในรอบคัดเลือก ผ่านไปแล้ว 3 รอบ ปรากฏว่าเหลือนักสอยคิวไทย ลุ้นเข้าไปวาดลวดลายในรอบเมนดรอว์เพียง 2 คนเท่านั้น ประกอบด้วย “หมู ปากน้ำ” นพพล แสงคำ มือ 32 ของโลก กับ “เอฟวัน” เทพไชยา อุ่นหนู มือ 45 ของโลก

ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3(รอบ 8 คน) เมื่อวันเสาร์ที่ 8 เมษายนที่ผ่านมา ทั้งหมูและเอฟ ต่างได้สิทธิ์มายืนรอในรอบดังกล่าวทั้งคู่ เนื่องจากมีอันดับโลกอยู่ในระหว่างอันดับ 17-48 ของโลกเหมือนกันทั้งคู่ จึงไม่ต้องลงดวลคิวตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 1(รอบ 144 คน) และรอบคัดเลือกรอบที่ 2(รอบ 112 คน) ให้เสียเวลา

ผลปรากฏว่า จอมคิวแห่งแดนสยามทั้งสอง ต่างคว้าชัยเหนือคู่แข่งได้ไม่ยาก โดย นพพล ที่แม้เซสชั่นแรกจะนำเพียง 5-4 เฟรม แต่มาเครื่องร้อนในเซสชั่นที่ 2 จนเอาชนะ มาร์ติน โอดอนเนลล์ มือสมัครเล่นจากอังกฤษไปได้ 10-6 เฟรม

ด้าน เทพไชยา ต่างคว้าชัยเหนือคู่แข่งด้วยสกอร์ที่ขาดลอยเช่นกัน หลังไล่ต้อน มาร์ค จอยซ์ มือ 58 ของโลกจากอังกฤษไปได้ 10-5 เฟรม แถมในเฟรมที่ 14 ยังกดเซ็นจูรี่เบรกไม้เดียว 145 แต้มอีกด้วย จนกลายเป็นเบรกสูงสุดของทัวร์นาเมนต์ ณ เวลาปัจจุบัน มีลุ้นรับโบนัส 15,000 ปอนด์(ประมาณ 6.4 แสนบาท) ถ้าหลังจากนี้ ไม่มีใครทำเบรกได้สูงกว่า

สำหรับด่านต่อไป ในรอบคัดเลือกรอบที่ 4(รอบ 48 คน) ถือเป็นสเตจที่สำคัญมาก เพราะหากทั้ง หมูและเอฟ สามารถคว้าชัยได้สำเร็จ จะคว้าตั๋วอันล้ำค่า ผ่านเข้าสู่รอบเมนดรอว์ที่ครูซิเบิ้ลเธียร์เตอร์ทันที 

ที่ผ่านมา จอมคิวแห่งแดนขวานทองทั้งคู่ เคยคว้าสิทธิ์เข้าไปดวลคิว ในโรงละครแห่งความฝันของนักสนุกเกอร์ทุกคนมาแล้ว โดยเอฟเคยทำได้ 4 ครั้ง(ปี 2018,2019,2020 และ 2022) ส่วนหมูเคยเข้ามาแล้ว 3 หน(ปี 2017, 2020 และ 2022) ซึ่งในปี 2020 และ 2022 ยังเข้าไปถึงรอบ 16 คนอีกด้วย

ในรอบคัดเลือกรอบที่ 4 ถือว่าคู่ต่อสู้ด่านต่อไปของทั้งหมูและเอฟ ค่อนข้างหนักพอควร 

เริ่มจาก นพพล จะเจอกับ จาง อั้น ต๋า มือ 68 ของโลกชาวจีน ที่ฟอร์มกำลังฮ็อต หลังเพิ่งสยบรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง เสี่ยว กั๊วะ ตง มือ 37 ของโลกมาได้ 10-5 เฟรม ในรอบคัดเลือกรอบที่ 3 ที่ผ่านมา แถมในรอบก่อนหน้านั้น ยังดับซ่า สแตน มูดี้ ดาวรุ่งพุ่งแรงชาวอังกฤษวัยเพียง 16 ปี ที่เพิ่งคว้าแชมป์ดับเบิลยูเอสเอฟจูเนียร์ครั้งล่าสุดมาหมาดๆ ด้วยสกอร์ขาดลอย 10-3 เฟรมอีกด้วย

อย่างไรก็ตาม จากผลงานการพบกันตลอด 2 ครั้งที่ผ่านมา ปรากฏว่า นพพล แสงคำ เป็นฝ่ายเอาชนะ จาง อั้น ต๋า ไปได้ทั้ง 2 หน

ส่วน เทพไชยา อุ่นหนู กล่าวได้ว่าต้องเจอกับคู่ต่อสู่ที่ยากกว่า เมื่อโคจรมาแย่งตั๋วเข้าครูซิเบิ้ลกับ ริคกี้ วัลเด้น มือ 24 ของโลกจากอังกฤษ ที่เคยผ่านเข้าไปถึงรอบตัดเชือกของศึกชิงแชมป์โลกมาแล้ว เมื่อ 10 ปีก่อน

เมื่อหันไปดูสถิติที่ทั้งคู่เคยเจอกันตลอด 5 ครั้งที่ผ่านมา นับว่าน่ากังวลไม่น้อย เพราะ "เอฟวัน" เป็นฝ่ายปราชัยไปทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม ในฤดูกาลปัจจุบัน(2022-2023) วัลเด้น มีฟอร์มการแทงที่ดร็อปลงไป ตกรอบแรกๆซะเป็นส่วนใหญ่ อาจจะเป็นผลพวงมาจากอายุเริ่มเยอะขึ้น ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งเข้าสู่วัยเลข 4 นำหน้าเมื่อ 5 เดือนก่อน

ด้วยเหตุนี้ เทพไชยา จึงยังมีโอกาสคว้าชัย เพื่อซิวตั๋วเข้าไปบรรเลงเพลงคิวศึกชิงแชมป์โลก 2023 รอบเมนดรอว์ได้เช่นกัน

สำหรับทั้ง "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ กับ "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู จะลงชิงชัยแมตช์สำคัญ ในวันอังคารที่ 11 เมษายนนี้เหมือนกันทั้งคู่ โดยเซสชั่นแรกจะเริ่มในเวลา 17.00 น. ส่วนเซสชั่น 2 กลับมาแข่งต่อในเวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

หวังว่าช่วงเช้ามืดของวันพุธที่ 12 เมษายน แฟนสนุกเกอร์ชาวไทย จะได้รับข่าวดีกันถ้วนหน้า

ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง