ผ่านมาแล้ว 2-3 วัน สำหรับการแข่งขันสนุกเกอร์ชิงแชมป์โลก 2023 รอบคัดเลือก ณ สถาบันกีฬาอังกฤษ(English Institute of Sport) เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษ
ช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาเป็นการชิงชัยในรอบคัดเลือกรอบที่ 1(รอบ 144 คนสุดท้าย) ไฮไลต์ที่แฟนสอยคิวชาวไทยให้ความสนใจ คงจะหนีไม่พ้นแมตช์ที่นักแม่นรูชาวไทยลงชิงชัย
ผลปรากฏว่า "ใบพัด ศรีราชา" ศิริภาพร นวนทะคำจัน แชมป์โลกหญิงคนล่าสุด ต้องตกรอบอย่างน่าเสียดาย หลังพ่ายให้กับ แอร่อน ฮิลล์ มือ 98 ของโลกจากไอร์แลนด์ 3-10 เฟรม
ขณะที่ศึกสายเลือดแห่งดินแดนขนมกะหรี่ปั๊บระหว่าง "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง มือ 119 ของโลกกับ "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 123 ของโลก ปรากฏว่า แจ๊ค เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 10-7 เฟรม ผ่านเข้าไปสู่รอบคัดเลือกรอบที่ 2(รอบ 112 คน)ไปพบกับ แมทธิว สตีเว่นส์ มือ 54 ของโลกจากเวลส์ต่อไป
นอกจากแมตช์ที่คนไทยลงดวลคิวแล้ว ในรอบคัดเลือกรอบที่ 1 ที่ผ่านมา ยังมีอีกคู่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือเกมระหว่าง มาร์โก ฟู มือ 103 ของโลกจากฮ่องกง กับ มาร์ติน โอดอนเนลล์ นักสอยคิวมือสมัครเล่นจากอังกฤษ
ปรากฏว่า ตำนานสอยคิวแห่งเกาะเศรษฐกิจทางตอนใต้ของจีน พ่ายไป 5-10 เฟรม ตกรอบคัดเลือกรอบที่ 1 อย่างเหลือเชื่อ
ที่สำคัญ ความพ่ายแพ้ในครั้งนี้ ทำให้ตำนานสอยคิวชาวเอเชียวัย 45 ปี ต้องจบฤดูกาล 2022-2023 ด้วยอันดับ 104 ของโลก(มีโอกาสร่วงอีกถ้าคนที่มีอันดับโลกต่ำกว่าทำผลงานได้ดีในศึกชิงแชมป์โลก 2023) ซึ่งเป็นอันดับที่อยู่นอกท็อป 64 ของโลก ผลที่ตามมาก็คือ เขาหลุดจากทัวร์อาชีพเป็นที่แน่นอนแล้ว นับว่าสร้างความใจหายเป็นอย่างยิ่ง ให้กับแฟนสนุกเกอร์ชาวฮ่องกง
นับตั้งแต่เทิร์นโปรเมื่อฤดูกาล 1997-1998 เป็นต้นมา ในฐานะที่คว้าแชมป์สมัครเล่นโลกและเยาวชนโลกพร้อมกันในปี 1997 เขาโลดแล่นในยุทธจักรสอยคิวอาชีพโลกมาโดยตลอด
จนมีวีรกรรมที่โดดเด่นจากการคว้าแชมป์รายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้งมาครอง 3 รายการ(กรังด์ปรีซ์ 2007, ออสเตรเลียน โกลด์ฟิลด์ โอเพ่น 2009 และ สกอตติชโอเพ่น 2016) แถมยังผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ของศึกชิงแชมป์โลกได้ 2 ครั้ง (2006 กับ 2016)
ทว่าตั้งแต่ฤดูกาล 2017-2018 เป็นต้นมา ผลงานของ มาร์โก ฟู ตกลงไปอย่างน่าใจหาย จนอันดับหลุดจากท็อป 16 ของโลกภายหลังจบซีซั่นดังกล่าว และไม่เคยกลับเข้าไปในท็อป 16 ได้อีกเลย
สาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลงานออกทะเลไปไกลจนกู่ไม่กลับ มาจากการทำเลสิคผ่าตัดตาเมื่อปี 2017 ส่งผลให้การเล็งลูกไม่แม่นยำเหมือนเดิม
เท่านั้นยังไม่พอ หลังจากโควิด-19 ระบาดอย่างหนักไปทั่วโลก จนทำให้การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพโลกต้องยุติชั่วคราวเมื่อเดือนมีนาคมปี 2020 มาร์โก ฟู ได้ตัดสินใจเดินทางกลับบ้านเกิดที่ฮ่องกง และปักหลักใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นอย่างยาวนาน
แม้ศึกสอยคิวอาชีพโลกจะกลับมาดวลคิวกันต่อได้ในอีก 3 เดือนให้หลัง แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมเดินทางมาแข่งขัน เนื่องจากกลัวติดเชื้อ เพราะช่วงนั้นโควิด-19 ยังคงน่ากลัว แถมยังไม่มีวัคซีนที่ดีพอในการต่อต้านโรค อีกทั้งการเดินทางเข้าอังกฤษยังต้องกักตัวนานถึง 2 สัปดาห์
และจากการไม่ยอมมาแข่งนานนี่เอง ทำให้อันดับโลกของเขาร่วงจนหลุดจากท็อป 64 ของโลก พร้อมกับหลุดจากทัวร์อาชีพโลกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อจบฤดูกาล 2020-2021
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนั้นเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์(WST) ยังเห็นคุณงามความดีของนักสอยคิวรายนี้ ที่ถือเป็นนักสนุกเกอร์เอเชียคนที่ 2 ต่อจาก "ต๋อง ศิษย์ฉ่อย" วัฒนา ภู่โอบอ้อม ของไทย ที่ทำอันดับก้าวขึ้นมาติดท็อป 16 ของโลก พร้อมกับมีส่วนสำคัญในการจุดกระแสให้ชาวเอเชียหันมานิยมเล่นกีฬาชนิดนี้มากยิ่งขึ้น จึงทำให้องค์กรคิวโลกให้สิทธิ์การ์ดทัวร์เล่นอาชีพต่ออีก 2 ฤดูกาล (2021-2022 และ 2022-2023)
ทว่าจนแล้วจนรอด ฤดูกาล 2021-2022 เจ้าตัวก็ไม่ยอมมาแข่งขัน กว่าจะพกคิวคู่ใจกลับมาวาดลวดลายในอังกฤษอีกครั้ง ก็ต้องรอจนถึงศึกชิงแชมป์โลก 2022 เมื่อเดือนเมษายนปีก่อน ซึ่งถือเป็นรายการสุดท้ายของซีซั่นนั้น แถมผลงานไม่ดีอีกต่างหาก ด้วยการตกรอบคัดเลือกรอบที่ 1 (รอบ 144 คน)
ส่วนฤดูกาล 2022-2023 หรือซีซั่นปัจจุบัน แม้เขาจะลงแข่งขันตั้งแต่รายการแรก ทว่าผลงานก็ยังไม่โสภาสถาพร ตกรอบแรกๆเป็นประจำ ซึ่งรวมถึงรายการล่าสุดอย่างชิงแชมป์โลก 2023 ด้วย ที่จอดป้ายตั้งแต่รอบคัดเลือกรอบที่ 1
ส่งผลจบฤดูกาลด้วยอันดับโลกรั้งอันดับ 104 อย่างไม่เป็นทางการ และถือว่าไม่ติดท็อป 64 ของโลก มีอันต้องกระเด็นหลุดจากทัวร์อาชีพโดยอัตโนมัติ
ไม่รู่เหมือนกันว่าการหลุดทัวร์ในครั้งนี้ สมาคมบิลเลียดและสนุกเกอร์อาชีพโลก (WPBSA) และเวิลด์สนุกเกอร์ทัวร์ (WST) จะยังคงใจดีให้การ์ดทัวร์เล่นอาชีพแก่เจ้าตัวอีกหรือไม่ ถ้าไม่ เชื่อว่า มาร์โก ฟู จะลงแข่งขันคัดเลือกคิวสกูลเพื่อชิงตั๋วกลับสู่ยุทธจักรคิวอาชีพโลกอย่างแน่นอน
แต่ไม่รู้เหมือนกันว่า เขาจะเลือกลงคัดคิวสกูลที่ไหน ระหว่างที่คิวสกูลอังกฤษ (3 สนาม) หรือคิวสกูลโซนเอเชีย-โอเชียเนีย(2 สนาม)ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ โดยจะแข่งขันในช่วงเดือนมิถุนายนนี้ทั้งคู่
ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง