"รอนนี่-นีล-จัดด์" มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่สมหวัง

รายการนี้ ช่วงเวลาการดวลคิวค่อนข้างดูแปลกแตกต่างจากรายการอื่น กล่าวคือทัวร์นาเมนต์ส่วนใหญ่จะเริ่มแข่งขันในวันจันทร์แล้วไปจบในวันอาทิตย์ ทว่าศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคจะเริ่มในวันพฤหัสบดี แล้วไปปิดฉากในวันพุธของสัปดาห์ถัดไป

ที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากหากเริ่มแข่งขันเมื่อวันจันทร์ที่ 13 มีนาคมที่ผ่านมา จะกระชั้นชิดกับศึก 6 แดงโลกที่บ้านเรามากจนเกินไป หรือถ้าจะให้เริ่มในวันจันทร์ที่ 20 มีนาคม แต่การแข่งขันจะไปจบในวันอาทิตย์ที่ 26 มีนาคม ก็จะไปชนกับรายการถัดไปอย่างศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 อีก ซึ่งจะชิงชัยระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 2 เมษายน 2566 ณ เมืองฮัลล์ ประเทศอังกฤษ

ดังนั้นช่วงเวลาแข่งขันของศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค 2023 ระหว่างวันที่ 16-22 มีนาคม ถือว่าลงตัวที่สุดแล้ว 

แม้เงินรางวัลจะไม่มากเท่าไหร่ ทว่าศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคกลับมีความหมายยิ่งนัก เพราะจะเป็นทัวร์นาเมนต์สุดท้ายที่เปิดโอกาสให้นักสอยคิวในทัวร์แต่ละคน ได้เก็บคะแนนเพื่อลุ้นไปดวลคิวในศึกใหญ่อย่างทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 ในสัปดาห์ถัดไป ซึ่งจะคัดเอานักสอยคิวที่มีคะแนนสะสมเฉพาะฤดูกาลปัจจุบัน(one year ranking) ที่ดีที่สุด 8 คนเท่านั้นมาบรรเลงเพลงคิวกัน

สำหรับอันดับ 1-8 ของ one year ranking ในปัจจุบันได้แก่(เรียงจากอันดับ one year ranking 1-8) 1.มาร์ค อัลเลน(มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ) 2.ฌอน เมอร์ฟี่(มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ), 3.อาลี คาร์เตอร์(มือ 12 ของโลกจากอังกฤษ), 4.ไคเรน วิลสัน(มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ), 5.ไรอัน เดย์(มือ 18 ของโลกจากเวลส์), 6.โรเบิร์ต มิลกินส์(มือ 16 ของโลกจากอังกฤษ), 7.ติง จุ้น ฮุย(มือ 24 ของโลกจากจีน) และ 8.มาร์ค เซลบี้(มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ) 

ทั้งนี้ มาร์ค อัลเลน(อันดับ 1 one year ranking) กับ ฌอน เมอร์ฟี่(อันดับ 2 one year ranking) คือ 2 นักสอยคิวที่การันตีคว้าตั๋วลุยทัวร์แชมเปี้ยนชิพแน่นอนแล้ว ไม่ว่าผลงานในศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค จะเป็นอย่างไรก็ตาม  

ดังนั้น คนที่ยังไม่ติดท็อป 8 ของ one year ranking ในขณะนี้ จึงต้องมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ เพื่อทำผลงานในศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคให้ดีที่สุด อันจะทำให้คว้าตั๋วอันล้ำค่าลุยศึกใหญ่อย่างทัวร์แชมเปี้ยนชิพให้ได้ ซึ่งแชมป์จะได้เงินก้อนโตถึง 150,000 ปอนด์(ประมาณ 6.3 ล้านบาท)เลยทีเดียว

และไม่น่าเชื่อว่า 3 มือพระกาฬที่อยู่ในอันดับท็อป 5 ของโลก ประกอบด้วย "เดอะร็อกเก็ต" รอนนี่ โอซัลลิแวน มือ 1 ของโลกจากอังกฤษ, "จิงโจ้มหาประลัย" นีล โรเบิร์ตสัน มือ 4 ของโลกจากออสเตรเลีย และ "เพชฌฆาตปืนกล" จัดด์ ทรัมป์ มือ 5 ของโลกจากอังกฤษ จะมีคะแนนสะสม one year ranking ไม่ติดท็อป 8 เนื่องจากในฤดูกาลปัจจุบัน พวกเขาทั้ง 3 ยังไม่ได้แชมป์ในรายการระดับเวิลด์แรงค์กิ้ง ที่มีผลต่อคะแนนสะสมอันดับโลกเลยแม้แต่ทัวร์นาเมนต์เดียว

โดย รอนนี่ รั้งอันดับ 21 one year ranking มีคะแนนตามหลังอันดับ 8 อย่าง มาร์ค เซลบี้ อยู่ถึง 75,000 คะแนน ส่วน นีล โรเบิร์ตสัน รั้งอันดับ 20 one year ranking ตามหลัง เซลบี้ 67,500 คะแนน ขณะที่ จัดด์ ทรัมป์ อยู่อันดับ 12 one year ranking ตามหลัง เซลบี้ อยู่ 20,000 แต้ม

สรุปก็คือ รอนนี่ กับ นีล โรเบิร์ตสัน ต้องคว้าแชมป์เพียงสถานเดียวเท่านั้น แล้วลุ้นผลการแข่งขันของคู่อื่นให้เป็นใจด้วย ถึงจะมีโอกาสได้ตั๋วลุยศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023 ส่วน จัดด์ ทรัมป์ ขอแค่เข้าชิง หรือถ้าให้ชัวร์ก็ต้องเป็นแชมป์ ถึงจะมีสิทธิ์พกคิวคู่ใจไปวาดลวดลายในรายการถัดไป

ที่น่าสนใจก็คือ มือพระกาฬทั้ง 3 ยังอยู่สายบนเหมือนกันอีกต่างหาก ตามเส้นทาง นีล กับ จัดด์ จะโคจรมาจ๊ะเอ๋กันในรอบก่อนรองชนะเลิศ ส่วน รอนนี่ ก็มีโอกาสปะทะกับ นีล หรือ จัดด์ ในรอบตัดเชือก

นั่นหมายความว่า รอนนี่, นีล, จัดด์ จะต้องมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สมหวังกับการคว้าตั๋วลุยศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ หรืออาจจะพลาดตั๋วทั้ง 3 คนก็เป็นได้ หากนัดกันตกรอบแรกๆไปเสียก่อน 

ใครเป็นแฟนคลับของซุป’ตาร์ทั้งสามก็ต้องทำใจ เพราะจะมีโอกาสเห็นแค่คนเดียวเท่านั้นไปดวลคิวในศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ

และจากการขับเคี่ยวแย่งตั๋วลุยศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพกันอย่างเข้มข้น จึงทำให้ รอนนี่, นีล และ จัดด์ คือ 3 ตัวเต็งเบอร์ต้นๆ ที่ร้านพนันในอังกฤษทุกสำนัก ต่างยกให้เป็นเต็งแชมป์ในศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิค โดย เต็ง 1 ได้แก่ รอนนี่ โอซัลลิแวน, ตามมาด้วย จัดด์ ทรัมป์ ที่เป็นเต็ง 2 ส่วนเต็ง 3 คือ นีล โรเบิร์ตสัน 

ด้าน เต็ง 4-10 มีดังนี้ (เต็ง 4)ฌอน เมอร์ฟี่ มือ 6 ของโลกจากอังกฤษ, (เต็ง 5) มาร์ค เซลบี้ มือ 2 ของโลกจากอังกฤษ, (เต็ง 6)มาร์ค อัลเลน มือ 3 ของโลกจากไอร์แลนด์เหนือ, (เต็ง 7)ไคเรน วิลสัน มือ 7 ของโลกจากอังกฤษ, (เต็ง 8.) มาร์ค เจ วิลเลียมส์ มือ 8 ของโลกจากเวลส์, (เต็ง 9)จอห์น ฮิกกินส์ มือ 11 ของโลกจากสกอตแลนด์ และ (เต็ง 10)แจ๊ค ลิซอฟสกี้ มือ 13 ของโลกจากอังกฤษ

ขณะที่ 4 นักสอยคิวไทยในทัวร์อาชีพ ต่างลงแข่งขันกันพร้อมหน้า โดย "หมู ปากน้ำ" นพพล แสงคำ มือ 32 ของโลก เป็นจอมคิวแห่งแดนสยามเพียงคนเดียวที่ยังพอมีลุ้นตั๋วลุยศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ หลังมีคะแนนสะสม one year ranking อยู่ในอันดับ 22 ตามหลังอันดับ 8 อย่าง มาร์ค เซลบี้ ถึง 78,000 แต้ม จึงต้องหวังพึ่งฝีมือตัวเองพร้อมปาฏิหาริย์ ด้วยการคว้าแชมป์ศึกดับเบิลยูเอสทีคลาสสิคเพียงสถานเดียวเท่านั้น แล้วต้องลุ้นให้ผลคู่อื่นเป็นใจด้วย ถึงจะมีโอกาสพกคิวไปลุยศึกทัวร์แชมเปี้ยนชิพ 2023

ก่อนลงดวลคิว "หมู ปากน้ำ" ที่จะประเดิมรอบแรกพบ เอียน เบิร์นส์ มือ 80 ของโลกจากอังกฤษ ถูกวางให้เป็นเต็ง 22, ด้าน "เอฟวัน" เทพไชยา อุ่นหนู มือ 45 ของโลก ที่เพิ่งคว้ารองแชมป์ 6 แดงโลกครั้งล่าสุด และจะประเดิมพบ อัสจาด อิกบัล มือ 116 ของโลกจากปากีสถาน ถูกวางให้เป็นเต็ง 25, "แจ๊ค สระบุรี" เดชาวัต พุ่มแจ้ง มือ 119 ของโลกที่จะต้องเจอศึกหนักอย่าง อาลี คาร์เตอร์ มือ 12 ของโลกจากอังกฤษในรอบแรก ถูกวางให้เป็นเต็ง 106 และ "มิ้งค์ สระบุรี" ณัชชารัตน์ วงศ์หฤทัย มือ 123 ของโลก ที่จะพบกับ โรเบิร์ต มิลกินส์ มือ 16 ของโลกจากอังกฤษ ถูกวางให้เป็นเต็ง 120 

                     - ถิรพัฒน์ ณ ลำปาง-