แฟนสอยคิวเตรียมเฮกับศึกสนุกเกอร์อาชีพ เก็บคะแนนสะสม ดิวิชั่น 1 ประจำปี 2566 "ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต 2023" ยอดฝีมือชั้นนำของไทยร่วมชิงชัย 7 รายการทั่วประเทศ พร้อมเงินรางวัลรวม 9.3 ล้านบาท ทรูวิชั่นส์และทรูโฟร์ยูยิงสด 3 วันสุดท้ายในทุกรายการ
นายสุนทร จารุมนต์ นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย นายสยาม เตียวตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทิร์นคีย์ คอมมูนิเคชั่น เซอร์วิส จำกัด, นายเอกสิทธิ์ คุณานันทกุล เลขานุการรัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประธานสภาองค์การนายจ้างแห่งประเทศไทย และ นายประพันธ์ หมีเงิน ผู้แทนจากบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลงข่าวการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพ เก็บคะแนนสะสม ดิวิชั่น 1 ประจำปี 2566 "ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต 2023" โดยมีผู้แทนจังหวัดเจ้าภาพทั้ง 6 รายการเข้าร่วมแถลงข่าว ที่โฮคิทเช่น สาขาพระราม 3 กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมา
นายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพ เก็บคะแนนสะสม ดิวิชั่น 1 เป็นรายการที่เก่าแก่และศักดิ์สิทธิ์ยาวนานของสมาคมฯ เริ่มจัดปีแรกตั้งแต่ปีพ.ศ.2500 แต่เริ่มมีแชมป์อย่างเป็นทางการคือปีพ.ศ.2504 มาจนถึงปีนี้ก็เป็นการจัดปีที่ 62 แล้ว แน่นอนว่าจะเป็นปีที่ยิ่งใหญ่อีกปีหนึ่งที่จะมียอดฝีมือชั้นนำของประเทศมาร่วมชิงชัยกัน และแฟนๆ กีฬาสอยคิวไทยก็สามารถติดตามการถ่ายทอดสดกันได้ผ่านทางทรูวิชั่นส์และทรูโฟร์ยู 3 วันสุดท้ายของทุกรายการ รวมทั้งข่าวสารการประชาสัมพันธ์ทั้ง 7 รายการผ่านทางสื่อกีฬาสยามสปอร์ตหรือสยามกีฬา ก็ต้องขอขอบคุณทางเจ้าภาพทุกๆ สนามและพันธมิตรทุกๆ หน่วยงานที่ร่วมให้การสนับสนุนให้การแข่งขันระดับประเทศครั้งนี้เกิดขึ้น
สำหรับโปรแกรมการแข่งขันสนุกเกอร์อาชีพ เก็บสะสมคะแนน ดิวิชั่น 1 ประจำปี 2566 "ไทยแลนด์ แรงกิ้ง เซอร์กิต 2023" ทั้ง 7 รายการมีดังนี้ รายการที่ 1 รอบ 16 คน ที่จ.กาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 30 ม.ค. - 4 ก.พ.66, รายการที่ 2 รอบ 16 คน ที่จ.ตรัง ระหว่างวันที่ 13-18 ก.พ.66, รายการที่ 3 รอบ 16 คน ที่จ.ศรีสะเกษ ระหว่างวันที่ 3-8 เม.ย.66, รายการที่ 4 รอบ 16 คน ที่จ.พังงา ระหว่างวันที่ 17-22 เม.ย.66, รายการที่ 5 รอบ 16 คน ที่.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 3-8 ก.ค.66, รายการที่ 6 รอบ 16 คน ที่.ระยอง ระหว่างวันที่ 7-12 ส.ค.66 และ รายการที่ 7 รอบ 32 คน ที่ราชมังคลาฯ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 25-30 ก.ย.66 โดยแชมป์ 6 รายการแรกจะได้รับเงินรางวัล 200,000 บาท รองแชมป์รับ 80,000 บาท ส่วนแชมป์รายการสุดท้ายจะได้รับเงินรางวัล 300,000 บาท รองแชมป์รับ 200,000 บาท รวมเงินรางวัลทั้งหมด 9,300,000 บาท