ย้อนดราม่า F1 อาบูดาบี 2021 จุดเปลี่ยน "ซูเปอร์แม็กซ์" ผงาดแชมป์โลก

ย้อนดราม่า F1 อาบูดาบี 2021 จุดเปลี่ยน "ซูเปอร์แม็กซ์" ผงาดแชมป์โลก
ก่อนลุ้นแชมป์โลก ฟอร์มูล่า วัน 2025 สนามสุดท้าย ในสุดสัปดาห์นี้ ย้อนชมสุดยอดเหตุการณ์ดราม่าแห่งวงการที่สนาม อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ 2021 เมื่อ แม็กซ์ เวอร์สแต็พเพ่น ใช้ความสดของยางโค่นบัลลังก์ ลูอิส แฮมิลตัน คว้าแชมป์โลกสมัยแรกไปครองอย่างสุดระทึก

ศึกชิงบัลลังก์ความเร็ว ฟอร์มูล่า วัน (Formula 1) ฤดูกาล 2025 ได้เดินทางมาถึงสนามสุดท้าย ซึ่งสถานการณ์การลุ้นแชมป์โลกประเภทนักขับยังคงดุเดือดและไม่ได้บทสรุป โดยมีสามผู้ท้าชิงอย่าง แลนโด นอร์ริส, แม็กซ์ เวอร์สแต็พเพ่น และ ออสการ์ ปีอัสตรี ที่ยังมีลุ้นคว้าตำแหน่งสูงสุด

ก่อนที่การตัดสินแชมป์โลกฤดูกาลปัจจุบันจะเกิดขึ้น เราจะไปย้อนรอยหนึ่งในเหตุการณ์การต่อสู้แย่งแชมป์โลกที่ดราม่าและเป็นที่กล่าวขวัญมากที่สุดในประวัติศาสตร์ F1 นั่นคือศึก อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ฤดูกาล 2021 ซึ่งเป็นการชิงแชมป์โลกแบบ "วินเนอร์ เทคส์ ออล" ระหว่างสองนักขับผู้ยิ่งใหญ่

เดิมพันประวัติศาสตร์ที่ยาช มารีน่าการแข่งขันเรซนี้ถูกเดิมพันด้วยตำแหน่งแชมป์โลกของ แม็กซ์ เวอร์สแต็พเพ่น จากทีม เรดบูล เรซซิ่ง ที่กำลังไล่ล่าแชมป์โลกสมัยแรก กับคู่แข่งคนสำคัญ ลูอิส แฮมิลตัน เจ้าของแชมป์โลก 7 สมัย จากทีม เมอร์เซเดส เอเอ็มจี ซึ่งกำลังไล่ล่าแชมป์โลกสมัยที่ 8 เพื่อสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแข่งที่คว้าแชมป์โลกประเภทนักขับได้มากที่สุด แซงหน้าตำนาน 7 สมัยอย่าง มิชาเอล ชูมัคเกอร์สถานการณ์ก่อนแข่ง: ทั้ง เวอร์สแต็พเพ่น และ แฮมิลตัน มีคะแนนสะสม 369.5 คะแนนเท่ากัน นั่นหมายความว่า ใครทำอันดับได้ดีกว่าอีกฝ่ายในเรซนี้จะคว้าแชมป์โลกทันที แต่หากทั้งคู่ไม่สามารถเก็บคะแนนได้ เวอร์สแต็พเพ่น จะคว้าแชมป์โลกไปครอง เนื่องจากเขามีสถิติชนะการแข่งขันได้มากกว่า (ชนะ 9 ครั้ง ต่อ 8 ครั้งของ แฮมิลตัน)

จุดเริ่มต้นของดราม่า

รอบควอลิฟาย : เป็นทาง เวอร์สแต็พเพ่น ที่ทำผลงานได้ดีกว่า คว้าตำแหน่งโพล โพซิชั่น ด้วยเวลา 1:22.109 นำหน้า แฮมิลตัน ที่ทำเวลาตามมาเป็นอันดับ 2 ที่ 1:22.480 (ช้ากว่า 0.371 วินาที)ช่วงต้นเรซ: เมื่อสัญญาณไฟดับลง แฮมิลตัน ออกสตาร์ตได้ยอดเยี่ยม แซง เวอร์สแต็พเพ่น ขึ้นเป็นผู้นำตั้งแต่โค้งแรก และค่อย ๆ ทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ จนช่องว่างเกือบ 6 วินาที

สถานการณ์ดูเหมือนจะเข้าทางนักซิ่งชาวอังกฤษ แต่เมื่อนักขับทั้งคู่เข้าพิตสต็อปครั้งแรก แฮมิลตัน ต้องออกมาตามหลัง เซร์คิโอ เปเรซ เพื่อนร่วมทีม เรดบูล เรซซิ่ง ของ เวอร์สแต็พเพ่น ซึ่งได้รับคำสั่งให้ขับชะลอและป้องกัน แฮมิลตัน อย่างสุดความสามารถ กลยุทธ์นี้ได้ผล ลดช่องว่างระหว่างผู้นำและผู้ตามจาก 11 วินาที ให้เหลือต่ำกว่า 1 วินาที แม้สุดท้าย แฮมิลตัน จะกลับมานำได้อีกครั้งและทิ้งห่างถึง 13 วินาที แต่จุดพลิกผันที่แท้จริงกำลังจะมาถึง

เซฟตี้คาร์เปลี่ยนเกม

การแข่งขันดำเนินไปจนถึงรอบที่ 53 เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่เมื่อ นิโคลัส ลาติฟี่ นักขับทีม วิลเลี่ยมส์ รถหลุดโค้งชนกำแพงอย่างรุนแรง ทำให้เกิดธงเหลืองและมีการส่ง เซฟตี้คาร์ ออกมาวิ่งเคลียร์พื้นที่

จากเหตุการณ์นี้ เวอร์สแต็พเพ่น ตัดสินใจเข้าพิตเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยางซอฟต์ (Soft - S) ชุดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่าทันที ในขณะที่ แฮมิลตัน ไม่สามารถเข้าพิตได้เนื่องจากจะเสียตำแหน่งนำที่มีอยู่ จึงต้องใช้ยางฮาร์ด (Hard - H) ที่ใช้งานมาแล้ววิ่งต่อใน 5 รอบที่เหลือ

สถานการณ์ยิ่งดราม่ามากขึ้น เมื่อ Race Director ได้มีคำสั่งให้รถที่ถูกนำรอบ (Lapped Car) ซึ่งวิ่งคั่นกลางอยู่ระหว่าง แฮมิลตัน (ผู้นำ) กับ เวอร์สแต็พเพ่น ได้รับอนุญาตให้แซง แฮมิลตัน และ เซฟตี้คาร์ ขึ้นไปได้ ทำให้ เวอร์สแต็พเพ่น ขยับเข้ามาตามหลัง แฮมิลตัน ในระยะประชิด

บทสรุปของตำนานบทใหม่

เมื่อการแข่งขันเดินทางมาถึงรอบที่ 57 FIA มีคำสั่งให้ เซฟตี้คาร์ เข้าพิต และปล่อยการแข่งขันดำเนินการต่อใน 1 รอบสุดท้ายที่เหลือ

แม็กซ์ เวอร์สแต็พเพ่น ใช้ความสดใหม่ของยางซอฟต์ชุดใหม่ที่เหนือกว่าอย่างเต็มที่ และสามารถแซง แฮมิลตัน ได้สำเร็จที่โค้ง 5 ก่อนจะทะยานเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 1 คว้าแชมป์โลกสมัยแรกให้กับตนเองได้สำเร็จ นับเป็นแชมป์โลกประเภทนักขับคนแรกของทีม เรดบูล เรซซิ่ง นับตั้งแต่ เซบาสเตียน เวทเทล ในปี 2013

เหตุการณ์สุดดราม่าใน อาบูดาบี 2021 ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้นสู่การสร้างตำนานบทใหม่ของ "ซูเปอร์แม็กซ์" หรือ แม็กซ์ เวอร์สแต็พเพ่น เพราะหลังคว้าแชมป์แรกได้ในฤดูกาลนั้น เขาก็สามารถคว้าแชมป์โลกได้อย่างต่อเนื่องถึง 4 สมัยติดต่อกัน (2021, 2022, 2023 และ 2024)

ฤดูกาล 2025 การลุ้นแชมป์โลกประเภทนักขับยังคงเปิดกว้าง และบทสรุปสุดท้ายจะถูกตัดสินในการแข่งขัน อาบูดาบี กรังด์ปรีซ์ ณ สนาม ยาส มารีน่า ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ โดยรอบชิงชนะเลิศ (Main Race) กำหนดแข่งขันในวันอาทิตย์ที่ 5-7 ธันวาคม เวลา 20:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ทางช่อง Bein Sport 1 (607)



ที่มาของภาพ : Reuters
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport