หลังจากที่การแข่งขันรถจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี รายการ พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ ได้จบลงไปแล้วนั้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
แต่ก่อนการแข่งขันจะเริ่มต้นขึ้นนั้น เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ทางเรดบูลล์ ไทยแลนด์ ได้จัดกิจกรรมพิเศษซีรีส์สุดมันส์นอกสนามแข่ง (Unserious Race) ซึ่ง 2 นักบิดจากทีมเรดบูลล์ เคทีเอ็ม แฟคทอรี่ เรซซิ่ง อย่าง แบรด บินเดอร์ และ แจ็ค มิลเลอร์ ที่พร้อมใจกันพักจากรถมอเตอร์ไซค์รุ่น KTM RC16 แล้วมาลองกิจกรรมประลองนอกสนามสไตล์ลูกทุ่งแบบไทยแท้ ในการขับ“รถกระแทะ” หรือรถลากข้าวแบบดัดแปลงพิเศษ นับเป็นการอุ่นเครื่องแบบระทึกใจสุดก่อนการแข่งขันในศึกโมโตจีพี อันดุเดือดที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซีรีส์สุดมันส์นอกสนามแข่ง
ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นที่ไร่สวนปลูก ซึ่งอยู่หลังสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ โดยทั้ง บินเดอร์ และ มิลเลอร์ ได้ขี่รถกระแทะซิ่งซึ่งดัดแปลงมาจากรถลากข้าว ด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. แต่ความจริงแล้วรถกระแทะ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดถึง 160 กม./ชม. เพื่อเผชิญกับภารกิจระหว่างทางสุดฮา เรียกได้ว่าเป็นการทดสอบความคล่องตัวและโชว์ทักษะการขับขี่ของทั้งคู่
แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทำกิจกรรมนี้กัน ก็ได้ทดสอบก่อนประมาณ 2 รอบ เอาทั้งทีมงานและตัวบินเดอร์ กับ มิลเนอร์ ใจระทึกกันไปเลยทีเดียว จากนั้นก็เข้าสู่การทำชาเลนจ์อย่างจริงจัง โดยการแข่งขันชาเลนจ์ในรอบแรกนั้น บนสนามแข่งชั่วคราวที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อโคลน เป็นทางด้าน แบรด บินเดอร์ ที่ปรับตัวเข้ากับรถกระแทะได้เร็วกว่า สามารถโชว์สกิลอันท้าทาย เอาชนะไปได้อย่างชนิดสะบักสะบอมกันเลยทีเดียว
ส่วนในการชาเลนจ์ในรอบที่ 2 เป็นทางด้าน แจ็ค มิลเลอร์ ที่แก้ตัวได้อย่างยอดเยี่ยม เป็นฝ่ายได้คว้าชัยชนะไปครองในที่สุดในการแข่งขันความเร็วสุดเร้าใจครั้งนี้
หลังจากกิจกรรมนี้เสร็จสิ้นทาง Siamsport ก็ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แบรด บินเดอร์ นักบิดวัย 29 ปี ชาวแอฟริกาใต้ ได้เปิดใจกับเราว่า ในการทำกิจกรรมพิเศษ Unserious Race ที่ท้าทายแบบนี้ เป็นครั้งแรก ผมรู้สึกสนุกมาก ที่ได้ทำอะไรที่แตกต่าง ตอนที่ผมเห็นรถกระแทะมันดูน่าสนใจมาก และผมได้ลองขับมันด้วย มันสนุกมาก และเป็นอะไรที่ท้าทายจริงๆครับ
สำหรับการแข่งชาเลนจ์ซิ่งรถกระแทะนี้ แน่นอนว่าแจ็ค บินเดอร์ คือคู่แข่งของผม แต่แน่นอนครับว่าการแข่งขันในสนามจริง ก็คือท็อป 3 ที่น่ากลัวสำหรับผมก็คือ มาร์ค มาร์เกช อด่ีตแชมป์โลก 8 สมัย จากทีมเกรซินี่ เรซซิ่ง , ฟรานเชสโก้ บัญญาญ่า นักบิดชาวอิตาลี จากดูคาติ และ ฮอร์เก้ มาร์ติน นักบิดชาวสเปน จากทีมพรีม่า พราแมค เรซซิ่ง ส่วนผลงานในสนามนั้นผมรู้สึกว่า ผมเตรียมตัวมาได้อย่างดีมากและเตรียมพร้อมที่จะลงแข่งเรซนี้นี้มากๆ และผมจะทำในออกมาให้ดีที่สุดแน่นอน
ส่วนการมาเมืองไทยของ บินเดอร์ ทุกครั้งที่ผมได้มาที่นี่ ประสบการณ์ที่ประทับใจมากที่สุด ก็คือ การมีน้ำใจของคนไทย ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มตลอดเวลาที่ผมได้มาเยือนที่นี่ ผมดีใจและมีความสุขมากๆที่ได้กลับมาบุรีรัมย์ ในช่วงการแข่งขันที่นี่
บินเดอร์ กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากได้ลองขับรถกระแทะไปนั้น ผมคิดว่า อยากซื้อกลับบ้านไปด้วยซักคัน....
ด้าน แจ็ค มิลเลอร์ นักบิดวัย 29 ปี ชาวออสเตรเลีย ได้เปิดใจกับเราว่า หลังจากที่ ทำกิจกรรมพิเศษ Unserious Race ที่ท้าทายแบบนี้ ด้วยการขับรถกระแทะแล้ว ผมคิดว่ามันความสนุก และแปลกใหม่มากๆ เลยนะ ผมชอบทำอะไรที่มันท้าทายแบบนี้มาก มันสนุกสุดๆไปเลย
จากที่ต้องมาแข่งขัน รถกระแทะ กับ แบรด บินเดอร์ ยอมรับเลยว่า เขาขับได้เร็วมากๆ ในรอบแรก แต่ในรอบที่สองนั้น ผมคิดว่า งานนี้ผมไม่ยอมแน่ๆ และต้องแซงเขาให้ได้ แล้วก็ทำสำเร็จจริงๆ
บินเดอร์ บอกอีกว่า การมาเมืองไทยครั้งนี้ของผม รวมไปถึงทุกๆครั้งที่ผ่านมานั้น ผมยอมรับเลยว่า คนไทยเป็นคนที่น่ารัก ใจดีมากๆ เมื่อวันก่อนผมไปเดินเล่นท่ามกลางอากาศที่ร้อนมาก มีคนถามว่า ต้องการน้ำดื่มไหม ? เพราะหน้าผมตอนนั้นคงเหนื่อยมากๆ เป็นสิ่งที่ประทับใจมากที่สุด และมันดีต่อใจจริงๆ ครับ
บินเดอร์ กล่าวปิดท้ายว่า หลังจากที่ได้ทำชาเลนจ์นี้แล้ว ผมคิดว่าผมอยากซื้อรถกระแทะกลับขับที่บ้านเหมือนกันครับ คงจะสนุกน่าดูเลยทีเดียว