ลุ้นแชมป์! "กิรเดช-โปรแจ๊ส" ตามผู้นำสองสโตรค กอล์ฟลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น

ลุ้นแชมป์! "กิรเดช-โปรแจ๊ส" ตามผู้นำสองสโตรค กอล์ฟลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น
ทอม แมคกิบบิน รักษาตำแหน่งผู้นำต่อด้วยสกอร์ 15 อันเดอร์พาร์ 125 หลังครึ่งทาง ขณะที่ กิรเดช อภิบาลรัตน์ และ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ ตามสองสโตรค ในการแข่งขัน ลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ 2025

การแข่งขันกอล์ฟ อินเตอร์เนชั่นแนล ซีรีส์ รายการที่ 7 ของฤดูกาล 2025 รายการ ลิงค์ ฮ่องกง โอเพ่น ที่สนาม ฮ่องกง กอล์ฟ คลับ พาร์ 70 ระยะ 6,710 หลา เขตฟานหลิง เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 30 ตุลาคม -2 พฤศจิกายน 2568  ได้ผ่านครึ่งทางเมื่อวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีนักกอล์ฟไทยลงแข่งขัน 24 คน ชิงเงินรางวัลรวม 2 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 62 ล้านบาท

ทอม แมคกิบบิน นักกอล์ฟวัย 22 ปี จากไอร์แลนด์เหนือ สมาชิกทีม Legion XIII ของลิฟกอล์ฟ รักษาผู้นำต่อด้วยสกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์ 125 หลังจากรอบสองทำเพิ่ม 5 เบอร์ดี้ ไม่มีโบกี้

ส่วนนักกอล์ฟไทย กิรเดช อภิบาลรัตน์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2013 ทำเพิ่ม 5 อันเดอร์พาร์ 65 รวมสองวัน 13 อันเดอร์พาร์ 127 เท่ากับ อติวิชญ์ เจนวัฒนานนท์ อดีตมือหนึ่งเอเชียน ทัวร์ ปี 2019 ที่รอบสองทำ 4 อันเดอร์พาร์ 66 ทำให้ทั้งสองรั้งอันดับสองร่วมตามหลังผู้นำสองสโตรค ร่วมกับ ปีเตอร์ ยูไลน์ โปรชาวอเมริกัน

ด้านดาวดังโลก อาทิ หลุยส์ อุสธุยเซน แชมป์ดิ โอเพ่น 2010, ชาร์ลส์ ฮาเวลล์ เดอะเธิร์ด จากสหรัฐฯ และ โธมัส พีเตอร์ส จากเยอรมนี รั้งอันดับ 5 ร่วมที่ 12 อันเดอร์พาร์ 128 ขณะที่ แพทริค รีด แชมป์เดอะ มาสเตอร์ส 2018 ทำเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 69 รวมสองวัน 6 อันเดอร์พาร์ 134 อยู่ในอันดับ 41 ร่วม

หลังจบรอบสอง นักกอล์ฟที่สกอร์รวมต่ำกว่า 5 อันเดอร์พาร์ 135 ผ่านเข้ารอบสองวันสุดท้าย โดยมีนักกอล์ฟไทย 14 คนผ่านตัดตัว อาทิ ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ (62) รวม 10 อันเดอร์พาร์ 130 อันดับ 12 ร่วม, อติรุจ วินัยเจริญชัย (67) รวม 8 อันเดอร์พาร์ 132 อันดับ 20 ร่วม, รฐนน วรรณศรีจันทร์, สาริศ สุวรรณรัตน์ และ ทีเค-รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน์ สกอร์รวมคนละ 7 อันเดอร์พาร์ 133 รั้งอันดับ 27 ร่วม

การแข่งขันรอบสามและสี่จะดำเนินต่อในวันที่ 1–2 พฤศจิกายนนี้ โดยนักกอล์ฟที่คว้าแชมป์จะได้รับเงินรางวัล 380,000 เหรียญสหรัฐ พร้อมสิทธิ์ลงแข่งขันสองรายการเมเจอร์ ปีหน้า ได้แก่ เดอะ มาสเตอร์ส และ ดิ โอเพ่น




ที่มาของภาพ : -
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport