มหาวิทยาลัยรังสิต จัดพิธีลงสนามกับ มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย และสนามกอล์ฟวินด์เซอร์ปาร์ค แอนด์ กอล์ฟคลับ เพื่อพัฒนากีฬากอล์ฟ และพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกอล์ฟไทย
โดยมี ดร. อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต พร้อมด้วย นายสุทิน ดรุณโยธิน ประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย และ นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย, และ นายสุเทพ ทรงณัฐศิริ กรรมการผู้มีอำนาจสนามกอล์ฟวินด์เชอร์ปาร์ค แอนด์กอล์ฟคลับ เป็นประธานในพิธีดังกล่าว พร้อมด้วย นางเรวดี ต.สุวรรณ เลขาธิการมูลนิธิ และที่ปรึกษาสมาคมกีฬากอล์ฟสตรี นายสุชาติ สุวรรณศรี กรรมการมูลนิธิและนายกสมาคมสนามกอล์ฟไทย นายกฤษดา ตัณฑ์วิไล กรรมการมูลนิธิ และผู้จัดการ บริษัท วอเตอร์มิลล์ กอล์ฟ แอนด์ การ์เด้นส์ จำกัด นางจิตกานต์ ล่ำซำ กรรมการเหรัญญิกมูลนิธิ และนายกสมาคมกีฬากอล์ฟสตรี และแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุม 1-801 อาคาร 1 (อาคารอาทิตย์ อุไรรัตน์) มหาวิทยาลัยรังสิต เมื่อวันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ภายในงาน รศ. ดร.ชาญชัย สุขสุวรรณ์ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกีฬา และรักษาการคณบดีวิทยาลัยการกีฬา เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการลงนามความร่วมมีอองค์กรภายนอก โดยมี ดร. อรรถวิท อุไรรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรังสิต กล่าวถึงนโยบายของมหาวิทยาลัยรังสิต ในการทำความร่วมมือองค์กรภายนอกเพื่อพัฒนาการจัดการศึกษา ว่า "ทางมหาวิทยาลัย ต้องการเป็นสถาบันที่มอบทุกองค์ความรู้ และการร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นสิ่งที่ดีในการพัฒนาเด็กให้ถูกต้อง ไม่ใช่แค่การเล่นกอล์ฟเท่านั้น แต่รวมถึงองค์ความรู้ด้านต่างๆเกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ ที่ช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะจากชาวเกาหลีฯ และญี่ปุ่น ไม่แพ้กับกีฬาสกีในชาติตะวันตก ซึ่งคิดเป็น 20 เปอร์เซ็นต์ของ จีดีพี ของประเทศไทย เพราะฉะนั้นการร่วมมือวันนี้นับเป็นสิ่งดีๆ ที่ช่วยเหลือเด็กที่เป็นอนาคตของชาติ"
นายสุทิน ดรุณโยธิน นายกสมาคมกีฬากอล์ฟอาชีพอาวุโสไทย และประธานมูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย กล่าวถึงโครงการความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยรังสิตเพื่อพัฒนากีฬากอล์ฟ และพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับกีฬากอล์ฟไทยว่า "รู้สึกยินดี และเป็นเกียรติที่ มูลนิธิกีฬากอล์ฟไทย ซึ่งองค์กรที่ร่วมมือกันทำงานระหว่าง 6 สมาคมกอล์ฟหลักของประเทศ ที่ไม่เคยมีมาก่อนในระดับภูมิภาค ได้ลงนามร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยรังสิตในการช่วยพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ทันสมัย และสร้างความยั่งยืน เนื่องจากปัจจุบันกีฬากอล์ฟกำลังเป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น และสามารถสร้างอาชีพได้มากมาย ดังนั้นกิจกรรมครั้งนี้จึงสำคัญต่อการศึกษาและพัฒนาธุรกิจของประเทศ ก่อให้เกิดความรู้สึกเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันระหว่างสององค์กรนี้ที่จะร่วมมือกันต่อไปในภายภาคหน้า"
สำหรับการร่วมมือครั้งนี้นอกจากเป็นการร่วมช่วยเหลือพัฒนาหลักสูตร รวมถึงการจัดหาวิทยากรที่ทรงคุณวุฒิด้านวิชาชีพมาช่วยอบรม พัฒนานักศึกษา ยังให้การสนับสนุนด้านทุนการศึกษา สถานที่ฝึกซ้อม และเรียนรู้ให้กับนักศึกษาอีกด้วย