ในเวลานั้นแฟนกีฬาไทยจำนวนไม่น้อยติดตามผลงานของ ภราดร ตามช่องทางต่างๆ ช่องฟรีทีวีในบ้านเราซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขันเทนนิสแมตช์ต่างๆมาให้แฟนกีฬาได้ดูฟรีๆ ไม่ว่าจะเป็นรายการระดับเอทีพี, มาสเตอร์ ซีรีส์ หรือกระทั่งแมตช์ใหญ่ระดับแกรนด์สแลม เพื่อให้คนไทยได้ลุ้นและเชียร์ ภราดร

รวมถึงมีแมตช์แข่งขันใหญ่ระดับเอทีพี ทัวร์ มาจัดแข่งขันที่ไทยอยู่นานหลายปี ซึ่งก็ปลุกกระแสให้เด็กและเยาวชน รวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อยหันมาเล่นกีฬาเทนนิสด้วย

แม้วันนี้ ภราดร จะแขวนแร็คเก็ตไปแล้ว แต่ผลงานตลอดการเล่นเทนนิสอาชีพและการรับใช้ชาติที่เข้าขั้นเป็นตำนาน ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของแฟนๆกีฬาชาวไทย

ผลงานของเจ้าตัว คือการคว้าแชมป์เอทีพีทัวร์ 5 รายการ พร้อมจารึกชื่อด้วยการลงแข่งโอลิมปิกเกมส์อีก 2 สมัย ในปี 2000 และ 2004 รวมถึงยังคว้าเหรียญทอง เอเชียนเกมส์ ปี 2002 ที่ปูซาน และเคยได้เหรียญทองชายคู่ ในเอเชียนเกมส์ 1998 และที่พีคเป็นที่จดจำก็คือการสร้างผลงานขึ้นไปรั้งมืออันดับ 9 ของโลก ในเดือนพ.ค.ปี 2003 ซึ่งก็ถือเป็นนักเทนนิสชายเดี่ยวจากเอเชียคนแรก ที่ทำได้กับก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งมือท็อปเทน

หลังเลิกเล่น เจ้าตัวมุ่งหน้าทำธุรกิจหลายอย่าง และปัจจุบันก็ยังคลุกคลีอยู่กับกีฬาเทนนิส ด้วยการเปิดสถาบันสอนเทนนิส รวมถึงสร้างนักกีฬาเทนนิสรุ่นใหม่ๆมาประดับวงการ ขณะเดียวกันก็ใช้ความรู้ ความสามารถ และประสบการณ์ที่มีมาช่วยงานวงการเทนนิสเมืองไทย

ส่วนชีวิตส่วนตัวก็เรียบง่ายและมีความสุข เพราะมีเพื่อนฝูงและครอบครัวที่น่ารัก โดยหลังแต่งงานกับภรรยาสาว "น้องป๊อป" ก็มีบุตรด้วยกัน 1 คน ก็คือ "น้องเฌอลีน" พันน์นรินทร์ ศรีชาพันธุ์

อาจกล่าวได้ว่า "น้องเฌอลีน" ที่ใกล้ชิดกับคุณพ่อมากๆแบบไหนตามไปด้วย ซึมซับดีเอ็นเอนักกีฬาจากคุณพ่อมาเต็มๆเหมือนกัน เพราะเวลานี้ "น้องเฌอลีน" กำลังสนุกกับการเล่นกอล์ฟ ซึ่งกอล์ฟก็ถือเป็นกีฬาที่ ภราดร ชอบเล่นมากๆถึงขั้นเคยเทิร์นโปรเล่นอาชีพมาแล้ว ณ ช่วงเวลาหนึ่ง

ภราดร กล่าวกับทีมข่าวกีฬาสยามและสยามสปอร์ตว่า "มีหลายคนถามผมว่า ทำไม "น้องเฌอลีน" ถึงไม่เล่นเทนนิสเหมือนกับคุณพ่อ ก็ต้องบอกว่า น้องมีความชอบที่จะเล่นกีฬากอล์ฟ จริงๆก่อนมาเล่นกอล์ฟ ก็เคยมาฝึกตีเทนนิสกับผมมาก่อน และก็เล่นเทนนิส แต่ว่าดูเหมือนจะติดใจกีฬากอล์ฟมากกว่า และทักษะกีฬากอล์ฟของน้องเองก็มีค่อนข้างสูง"

"ตอนนี้เขาก็เป็นแชมป์ในรุ่นคลาสเอฟ ซึ่งเป็นรุ่นอายุไม่เกิน 7 ขวบ ซึ่งตอนนี้เหลืออีก 3 เดือน น้องจะอายุครบ 7 ขวบครับ แล้วก็เตรียมที่จะขึ้นไปเล่นในรุ่น 9 ขวบครับ ซึ่งก็ต้องบอกว่าน้องมีพัฒนาการที่ดีครับ ต้องขอบคุณเอฟซี และอีกหลายๆคนที่ติดตามน้อง บางคนบอกว่าน้องมีวงสวิงที่สวย แล้วก็ขยันซ้อม ซึ่งดูแววแล้วก็น่าจะเป็นนักกีฬาเหมือนคุณพ่อได้ ซึ่งผมเองก็พร้อมจะให้การสนับสนุนเขาครับ ถ้าเขาอยากจะเอาดีในด้านการเล่นกีฬา"

ภราดร เผยว่า ตั้งแต่แรกตนเองอยากให้ลูกสาวเป็นนักกีฬา สำหรับกีฬากอล์ฟ ตนเองมองว่าเป็นกีฬาที่สามารถเล่นให้เป็นอาชีพได้ ที่สำคัญคือลูกสาวชอบ ซึ่งที่ผ่านมาก็สนุก มีความอยากที่จะไปสนามซ้อม อยากที่จะลงแข่งขัน ทุกครั้งที่ได้ออกไปแข่ง ก็จะตื่นเต้นที่จะได้เจอเพื่อนและได้ลงแข่งขัน

"ถามว่าน้องมีนักกอล์ฟที่เป็นต้นแบบไหม ตอนนี้เขาไม่มีนักกีฬาที่เป็นต้นแบบนะครับ เขาอาจจะรู้ว่าคุณพ่อของเขาเคยเป็นนักเทนนิสมือระดับโลก แต่ด้วยความไร้เดียงสาของเขา ก็ทำให้เขาเองยังไม่รู้ว่านักกอล์ฟใครฝีมือเป็นอย่างไร และจะยึดใครเป็นแรงบันดาลใจในการเล่น แต่ว่าทุกครั้งที่มีการแข่งระดับโปร ก็จะพยายามพาน้องไปดู ให้น้องเกิดความตื่นเต้น เกิดแรงบันดาลใจในการเล่น"

"ตอนนี้ผมเองดูแลตารางการซ้อมของน้อง ตาราการแข่งขันของน้อง รวมถึงเป็นแคดดี้ถือถุงกอล์ฟให้ในทัวร์นาเมนต์ที่อนุญาต ซึ่งก็เพื่อให้เขาเกิดความผ่อนคลายในการเล่น สนุกกับการเล่น ที่มีคุณพ่อลงไปยืนอยู่ในสนามด้วย แต่เวลาแข่ง เขาก็จะมีโฟกัสอยู่กับเกมที่ค่อนข้างสูงพอสมควร ซึ่งตรงนี้ผมถือว่าเป็นแนวทางที่ค่อนข้างดีสำหรับน้อง ในการจะพัฒนาไปสู่การเป็นนักกีฬาอาชีพต่อไป"

ทั้งนี้ "น้องเฌอลีน" มีโปรแกรมที่จะลงแข่งขันศึกเยาวชนรายการ ยู.เอส. คิดส์ กอล์ฟ ไทยแลนด์ 2024 ระหว่าง 14-15 ก.ย.นี้ ที่สนามแบล็กเมาท์เท่น กอล์ฟ คลับ หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  ซึ่งทัวร์นาเมนต์เป็นซีรีส์ที่ 2 จากทั้งหมด 6 ซีรีส์ ที่นักกีฬากอล์ฟตัวจิ๋วจะต้องลงแข่งขันเพื่อเก็บคะแนนสะสม เพื่อโอกาสเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขันรายการระดับโลก รอบสุดท้าย ที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งในซีรีส์แรก เมื่อปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา "น้องเฌอลีน" ทำผลงานเยี่ยม คว้าแชมป์ในรุ่นอายุต่ำกว่า 8 ปี มาครองได้สำเร็จด้วย