ชเนตตี คว้าแชมป์ดานา โอเพ่น โทรฟี่ที่2ในแอลพีจีเอทัวร์

ชเนตตี คว้าแชมป์ดานา โอเพ่น โทรฟี่ที่2ในแอลพีจีเอทัวร์
"พราว" ชเนตตี วรรณแสน โปรสาวจากเชียงใหม่ โชว์ผลงานยอดเยี่ยมคว้าแชมป์ดานา โอเพ่น ซึ่งเป็นโทรฟี่ที่2 ในการเล่นแอลพีจีเอ ทัวร์

การแข่งขันกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ ดานา โอเพ่น ที่ไฮแลนด์ แมโดวส์ กอล์ฟ คลับ ชานเมืองซิลเวเนีย รัฐโอไฮโอ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 21 ก.ค.67 ที่ผ่านมา ผ่านไปสามวันแรก "พราว" ชเนตตี วรรณแสน นักกอล์ฟสาวจากประเทศไทย นำเดี่ยวทิ้งห่างอันดับสองอยู่ 3 สโตรก

การแข่งขันรอบสุดท้าย  โปรพราว ชเนตตี วรรณแสน ออกสตาร์ตในฐานะผู้นำ ทำ 3 เบอร์ดี้ ใน 8 หลุมแรก ก่อนจะพลาดเสียโบกี้ หลุม 10 จากนั้นทำเบอร์ดี้ หลุม 12 และเสียโบกี้หลุมถัดมา แต่ก็กลับมาทำเบอร์ดี้ หลุม 17 และ18 จบวันสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ 67 สกอร์รวมสี่วัน 20 อันเดอร์พาร์ 264 คว้าแชมป์ไปครอง เฉือนชนะ ยู เฮ-รัน จากเกาหลีใต้อันดับสองไปหนึ่งสโตรก

ชเนตตี เผยหลังคว้าแชมป์ว่า "สำหรับแชมป์ที่สอง ดีใจมากๆค่ะ แต่ก็มีความรู้สึกว่า ไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ เพราะตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะพัตต์สุดท้าย ตื่นเต้นมากจนพูดอะไรไม่ออก แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ดี เพราะว่าปีนี้ พราวตั้งเป้าหมายว่า จะทำให้ดีกว่าปีที่แล้ว ซึ่งก็สามารถทำได้ ขอบคุณตัวเองและทุกๆ คนที่สนับสนุนค่ะ”

"หลังจากที่พัตต์สุดท้ายเสร็จ ออกเบอร์ดี้ เหมือนมีเสียงเชียร์จากทุกคนขึ้นมา ตอนนั้นหนูรู้เลยว่า เราทำได้แล้ว รู้สึกขอบคุณมากๆ ที่มีแฟนๆ มีทีม และมีครอบครัว ที่คอยให้กำลังใจในอาทิตย์นี้  รู้สึกว่าถ้าไม่มีสิ่งนั้น ในอาทิตย์นี้ ก็ไม่สามารถทำได้ด้วยตัวเองค่ะ"

โปรสาววัย 20 ปี จากเชียงใหม่คว้าแชมป์ที่สองในการเล่นอาชีพแอลพีจีเอ ทัวร์ พร้อมรับเงินรางวัล262,500 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 9.5 ล้านบาท ทำเงินรางวัลรวมปีนี้ 680,698 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 24.7 ล้านบาท จากการเล่น 18 รายการ และเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่สาม ที่คว้าแชมป์ในทัวร์ปีนี้ ต่อจาก "เหมียว" ปภังกร ธวัชธนกิจ แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ และ"จีน" อาฒยา ฐิติกุล แชมป์ทีม 2 คน ดาว แชมเปียนชิพ และนับเป็นการจบลงใน 10 อันดับแรก รายการที่ 3 หลังจากจบอันดับ 3 ร่วม มิซึโฮ อเมริกา โอเพ่น และอันดับ 8 ร่วมทีม 2 คน ดาว แชมเปียนชิพ

ชเนตตี เป็นนักกอล์ฟที่อายุน้อยที่สุด ที่คว้าแชมป์ในทัวร์ปีนี้ ด้วยวัย 20 ปี 3 เดือน 5 วัน และเธอยังเป็นนักกอล์ฟไทยคนที่ 7 ที่คว้าแชมป์แอลพีจีเอ ทัวร์ 2 รายการขึ้นไป ร่วมกับ "เม" เอรียา จุฑานุกาล (12) อาฒยา ฐิติกุล (3) "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ (2) โมรียา จุฑานุกาล (2) ปภังกร ธวัชธนกิจ (2) และจัสมิน สุวัณณะปุระ (2)

ขณะที่ ยู เฮ-รัน เจ้าของรางวัลรุกกี้แห่งปีเมื่อปี 2023 ทำ 7 เบอร์ดี้ เสีย 1 โบกี้สกอร์ 6 อันเดอร์พาร์ 65 สกอร์รวม 19 อันเดอร์พาร์ 265 จบอันดับสองรับเงินรางวัล 159,008 ดอลลาร์สหรัฐ ลินน์ แกรนท์ โปรสาวจากสวีเดนแชมป์เมื่อปีที่แล้ว และ เจิ้ง ซวู-เจี๋ย จากจีนไทเปทำคนละ 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวม 14 อันเดอร์พาร์ 270 จบอันดับ 3 ร่วม

ผลงานนักกอล์ฟสาวไทยคนอื่น ๆ จัสมิน สุวัณณะปุระ แชมป์เมื่อปี 2018 ทำ 5 เบอร์ดี้ เสีย 2 โบกี้สกอร์ 3 อันเดอร์พาร์ 68 สกอร์รวม 10 อันเดอร์พาร์ 274 จบอันดับ 7 ร่วม "เมียว" ปาจรีย์ อนันต์นฤการ ทำ 1 อันเดอร์พาร์ 70 รวม 9 อันเดอร์พาร์ 275 อันดับ 13 ร่วม "ซิม" ณัฐกฤตา วงศ์ทวีลาภ ทำ 4 อันเดอร์พาร์ 67 รวม 7 อันเดอร์พาร์ 277 อันดับ 19 ร่วม "เปียโน" อาภิชญา ยุบล ทำ 3 อันเดอร์พาร์ 68 รวม 6 อันเดอร์พาร์ 278 อันดับ 29 ร่วม "แจน" วิชาณี มีชัย ทำ 4 อันเดอร์พาร์ 70 สกอร์รวม 4 อันเดอร์พาร์ 280 รั้งอันดับ 38 ร่วม  และ "ว่าน" จารวี บุญจันทร์ ทำ 2 โอเวอร์พาร์ 73 รวม 1 อันเดอร์พาร์ 283 อันดับ 53 ร่ว

หลังจากนี้กอล์ฟแอลพจีเอ ทัวร์ จะไปยังประเทศแคนาดา แข่งขันในรายการ ซีพีเคซี วีเมนส์ โอเพ่น ที่รัฐอัลแบร์ทา ระหว่างวันที่ 25-28 กรกฎาคม นี้ ก่อนจะกลับไปสหรัฐอเมริกา ในรายการพอร์ทแลนด์ คลาสสิก ที่เมืองพอร์ทแลนด์ รัฐโอเอกอน ระหว่างวันที่ 1-4 สิงหาคม โดย ชเนตตี วรรณแสน จะลงป้องกันแชมป์ของเธอ และสัปดาห์ถัดไปไม่มีโปรแกรมเนื่องจากเป็นการแข่งขันกอล์ฟหญิงในกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศฝรั่งเศส


ที่มาของภาพ : Gettyimages
ติดตามช่องทางอื่นๆ:
Website : siamsport.co.th
Facebook : siamsport
Twitter : siamsport_news
Instagram : siamsport_news
Youtube official : siamsport
Line : @siamsport
X