โปรกอล์ฟไทยพร้อมลงสู้ศึกเอเชียน ทัวร์ รายการ "เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2023" ชิงเงินรางวัลรวม 1 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 37 ล้านบาท ซึ่งจะแข่งขัน ณ สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ระยะ 6,606 หลา พาร์ 71 ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน เปิดฉากดวลวงสวิงรอบแรกวันพฤหัสบดีที่ 12 ตุลาคมนี้ โดยมีนักกอล์ฟลงชิงชัยทั้งสิ้น 138 คน
กอล์ฟเอเชียน ทัวร์ สัปดาห์นี้เป็นการแข่งขันรายการ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2023 ซึ่งเป็นหวนคืนสู่เวทีเอเชียน ทัวร์ อีกครั้งในรอบ 6 ปี นับตั้งแต่จัดการแข่งขันครั้งล่าสุดเมื่อปี 2017 โดยได้รับการสนับสนุนจากเอสเจเอ็ม รีสอร์ท ผู้ดำเนินการและผู้พัฒนารีสอร์ทเพื่อความบันเทิงครบวงจรระดับพรีเมียมในมาเก๊า ในฐานะผู้สนับสนุนหลักเป็นเวลา 3 ปี
ความเคลื่อนไหวในรอบฝึกซ้อมและการแข่งขันรอบโปรแอม ผู้เล่นแถวหน้าของทัวร์ประกอบด้วย นิติธร ทิพย์พงษ์ โปรดาวรุ่งของไทยเจ้าของ 3 แชมป์เอเชียน ทัวร์ พร้อมด้วย กากันจีต บูลลาร์ อดีตแชมป์สองสมัยรายการนี้จากอินเดีย, มิน วู ลี ดีกรีแชมป์ดีพี เวิลด์ทัวร์ 2 รายการจากออสเตรเลีย, ไทชิ โค เจ้าของเหรียญเงินบุคลลเอเชียน เกมส์ ที่หางโจว จากฮ่องกง และ หลี่ เฮาตง จอมแกร่งของจีนที่คว้าแชมป์มาแล้ว 7 รายการทั่วโลก ร่วมถ่ายภาพประชาสัมพันธ์การแข่งขันและให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมก่อนการแข่งขันรอบแรกจะเปิดฉากในวันรุ่งขึ้น
สำหรับนักกอล์ฟไทยสัปดาห์นี้นำทัพโดยผู้เล่นมากประสบการณ์อย่าง ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ เจ้าของแชมป์เอเชียนทัวร์ 2 สมัยและอดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2016 และ ชัพชัย นิราช ดีกรีแชมป์เอเชียน ทัวร์ 3 รายการ ต่างตื่นเต้นกับการกลับมาแข่งรายการ มาเก๊า โอเพ่น ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 20 รวมถึง สดมภ์ แก้วกาญจนา โปรหนุ่มแถวหน้าของไทยที่จะลงเล่นเป็นครั้งแรก โดยสัปดาห์นี้มีนักกอล์ฟชาวไทยลงแข่งขัน 31 คน
โปรไช้-ปวิธ ตั้งกมลประเสริฐ นักกอล์ฟวัย 34 ปี ซึ่งเฉือนเพลย์ออฟชนะ อานีร์บาน ลาฮีรี นักกอล์ฟชาวอินเดีย คว้าแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2016 เผยว่า "หลังจากที่ผมชนะในปี 2016 ผมก็ได้เล่นรายการนี้อีกแค่ปีเดียว จากนั้นรายการนี้ก็ไม่ได้จัดอีกเลยมา 7 ปี ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาแข่งอีกครั้งเพราะผมมีความทรงจำดีๆ ที่นี่มากมาย แต่สัปดาห์นี้มีอาการป่วยนิดหน่อยหลังจากแข่งที่สิงคโปร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่วนฟอร์มตอนนี้ดีขึ้นหลังจากที่เล่นไม่ดีช่วงต้นปี สำหรับการเล่นที่สนามนี้ต้องเผื่อลมให้ดี ตั้งเป้าให้อยู่ในฟอร์มการเล่นที่ดีและพัตต์ให้ได้ก็มีสิทธิ ก็พยายามรักษาสภาพร่างกายให้ดีเพื่อเล่นกับสภาพอากาศที่ร้อนได้"
ทางด้าน โปรโจ๊ก-ชัพชัย นิราช จอมเก๋าวัย 40 ปี กล่าวว่า "รู้สึกดีใจที่ได้กลับมาเจอบรรยากาศเก่าๆ สมัยก่อน ได้เจอกับนักกอล์ฟรุ่นเก่าๆ หลายคน และได้ลงเล่นในสนามที่เราคุ้นเคยและตีได้ค่อนข้างดี สำหรับสภาพสนามก็คล้ายเดิม ลมค่อนข้างแรง ส่วนตัวพร้อมและเล่นได้มั่นใจ รู้สึกเล่นได้สนุกมากขึ้น ไม่ได้ตั้งเป้าอะไรมาก ขอทำให้ดีที่สุด"
ส่วน โปรเพชร-สดมภ์ แก้วกาญจนา เจ้าของสองแชมป์เอเชียน ทัวร์ พูดถึงการลงเล่นรายการนี้เป็นครั้งแรกว่า "ผมลงแข่งติดกัน 4 สัปดาห์แล้วก็มีล้านิดหน่อย แต่ร่างกายฟื้นกลับมาได้ปกติแล้ว การเล่นที่สนามนี้ขึ้นกับสภาพลม ถ้าลมแรงก็ทำให้เสริฟยาก หลักๆ คือทีช็อตให้อยู่ในแฟร์เวย์ไว้จะได้เปรียบ ฟอร์มการเล่นช่วงนี้ยังมีเรื่องอุปกรณ์ที่เพิ่งเปลี่ยนมาใหม่ อาจต้องใช้เวลาอีกนิดหน่อยในการปรับจูน ตั้งเป้าจบท็อป 5 หรือถ้าจะดีกว่านั้นก็ต้องดูที่สภาพสนามและการเล่นในแต่วันว่าเป็นอย่างไรด้วย"
ขณะที่หนึ่งในนักกอล์ฟมากประสบการณ์ที่ถูกจับตามองในสัปดาห์นี้อย่าง กากันจีต บูลลาร์ ซึ่งคว้าแชมป์รายการนี้สองครั้งในปี 2012 และ 2017 โดยก่อนหน้านั้นรั้งรองแชมป์เมื่อพ่ายต่อ ถาวร วิรัตน์จันทร์ ในปี 2009 และได้รับยกย่องให้เป็นนักกอล์ฟชาวอินเดียที่ประสบความสำเร็จสูงสุดคนหนึ่ง เจ้าตัวกล่าวว่า "ผมลงแข่งขันรายการมาเก๊า โอเพ่น ตั้งแต่ปี 2007 ซึ่งเป็นปีแรกที่ผมลงเล่นในเอเชียน ทัวร์ แน่นอนว่าผมมีความทรงจำที่ดีมากมายในรายการนี้จากการเป็นแชมป์สองครั้งและรองแชมป์อีกหนึ่งครั้ง ผมรู้สึกดีมากที่ได้กลับมายังมาเก๊าซึ่งมีสถานที่ที่น่าประทับใจทั้งสนามกอล์ฟชั้นยอดและแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำมากมาย"
สำหรับกอล์ฟ เอสเจเอ็ม มาเก๊า โอเพ่น 2023 ยังจัดกอล์ฟวิลเลจให้แฟนกอล์ฟที่เข้ามาชมการแข่งขัน ณ สนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ในสัปดาห์นี้ได้พบกับประสบการณ์สุดพิเศษ เพื่อให้เป็นวันที่สนุกสนานสำหรับเพื่อนและครอบครัว ด้วยเต็นท์ที่นั่งชมการแข่งขันที่กว้างขวาง สะดวกสบาย และมีหน้าจอ LED ขนาดใหญ่สำหรับถ่ายทอดสดและแสดงผลการแข่งขันแบบหลุมต่อหลุม
นอกจากนี้ยังมีบูธของ SJM Resorts ผู้สนับสนุนหลักของรายการ ซึ่งผู้ชมสามารถสัมผัสกับเกมและกิจกรรมที่สนุกสนานกับมาสคอตที่เป็นมิตรของบริษัท พร้อมที่จะทำให้สิ่งต่างๆ มีชีวิตชีวาและน่าจดจำ และยังมีบูธอาหารและเครื่องดื่มโดยทีมงานที่ได้รับการยกย่องจากทางสนามมาเก๊า กอล์ฟ แอนด์ คันทรี คลับ ที่มีให้เลือกสรรทั้งอาหาร ของว่าง และเครื่องดื่มหลากหลาย
ทั้งนี้แฟนกอล์ฟต้องไม่พลาดที่จะเก็บภาพความประทับใจของสนาม ณ บริเวณทีออฟหลุม 10 กับทิวทัศน์อันตระการตาของสนามกอล์ฟเขียวขจีและน้ำทะเลสีฟ้าของทะเลจีนใต้ตลอดสัปดาห์การแข่งขันระหว่างวันที่ 12-15 ตุลาคมนี้