ฝนกระหน่ำสวิงสิงห์ลากูน่ารอบสุดท้ายยกเลิก"นาราจี"สวิงอินโดฯซิวแชมป์

เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 เป็นรอบสุดท้ายของการแข่งขัน ซึ่งกลุ่มสุดท้ายเล่นไปได้เพียง 8 หลุมเท่านั้น ก่อนการแข่งขันต้องหยุดลง ก่อนจะมีพายุฝนตกอย่างหนักจนไม่สามารถดำเนินการแข่งขันจนจบได้ และทำให้คณะกรรมการตัดสินสั่งยกเลิกการเล่นในรอบสุดท้าย และตัดสินแชมป์ภายในการเล่น 54 หลุม ผลปรากฏว่า นาราจี รามาดาน ปุตรา อดีตนักกอล์ฟทีมชาติอินโดนีเซียซึ่งจบรอบสามสกอร์รวม 15 อันเดอร์ คว้าแชมป์ไปครอง เป็นแชมป์แรกในออลไทยแลนด์ฯ และแชมป์ที่ 3 ในเอดีที  

นอกจากนั้นแล้ว นาราจี ยังเป็นนักกอล์ฟต่างชาติคนที่ 2 ที่ได้แชมป์รายการนี้ต่อจาก มิเกล คาร์บัลโล่ โปรชาวอาร์เจนไตน์ และคนที่ 10 ที่ได้แชมป์ในประวัติศาสตร์ออลไทยแลนด์ฯ อีกด้วย สวิงจาก อินโดฯ เผยหลังจบเกมว่า "เรียนรู้อะไรเยอะจากการเล่นใน เอเชียน ทัวร์ และดีใจ ปนมีโชคด้วยที่คว้าแชมป์สำเร็จ ผมรักภูเก็ต เพราะที่นี่เหมือน บาหลี เป็นเมืองท่องเที่ยว และอาหารอร่อยอีกด้วย"

"โปรโจ๊ก" ชัพชัย นิราช ได้รองแชมป์ที่สกอร์รวม 12 อันเดอร์ รับเงินรางวัล 380,000 บาท และอันดับสาม ภูมิ ศักดิ์แสนศิลป์ สกอร์รวม 11 อันเดอร์  รับเงินรางวัล 220,000 บาท  อันดับ 4 ร่วม ที่สกอร์รวม 10 อันเดอร์ ได้แก่ รัญชนพงศ์ อยู่ประยงค์, อิทธิพัทธ์ บูรณธัญรัตน์, นพรัฐ พานิชผล, ยี่ หวอเชง (จีน) และ แจ็ค เมอร์ด็อค  (ออสเตรเลีย) รับเงินรางวัลคนละ 118,800 บาท เอกปริษฐิ์ หวู่  และ อติรุจ วินัยเจริญชัย จบอันดับ 9 ร่วม รับเงินรางวัลคนละ 81,500 บาท 

ด้าน "ทีเค" รัชชานนท์ ฉันทนานุวัฒน ซึ่งเป็นนักกอล์ฟสมัครเล่นเพียงรายเดียวที่ผ่านตัดตัว จบที่อันดับ 34 ร่วม สกอร์รวม 3 อันเดอร์ รับรางวัล "ศุภพร มาพึ่งพงศ์" โดยรายการต่อไปของออลไทยแลนด์ฯ 2023 จะเป็นการแข่งขัน สิงห์ เชียงใหม่ โอเพ่น ชิงเงินรางวัลรวม 3 ล้านบาท ณ สนาม แม่โจ้กอล์ฟ รีสอร์ท แอนด์ สปา วันที่ 8-11 มิถุนายน 2566